สวรรค์.....บ้านนา
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
24 พฤศจิกายน 2024, 05:22:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สวรรค์.....บ้านนา  (อ่าน 17819 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 พฤษภาคม 2011, 02:09:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2011, 02:09:PM »
ชุมชนชุมชน


มองทุ่งนามาถิ่นนี้มีความหลัง
ทำนาปรังทั้งนาปีเขียวขจีทุ่ง
ปูในนาปลาในน้ำหนองต้องผดุง
หมายจรุงมุ่งจิตรักษ์พิทักษ์ไว้

ที่ทำกินถิ่นฐานเก่าบ้านเรานั้น
เช้าตื่นพลันฉันเตรียมพร้อมชะลอมใหญ่
เดินเก็บผักดักกุ้งพาหรรษาใจ
ชอบเลี้ยงไก่ใช้ลาบแกงใกล้แปลงนา

เก็บกระถิ่นกินกันทั่วข้างรั้วไผ่
ก่อกองไฟใกล้กอฟางข้างเคหา
กอบัวบานก้านบัวใบวิไลตา
เมนูปลามานั่งเปิบอิ่มเอิบใจ

เช้าเก็บไข่ใช้ไก่ขันปลุกฉันตื่น
ยามดึกดื่นยืนดูดาววับวาวใส
พ่อแม่ลูกผูกมัดรักสลักใน
อุ่นละไมไอรักมาพาร่มเย็น
 
ศาลาน้ำสำหรับนั่งฟังหรีดหริ่ง
พ่อเอนอิงพิงอุ่นไอไร้ทุกข์เข็ญ
สวรรค์สร้างสว่างสุขทุกคืนเพ็ญ
ปลดลำเค็ญเป็นล้ำค่าบ้านนาเรา

--- สะเลเต ---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สล่าผิน, --ณัชชา--, ระนาดเอก, คอนพูธน

ข้อความนี้ มี 4 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2011, 09:00:PM
เมฆา...
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 698
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 624


..............


« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2011, 09:00:PM »
ชุมชนชุมชน








๐ ดอกลำดวนล้วนเด่นเป็นพวงพุ่ม
แลนวลชุ่มนุ่มชื้นหลังคืนเหงา
กลีบขาวบางข้างบนแลมนเงา
ตรึงอกเราเอาร่างมองค้างเทียว

๐ งามยิ่งล้นยลเลิศบรรเจิดจิต
ท่ามชีวิตชิดแว่วทุ่งแก้วเขียว
มรกตหมดระกำจับด้ามเคียว
โอบกรเรียวเกี่ยวรวงตรึงห้วงใจ

๐ กลางทุ่งวันธันวาข้าวกล้าสุก
ความสันต์ปลุกสุขเปล่งครื้นเครงใส
คราบรอยยิ้มริมหยาดแม้นชาดใด
หาพริ้มได้พรายเด่นเช่นชาวนา

๐ อยู่อย่างน้อมยอมเหนื่อยแม้เมื่อยบ้าง
พอเพียงอย่างพางยกถกปัญหา
ตรองล้นเกล้าเหล่ากลึงถึงปรัชญา
ที่ราชาราชันย์...ท่านแนะทาง..ฯ








***เมฆา...***

ปล.1 ชาด ในทีนี้ผมหมายถึงลิปสติกครับ
ปล.2 ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บอม ซอง ดุ๊ก, สล่าผิน, --ณัชชา--, บ้านริมโขง, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..สัมผัสทิพย์ปรารถนาอารมณ์แล้ว..
10 พฤษภาคม 2011, 09:25:AM
ปุถุชน ฅนธรรมดา
Special Class LV3.9
นักกลอนรอบรู้กวี

***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 102
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 120


~** กวีจร กลอนร่าย มั่นรัก อักษรา **~


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2011, 09:25:AM »
ชุมชนชุมชน




ไสวเรียว เขียวขจี ที่ท้องทุ่ง
กลิ่นจรุง ไอดิน ที่ถิ่นเหงา
เถียงนาน้อย คล้อยเบี่ยง คอยเคียงเงา
สายลมเคล้า ฝนปรอย ค่อยฉ่ำเย็น

