วันวาน ยังหวานอยู่เด้อ!!!
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:42:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันวาน ยังหวานอยู่เด้อ!!!  (อ่าน 4998 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
11 มีนาคม 2011, 02:59:PM
มะเขียบ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 141



เว็บไซต์
« เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 02:59:PM »
ชุมชนชุมชน



 วันวิทยาศาสตร์

ในทุกปีทางโรงเรียนจะจัดนิทรรศการขึ้นเมื่อถึงวันนี้ สถานที่อาคารโรงอาหารที่ใช้เป็น หอประชุมด้วยในสมัยนั้น มีซุ้มต่างๆในงานมากมาย(ยกเว้น สาวโคโยตี้) จะมีก็คงสาวโคโยต้า หนึ่งเดียว ผู้เป็นหลักดำเนินการและรับผิดชอบนิทรรศการครั้งนี้ ท่านเป็นหัวหน้าหมวดวิทยาศตร์(คิด ฮอดดอกเลยได้บอกถึง)ท่านอาจารย์ ไมล์ พานนนท์
สนามบาสเกตบอลหน้าชอปอุตสาหกรรม ก็จัดเป็นสนามเล่นเกมส์วันวิทยาศาสตร์
ข้าน้อยตอนนั้นอยู่ม.๖ อาจารย์วราพิชญ์ครูผู้สอนวิชา เคมี มอบหมายให้ข้าน้อยทำธูปดอกไม้ไฟ ไว้แจกในงาน
..ส่วนผสมก็ใช้สารเคมีต่างๆในห้องวิทยาศาสตร์ ใช้น้ำตาลแทนถ่านไฟคงเพราะเป็นคาร์ บอนเช่นกัน อีกอย่างน้ำตาลจะสดวกสะอาดกว่าถ่านนั่นเอง
เลือกสรรสารเคมีได้ตาม สูตรก็นำมาผสมกัน บดจนละเอียดเป็นผงด้วยครกและ*เสือกระ บาก*ทดลองจุดด้วยไฟ แปลกดี น้ำตาลลุกไหม้เช่นเดียวกันกับดิน ปืนยังไงยังงั้น นำธูปตลาดธูปที่ใช้จุดบูชามาทากาวลาเท๊กซ์ แล้วพอกด้วยสารเคมีที่ทำไว้ ตากให้แห้ง
ธูปดอกไม้ไฟเป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะแจกได้
ในวันงาน ธุปดอกไม้ไฟได้รับความสนใจเป็นอ ย่างดีหมดเร็วมากจนต้องทำ ขึ้นเพิ่มอีกในวันนั้น ตรงซุ้มข้างกันเป็นซุ้มภูเขาไฟจำลองนำเสนอเรื่องปฏิกริยาดูดความร้อนมีรุ่นน้องม.5เป็นพรีเซนเตอร์ทั้งชายและหญิงจำนวนหนึ่ง การนำเสนอจะใช้โปรตัสเซี่ยมเปอร์มัง กาเนต(ด่างทับทิม)ผสม กับกลีเซอรีน(ข้นเหลว)ห่อด้วย กระดาษแห้ง(เชื้อ) จากนั้นนำไปใส่ไว้ในปล่องภูเขาไฟจำลองไม่นานก็เกิดปฏิกิริยาดูดความร้อน ลุกไหม้เป็นไฟขึ้น ซุ้มนี้เด็กๆม.ต้นจะเยอะเป็นพิเศษ คงด้วยเพราะการนำเสนอเป็น ดั่งการเล่นกลนั่นเอง ภูเขาไฟจำลองมีขนาดประมาณถังใหญ่ที่ใช้ตักน้ำทั่วไป ทำจากปูนปาสเตอร์ตกแต่งด้วยสี ให้เหมือนภูเขาหินเช่นยุคจูรา สสิก
ภูเขาพ่นไฟ
ทางข้าน้อยก็จุดธูปดอกไม้ไฟด้วย
ควันกุ๊บทีปในบริเวณนั้น
สัก พักด้วยความขี้เล่นขี้สงสัย การลองผิดลองถูกที่มีเสมอใน ช่วงของวัยรุ่นตอนต้นก็เริ่ม ขึ้น น้องๆจากซุ้มภุเขาไฟมาขอมวลสาร ที่ข้าน้อยใช้ทำธูปดอกไม้ไฟ จะเอาไปใส่ปล่องภูเขา ข้าน้อยก็ให้ไปหนึ่งบิกเกอร์ใหญ่แล้วก็ตามไปด้วยเพื่อความเร้าใจ
มวรสารทำธูปดอกไม้ไฟตักด้วยช้อนหยอดลงตามหลังห่อของด่างทับทิมผสมกลีเซอรีนเกิดปฎิกิริยาลุกไหม้เช่นเดิม แต่ครั้งนี้แรงขึ้นสะเก็ดไฟพุ่ง ขึ้นสูงเป็นประกายเร้าใจวัย รุ่นยิ่งนัก พออ่อนแรงประทุ หลายคนก็ยั่วยุให้ตักมวลสารเติมอีก สนุกสนานกันถ้วนหน้า ตักใส่จนกระทั่งปล่องภูเขาไฟเป็น เหมือนเตาหลอมโลหะ คาดว่าคงเกิดจากกำมะถันสารตัวนี้จะเผาใหม้ได้ช้ารวมกันตกตระกอนนอนก้นเดือดปุดๆข้างในปล่องภูเขาไฟ
บักใด๋บุ๊มือบอน ขณะที่ปล่องภูเขาไฟเดือดด้วยกำมะถัน อยู่นั้น บักมือบอนนั่ันหละเอาหลอดหยด หยดน้ำฉีดลงไปในปล่อง
บ รึ้ ม ม ม ม !!!
แตกซะ วิ่งตำกันตกโต๊ะก็มี ร่วมกันเจ็บแสบไปคนละเล็กละน้อย
ที่หนักหน่อยน้องคนนึงโดนสะเก็ดระเบิดจากภูเขาไฟจำลองจนดังวีก
นี่หละน้อ เขาว่า
"วันวาน ยังหวานอยู่"
นึกถึงทีไรให้ได้อมยิ้ม...ทุกที


