(กะโลง)
๐ ดอกป่าฤาดอกคุ้ม อุทยาน
จ้อล่อตะล่อมบาน บ่ะก้าย
แดงขาวม่ะใจ้การ ก๋ำหนด ไผงาม
ผู้สาวยิ่งซ้ำฮ้าย ผ่อล้วนคคนางค์
๐ บางขาวยาวต่ำตุ้ย คิลิดำ
ดอยหล่อวังวียงคำ ข่าเย้า
ไหมทองซิ่นฝ้ายกรำ โคลนฝาด
ครุยงอบใดป้องเค้า ข่มแท้แม่งาม ฯ
(ค่าว)
งามป่างามดอย ดอกร้อยเรียงฟ้า งามลุ่มหลากท่า ชุ่มเหล่าข้าวเขียว
งามธารงามน้ำ จ้างเลยเคยเหลียว แต่โลกตึงเซียว ขาดแม่ญิงย่าง
ดอกโยมเฉาดาย เดือนพากระด้าง สูรย์พร่ามัวมน มืดนั้น
ไผนออู้จา เลือกชมเป๋นชั้น จะอี้จะอั้น ตึงงาม
ต้องขาวโจ๊ะโล้ะ ฮูบล้ำล้นหลาม ตาคมผมคราม เอวอ่อนอ้อนแอ้น
สวมเงินสวมทอง พ่อต๋ายซ้ำแม่น ตี้ดำก่ะดาย เดียวเงอะ
ตามแต๊แม่ญิง ผ่อหื้อลึกเต๊อะ ทะร่าทะเร่อะ เพียงใด
มองแลแค่เค้า จะฮู้จ๊ะได๋ ตึงมีวิไล กุ๊นามกุ๊ผู้
ผ่อหน้าม่ะงาม ฮีบเย้ยฮีบลู่ แก้วผินเพชรพลอย วุ่นวัก
จึงบอกป้อจาย อย่าเลือกหื้อน้ก ผ่อตั๋วก่ะได้ งามฤา
วันพรุ่งวันฮือ งามกะเปลี่ยนสิ้น ใช่จิ๊นเลือกใจ ก่อนแลนายเหย ฯ
พรายม่าน
สันทราย
๐๙.๑๒,๕๔
หมายเหตุ ไปพบ”กะโลง” กับ “ค่าว” ซึ่งเป็นคำประพันธ์ของล้านนา กล่าวกันว่า “กะโลง” นั้นเป็นต้นแบบของโคลงสี่ที่ไทยนำมาประยุกต์ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา จึงลองนำมาแต่งดู คำเมืองที่ใช้อาจมีประดักประเดิดอยู๋ ก็ต้องขออภัยผู้ใช้คำเมืองไว้ ณ ที่นี้