ที่ลงแรง แปลงปลูก ทุกต้นข้าว
คือแรงเรา หยาดเหยื่อ เมื่อทุกข์เข็ญ
ด้วยใจจิต ปลิดปลิว ริ้วลำเค็ญ
หทัยเห็น ชื่นพราว เมื่อข้าวรวง

สู้ทนรอ ต่อทำ ถึงลำบาก
ทุกข้าวจาก แรงหยาด ผงาดสรวง
ของชาวนา พาฝัน สู่จันทร์ดวง
หมายจะล่วง เลยผ่าน วันตรอมตรม

ปลูกข้าวเขียว เรี่ยวแรง ที่ลงรัก
ในอาชีพ ฟูมฟัก ถึงหนักขม
น้ำตาย้อย ค่อยซึม ลืมระทม
คราข้าวฉม ชูช่อ รอเรียวรวง

จักแย้มยิ้ม พริ้มพราย เมื่อขายข้าว
น้ำตาร้าว ปรอยตก อุทกร่วง
ด้วยข้าวคำ จากจิต ลิขิตดวง
ไม่อาจล่วง เลยทุน ที่ลงแรง

เป็นวงจร ชีวิต ที่ขีดไว้
ชาวนาไทย โหยไห้ หัวใจแห้ง
น้ำตานอง หมองเศร้า ข้าวของแพง
ที่ลงแรง ขาดท้อ ไม่ต่อทุน

แต่ใจรื่น ชื่นจิต ชีวิตสุข
เมื่อข้าวปลูก เขียวขจี ที่ท้องทุ่ง
เมื่อรวงทอง ผ่องอำไพ ไสวปรุง
ให้ท้องทุ่ง อร่ามงาม ยามล้อลม

ก้มหน้ารับ ปรับทุกข์ กับผืนหญ้า
ยามร้องไห้ น้ำตาฟ้า มาล้างข่ม
ยามเผยยิ้ม ให้ดินแย้ม แซมระทม
ก็สุขสม ชีวิตร้าว ชาวนาไทย ฯ




~* ปุถุชน ฅนธรรมดา *~

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : สล่าผิน, รพีกาญจน์, --ณัชชา--, บ้านริมโขง, พี.พูนสุข, ระนาดเอก, น้ำปลาปลอม

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 สิงหาคม 2011, 03:56:PM
สะเลเต
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1101
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,335


ขอขอบคุณ..ภาพจากอินเตอร์เน็ต


« ตอบ #3 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2011, 03:56:PM »
ชุมชนชุมชน

เสียงไก่ขันประชันเริ่มวันใหม่
นาฬิกากลางไพรไขเรียกขาน
เอ้กอีเอ้กเอ้ก...เพรียกดังเสียงกังวาน
ตะวันรุ่งพุ่งผ่าน...ที่บ้านนา

มองใบข้าวเขียวขจีสีสดใส
พริ้วก้านใบไหวเอนเบนซ้ายขวา
เหมือนยั่วเย้าหยอกเอินเพลินอุรา
หมู่นกกาถลาร่อนออดอ้อนกัน

เสียงน้ำค้างหยดดังบนสังกะสี
ดุจดนตรีบรรเลงบนเพลงสวรรค์
ความชุ่มชื่นงดงามตามตะวัน
แสงทอดพลัน..น้ำค้างก็จางไกล

หอมกรุ่นกลิ่นกองฟางข้างนาข้าว
กระยางขาวเสาะหาปลาน้อยใหญ่
ดอกโสนช่อเคียงเรียงวิไล
กิ่งก้านไผ่พริ้วแกว่ง....ตามแรงลม

สนธยามาเยือนเคลื่อนแทนที่
ม่านราตรีคลี่ขยายหมายห่อห่ม
หรีดเรไร...ร้องสั่งดังระงม
รอชื่นชมจันทร์งาม...ยามราตรี
 