ปล.
(แปลลาว) คำว่า"เสือกระบาก"กับ"ดังวีก"ท่าน ผู้อ่านแต่ไม่ทราบในความ หมายก็ขอให้ไปหาความหมายกันเอา เองเถิด

จบดอก
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอยิ้มด้วย...โลกสวยงาม
11 มีนาคม 2011, 03:06:PM
มะเขียบ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 141



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 03:06:PM »
ชุมชนชุมชน



วันวาน ยังหวานอยู่ /๒


ในการสอบมิดเทอมครั้งนึง รายวิชาที่หนักเติบ(คำนวณ)
ท่านอาจารย์ผู้สอนผู้ออกข้อสอบ มีข้อสอบคะแนนฟรีให้สามข้อ(กราบรำรึกในพระคุณ) อาจารย์ใดบุ บ่บอกดอก

38.กา เอ๋ยกาบินมา...?
ก.มาม่า
ข.ยำยำ
ค.ไวไว
ง.คั่วหมี่

39.พ่อ ขุนรามคำแหงครองกรุงสุโขไหน?
ก.พม่า
ข.ไทย
ค.ลาว
ง.เขมร

40...44 เลขจำนวนนี้อ่านว่าอะไร?
ก.สี่กับสี่
ข.สี่สิบสี่
ค.สี่สี่
ง.4แล้ว4อีก
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอยิ้มด้วย...โลกสวยงาม
11 มีนาคม 2011, 03:11:PM
มะเขียบ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 141



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 03:11:PM »
ชุมชนชุมชน



.....
วันวาน ยังหวานอยู่ /๓

"แม่ของใคร"

