ชีวิตชาวนา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 03:45:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตชาวนา  (อ่าน 23009 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 กุมภาพันธ์ 2012, 02:15:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 02:15:PM »
ชุมชนชุมชน


   ฤดูกาล  พรรษา  เวียนมาถึง
อุทกจึง  รินหลั่ง  ดังฟ้ารั่ว
เสียงกบอึ่ง  อึงอล  บนกอบัว
ครึ้มสลัว  หยาดพิรุณ  หนุนเนืองนอง
           
 เกิดเป็นลูก  ชาวนา  พึ่งฟ้าฝน
ต้องดิ้นรน  ตรากตรำ  ผิวคล้ำหมอง
พลิกผืนดิน  ผินให้  กลายเป็นทอง
เลี้ยงปากท้อง  คร่ำหวอด  สืบทอดมา

อัสนี  ก้องครั้งใด  ใจก็หวัง
เกิดพลัง  อุตสาหะ  ตามประสา
แบกคันไถ  จูงควาย  มุ่งปลายนา
เตรียมไถหว่าน  ปักกล้า  งานชาชิน
           
อนาคต  ฝากใส่  ในรวงข้าว
จะยืนยาว  หรือเพิ่ม  เติมหนี้สิน
             กำหนดโชค  ชะตา  โดยฟ้าดิน                  
              คนหยามหมิ่น  นินทา  ว่ามอซอ                  

ฝนสร่างซา  พาฉัน  จิตหวั่นไหว
สัญญาไว้  กับคนรัก  จักสู่ขอ
หลายปีแล้ว  ผ่อนผลัด  นัดเธอรอ
เงินไม่พอ  ขาดแคลน  แสนอับอาย
             
สิ้นฤดู  เก็บเกี่ยว  หน้าเหี่ยวเฉา
ข้าวเปลือกเรา  ด้อยค่า  น่าใจหาย
ขาดทุนจน  ซ้ำซาก  คิดอยากตาย
ฝันสลาย  อีกปี  อดมีเมีย

สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คนเผาถ่าน, รการตติ, Music, Thammada, รพีกาญจน์, sucklife, สะเลเต, เมฆา..., hort39, สล่าผิน, --ณัชชา--, plang, ลมหนาว, yaguza

ข้อความนี้ มี 14 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:37:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #1 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:37:PM »
ชุมชนชุมชน


การทำมาหากินพึ่งดินฟ้า
เราชาวนาคิดไปใจละเหี่ย
หนี้ท่วมท้นทำให้ไม่พอเคลียร์
เพราะเจอเพลี้ยทำลายนาหลายแปลง

จึงพลิกฟื้นผืนนาลงกล้าใหม่
เจอเภทภัยถมซ้ำน้ำเหือดแห้ง
พบศัตรูครั้งใหม่มิใช่แมลง
แต่เจอฝนกลั่นแกล้งแล้งอีกคราว

จึงพลิกฟื้นผืนนาลงกล้าใหม่
มิทันไรน้ำท่วมอ่วมนาข้าว
หมดตัวแล้วเงินสะดุดหยุดพักยาว
เป็นชาวนาปวดร้าว....ใครเล่ารู้
 ลาตายดีกว่าตู
---สะเลเต---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สล่าผิน, sunthornvit, --ณัชชา--, Thammada, plang, รพีกาญจน์, ลมหนาว, yaguza

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:48:PM
สล่าผิน
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 532
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,034



« ตอบ #2 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:48:PM »
ชุมชนชุมชน



คงเพราะเป็นแบบนี้ชีวีขม
พ่อแม่ผมเป็นชาวนาไม่กล้าอยู่
ยอมยกมือมัดตราสังฆ์หมดหวังสู้
หนีทั้งคู่หลบไปไม่ไหวแล้ว

ทิ้งไร่นาให้ร้างให้ว่างเปล่า
ไม่ยอมเอาไปด้วยด้วยใจแป้ว
กลัวนาแล้งนาล่มจมหมดแนว
จึงรีบแจวเขาโลงคงโล่งใจ

พ่อแม่ครับไร่นาผมพาขาย
มิเสียดายตอนนี้ขี่รถใหม่
ขายที่นาพารถขับบดไป
ขายนาไรเพราะไร้คนสนใจดู

สล่าผิน

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, --ณัชชา--, sunthornvit, Thammada, รพีกาญจน์, ลมหนาว, yaguza

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ชายใจคอนโด
11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:58:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« ตอบ #3 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 08:58:PM »
ชุมชนชุมชน


ยังมีอีก หนึ่งภัย ร้ายที่สุด
คือมนุษย์ ผู้เอาเปรียบ เหยียบจมหู
เหล่าพ่อค้า ใจเหือด รีดเลือดปู
ใช้เหลี่ยมคู เล่ห์กล จนชาชิน

อ้างความชื้น ลดน้ำหนัก หักตาชั่ง
โกงกินทั้ง ระบบ มิจบสิ้น
ชาวนาจึง ชอกช้ำ น้ำตาริน
เป็นหนี้สิน ทั้งชาติ อนาถจริง

ลงช้ากว่าสล่าผินอีกแล้วครับท่าน
สุนทรวิทย์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สะเลเต, สล่าผิน, Thammada, plang, รพีกาญจน์, ลมหนาว, yaguza

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
11 กุมภาพันธ์ 2012, 09:25:PM
sunthornvit
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 777
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,076



« ตอบ #4 เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2012, 09:25:PM »
ชุมชนชุมชน



คงเพราะเป็นแบบนี้ชีวีขม
พ่อแม่ผมเป็นชาวนาไม่กล้าอยู่
ยอมยกมือมัดตราสังฆ์หมดหวังสู้
หนีทั้งคู่หลบไปไม่ไหวแล้ว

ทิ้งไร่นาให้ร้างให้ว่างเปล่า
ไม่ยอมเอาไปด้วยด้วยใจแป้ว
กลัวนาแล้งนาล่มจมหมดแนว
จึงรีบแจวเขาโลงคงโล่งใจ

พ่อแม่ครับไร่นาผมพาขาย
มิเสียดายตอนนี้ขี่รถใหม่
ขายที่นาพารถขับบดไป
ขายนาไรเพราะไร้คนสนใจดู

สล่าผิน

ขายที่แล้ว จึงมั่งคั่ง นั่งนับทรัพย์
มิยอมกลับ บ้านป่า บอกว่าเหงา
เที่ยวผับบาร์ ปลาบปลื้ม ลืมอู่เนา
ดื่มน้ำเมา เคล้าอีหนู ดูผินทำ

ก่อนเคยชวน เพื่อนฝูง จูงกันเที่ยว
ตอนนี้ท่าน ฉายเดี่ยว เฮี้ยวจนหนำ
ปล่อยสุนทรฯ ตะรอน นอนระกำ
ช่างใจดำ เย่อหยิ่ง ทิ้งเพื่อนลง

เพื่อนสล่าครับ เอาคำสุดท้ายคืนมาครับไม่ต้องเปลี่ยนครับ

สุนทรวิท�

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : plang, รพีกาญจน์, Thammada, ลมหนาว, yaguza

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s