--- สะเลเต ---

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : คนเผาถ่าน, สล่าผิน, เมฆา..., รพีกาญจน์, --ณัชชา--, พี.พูนสุข, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
08 สิงหาคม 2011, 06:51:PM
คนเผาถ่าน
Special Class LV4
นักกลอนรอบรู้กวี

****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 129
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 297


FROM HERE TO ETERNITY


profile.php?id=10000208
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2011, 06:51:PM »
ชุมชนชุมชน



ว่างจากงานครั้งใดได้กลับบ้าน
คืนวิมานอำไพไร้แสงสี
ถึงลำบากก็สุขทุกนาที
พบน้องพี่สุขสันต์สำราญใจ

พบแฟนเก่าคราวผ่านชั้นประถม
เคยชื่นชมผูกสมัครแถมรักใคร่
มาวันนี้แฟนเราเขาเปลี่ยนไป
มีแฟนใหม่..ลูกสองแล้ว..แห้วรับประทาน

 ลาตายดีกว่าตู
natcha

เห็นภาพเก่าครั้งเราเคยวิ่งเล่น
เช้าสายเย็นเป็นเงาเราขับขาน
ที่ริมคลองข้ามคูปูกระดาน
เคยย่างผ่านหยอกเอินเพลินตกคลอง

น้องเจ้ายื่นมือนิ่มตรงริมฝั่ง
พี่ฉุดรั้งน้องเคียงเสียงร้องก้อง
ระเริงเล่นเช่นรู้คู่หมายปอง
จะขอจองเธอไว้ในนิรันดร์

แล้วเวลาพาใจเธอให้เปลี่ยน
อุตส่าห์เพียรทำงานเพื่อสานฝัน
เก็บเงินไว้สู่ขอเฝ้ารอวัน
เธอมาผันแปรเปลี่ยน เจ็บเจียนตาย

เวลาผ่านนานนักพบรักใหม่
รักษาใจผนึกแผลลึกหาย
แต่ก้นบึ้งใจแม้นแสนเสียดาย
รักที่หมายใจปอง..น้องณัชชา

คนเผาถ่าน (แฟนเก่า)



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, รพีกาญจน์, สะเลเต, --ณัชชา--, เมฆา...

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ด้วยฤทธิ์แรงแห่งรักสลักจิต   จึงลิขิตบทกลอนอักษรศิลป์
09 สิงหาคม 2011, 01:03:AM
--ณัชชา--
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 2081
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,304


เวลาเปลี่ยนไปใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง


pim
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2011, 01:03:AM »
ชุมชนชุมชน


ที่ต้องลาพี่ไกลเพราะใจคิด
หากชีวิตฝากไว้ใจโหยหา
กลัวตัวดำพอพอ..จรกา
จึงตั้งหน้าหาทางจะห่างไกล

ขออวยพรให้พี่มีความสุข
ให้สนุกอีกหนตั้งต้นใหม่
ขอให้พี่เผาถ่านสำราญใจ
อยู่ไม่ไหวหรอกตัว"เค้ากลัวดำ"

 น้อยใจแล้วด้วย
natcha

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, ดอกกระเจียว, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, เมฆา..., คนเผาถ่าน

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

09 สิงหาคม 2011, 01:13:AM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #6 เมื่อ: 09 สิงหาคม 2011, 01:13:AM »
ชุมชนชุมชน


อย่ากลัวเลย  เอ๋ยน้อง  พี่มองออก
ทำมาหยิก  แก้มหยอก  หลอกให้ขำ
หรือรังเกียจ  พี่เขาจน  คนมีกรรม
อ้างกลัวดำ  ดำกลัว  ตัวไม่ชิน

ดำกับขาว  คู่กัน  นั้นจริงแท้
ไหงมาแหย่  ว่ากร้าน  เหมือนถ่านหิน
ถึงจะดำ  ก็ดำขำ  ใช่ดำดิน (ไม่ใช่ขอม)
โฉมยุพิน  กลัวดำ  ไปทำไม ?

คิดไม่ออกละ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : --ณัชชา--, ดอกกระเจียว, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, คนเผาถ่าน

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s