๑๒ สิงหาคม ของทุกปี..ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรม ในวันสำคัญเช่นวันนี้อยู่เสมอ
"วัน แม่แห่งชาติ" ท่านอาจารย์ พรรณี สมบัติธีระ ศิษย์เก่าเมืองพลพิทยาคมหลายๆท่านคงรู้จักดี ในเขตภาคอิสานหรือจะนับรวมระดับ ประเทศ หาคนเฉกเช่นท่านอาจารย์พรรณีนั้ นอยากนัก อาจารย์พรรณีสอนพุทธศาสนา
สอนทั้งกายและใจของท่าน
อาจารย์ พรรณีนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลแปด ฉันเจ(มื้อกลางวันมื้อเดียว) ท่านอาจารย์เป็นที่เคารพเลื่อมใสในบรรดาลูกศิษย์ทุกคนตลอดถึงบุคคลที่รู้จักคบหาสมาคมกับท่าน ในวันแม่แห่งชาติ รู้สึกตอนนั้นข้าน้อยเรียนอยู่ ชั้นม.5 ท่านอาจารย์พรรณีกำหนดให้ลูกศิษย์ ทุกคนที่ท่านสอนนำมารดา มาร่วมงานในพิธีกราบรำรึกพระ คุณในพิธีวันแม่แห่งชาติที่ ทางโรงเรียนจะจัดขึ้น สถานที่ก็หม่องเก่าโรงอาหารที่สมัยนั้นใช้เป็นหอประชุมด้วย
การเตรียมงาน จัดสถานที่ อาจารย์ให้หาเสื่อ(บ้านเฮาเอิ้น สาด)นำเสื่อมาจัดบอร์ดนำเสน อเรื่องราวของพระคุณแม่ติด แขวนทั่วรอบบริเวณงาน ห้องม.5ทับห่าห้องของข้าน้อยเลือกคำขวัญเขียนติดกระดาษชาร์ทว่า
"สะท้านภพจบฟ้าท้านภางค์ พระคุณแม่อ้าง อาจสู้จักรวาล"
ลูกศิษย์หลายๆคนช่วยกันติดเสื่อ จัดสถานที่จนเสร็จเรียบร้อย
วัน งานต่างก็พาแม่มาร่วมงาน อบอุ่มชื่นอกชื่นใจไปตามๆกัน ด้วยว่าตอนนั้นเราทุกคนมีแม่รวม กันนับร้อย ชื่นใจสำหรับเพื่อนหลายๆคนวิ่งเต้นต้อนรับปรนนิบัติผู้ซึ่งมาในงานนามว่า"แม่"
ตามกติกาคำ สั่งของอาจารย์ลูกศิษย์ ทุกคนต้องนำแม่มาเชคชื่อ ให้เรียบร้อยเป็นรายๆไป เว้นไว้แต่ติดธุระมาไม่ได้หรือท่านเสียชีวิตไปแล้ว
การเชคชื่อ เริ่มต้นในขณะที่ช่วย กันต้อนรับแม่ นำแม่ไปทำความรู้จักกับอาจารย์ อาจารย์จะเชคชื่อตรงนี้แล้วพาแม่ไปนั่งตรงเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้
การลักไก่ก็เกิดขึ้น ลูกศิษย์ที่หัวเสบางคนที่ไม่ได้น ำแม่มา มีการยืมแม่ของเพื่อนคนอื่นไป เชคชื่อก็มี
จวบกระทั่งเริ่มงาน ท่านอาจารย์พรรณีลุกเดินตามหาลูกศิษย์ที่ไม่ได้พาแม่ไปเชคชื่อ มาถึงตรงนี้เข้าใจในความรักที่มีต่อลูกศิษย์ของท่านทุกคน ท่านคงไม่ถึงกับเข้มงวด แต่ที่ตามเชคชื่อนั้นท่านก็คง เป็นห่วงว่าลูกศิษย์ของท่านจะ ไม่ได้แสดงความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีพระคุณในวันสำคัญนี้
มา ถึงบักบุญทันเพื่อนร่วมห้อง5/ห่า ของข้าน้อยนี่เอง อาจารย์พรรณีถาม
"ไหนคุณแม่ บุญทัน"
บุญทัน ยกมือพนมไหว้ด้วยความนอบน้อม
"แม่ ผมตายแล้วครับ"บักบุญทันตอบ
ใน ขณะนั้นเองมีเสียงร้องตวาดอย่าง ดังตรงแถวหลังของเก้าอี้ ในบริเวณจัดงานวันแม่แห่งชาติ
"ป๊าดถิ โธ บักบูญทัน แม่มรึงยุหนี่"
ฮากันทั่วทั้งหอประชุม
บักบุญทัน ไม่รู้ว่าแม่ของมันมา มารู้ทีหลังเพื่อนของแม่มันเป็น คนพามาร่วมงานวันแม่เพราะลูก ของเขาก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ พรรณีเช่นกัน
นั่งยิ้มคนเดียวอีกทีเมื่อรำรึกถึงวันนั้น
บันทึกการเข้า

ขอยิ้มด้วย...โลกสวยงาม
11 มีนาคม 2011, 03:16:PM
มะเขียบ
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 141



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 11 มีนาคม 2011, 03:16:PM »
ชุมชนชุมชน




.... วันวาน ยังหวานอยู่ /๔

"ลัก(ไส้)ไก่"

