แววชีวันฤๅฝันขวัญสลาย
เลือนหายไปแล้วแก้วในอกเอ๋ย
คงสถิตย์ติดสนิทลมรำเพย
และระเหยเหือดแห้งกับแสงดาว
ขออ้อนวอนไหว้ไว้ด้วยดวงจิต
ทั้งอุทิศปณิธานผ่างห้วงหาว
หวังนวลเจ้าอย่าคลายวายแสงพราว
แลเสื่อมวาววับวูบเพียงลูบลม
หอมเอยหอมบุหงาผกาพฤกษ
รำลึกมิสร่างซาสักเศษผม
กลิ่นสุคันธ์กระหวั่นคล้องอารมณ์
ก็ระทมมิจางหายคลายอุรา
แลเงาเหงาเงียบเหยียบย่ำซ้ำ
ตอกย้ำกระหน่ำเสียจนอนาถา
ศักดิ์ศรีมีเหลือหรือจักตรึงตรา
อย่าหาฤาหมายจักได้เจอ
สั่นสะทกตกต้องหมองหม่นแล้ว
ดวงแก้วแววร้าวสิ้นพราวเสนอ
มานรติมีฝันสวรรค์ละเมอ
เพ้อหวังอยู่ไหวไหวพระพายชโลม
จนซีดสิ้นเลือดมิเหลือเนื้อ
เชือดเถือกระจายแหลกแยกทั้งโฉม
ถ้อยสำเนียงเพียงจะเอื้อนเอ่ยโอม
พร่างพโยมก็จมหายไม่เห็นตา
โปรดคืนหยิบยื่นนิรมิต
เพียงกนิษฐ์มโนนั้นปรารถนา
ที่หายวายแล้วแก้วอุรา
โปรดคืนมาสู่ขวัญนิรันดร์เอย
สิตางศุ์
๐๕๐๑๒๕๕๕