...วันเปิดเทอมใหม่เลื่อนชั้นขึ้นม.5 สดใสในวันใหม่ๆ ของปีการศึกษาใหม่ แต่ยังทับห่าเช่นเดิม 5/ห่าคือชั้นเรียนเมืองพลพิทยาในตอนนั้น ตื่นเต้นกับการคาดหวังร่วมกันกับเพื่อนๆผู้ชายห้องห่า คาดหวังตั้งเป้าหมายกันตั้งแต่ยังไม่ปิดเทอม รับน้องใหม่คือเป้าหมาย...ฆึฆึ ว่ากันว่าน้องๆโรงเรียนพล(ตรงข้าม มพค.)ที่มาเรียนต่อม.4ที่นี่ หวานๆกันทั้งนั้น ต่างก็โอ่ ต่างก็โชว์สะเต๊ปว่าจะหากิ๊กน้องใหม่มานั่งกินข้าวเที่ยงให้ดูเป็นขวัญตา ซะเมื่อไหร่ที่ข้าน้อยจะหงอหลบคนโอ่ วันรับน้องใหม่มาถึงต่างก็เหล่ต่างก็มองหา อิอิข้าน้อยก็หาและเลงเอาไว้ ไม่นานเท่าไหร่สะพานรักสาระสินก็ถูกวางพาดบนโต๊ะห้องสมุดในวันที่สบโอกาส ชื่อน้องอี๊ดบ้านค้าขายที่หอกระจายข่าวเมืองพล...เฝ้ามองเฝ้าทักจนเริ่มจะ สนิทกัน อุปสรรคนั้นหนักสำหรับคนอ่อนแอ รักแท้ย่อมรู้แก้อุปสรรค(วาซั่น) น้องอี๊ดขี่จักรยานไปกลับระหว่า่งบ้านและโรงเรียน ข้าน้อยนั้นปรกติจะหรอยขึ้นรถรับส่งนักเรียนที่มารอรับนักเรียนตอนโรงเรียน เลิก คันไหนผ่านตลาดเมืองพลข้าน้อยจะหรอยขึ้นเป็นประจำ แล้วต่อรถกลับหนองสองห้องอำเภอติดกันกับเมืองพลซึ่งบ้านข้าน้อยอยู่นั่น อุปสรรคก็คือหลังเลิกเรียนไม่ได้หวานนั่นเอง คนละแนวทางการกลับบ้าน แผนการก่อการร้ายของโจรป่าละเมาะก็เริ่มขึ้น(ป่าละเมาะข้างอาคาร4คือที่ทำ การ) ตกลงกันว่าจะลักถอดไส้ไก่ล้อรถรถจักรยานของน้องอี๊ด แล้วก็มีคนอาสาแลกกับกรองทิพย์หนึ่งซอง(ยุต่ำกว่า18มิควรเอาเยี่ยงอย่าง) งานสำเร็จเป็นไปตามแผนของโจรป่าละเมาะทุกประการ เลิกเรียน ข้าน้อยเดินไปหาน้องอี๊ดยังโรงจอดรถจักรยาน ด้วยท่าทางอันมาดมั่นแนวสุภาพบุรุษ อาสาจูงรถกลับบ้านให้ เป็นผลสำเร็จ จูงรถไปคุยหยอกล้อกันไปหวานชื่นยิ่งนัก ไม่นานเท่าไร มีรถกระบะที่วิ่งสวนทางมาแล้วจอดตรงข้าน้อยกับน้องอี๊ด พ่อน้องอี๊ด(พ่อเถ่า)ขับรถมาหาคงเป็นห่วงที่ไม่เห็นกลับบ้าน ช่วยกันยกจักรยานขึ้นท้ายรถ น้องอี๊ดยิ้มให้ขณะขึ้นไปนั่งบนรถ "ไปนำกันบ่ พ่อสิไปส่ง?" พ่อน้องอี๊ดถาม ในตอนนั้นเกร็งประหม่า ในใจก็กลัวว่าการลักไส้ไก่ของเราความลับจะแตก "บ่เป็นหยังดอกครับ เด๊่ยวกะฮอด(ถึง)บขส.แล้ว" ข้าน้อยตอบแบบสั่นๆ "จั่งซั่น(ถ้ายังงั้น)พ่อไปเด้อ" เอ้อ!!(ข้าน้อยตอบในใจ) ซวงวาบ ............ นี่ถ้ากล้ากล้าหน่อยขึ้นรถไปกับน้องอี๊ดและพ่อเถ่าทำความรู้จักกันให้คุ้น เคย ป่านนี้ก็คงจะได้เป็นเขยเมืองพลกับคนอื่นเขาแล้ว อาจจะได้นั่งขายหม่ำ ซึ่งตอนนี้รายได้ดีมากสำหรับคนเมืองพล สมน้ำหน้าตัวเอง หม่ำต่อนเดียวเจ้าของยังขายบ่ออก เท่าทุกวันนี้............


    *
    *
      ถูกใจน้อง เป็นสาวขอนแก่น เด้อคร้าาา
    *
          o
            น้องเป็นสาว ขอนแก่น เด้อคร้าาา ‎555555555555555555555555555555555
           
          o
            น้องเป็นสาว ขอนแก่น เด้อคร้าาา แล่วตอนี่น่องอี๊ดได่ ลูกจั๊กคนแล่วหละเพิน
           
       
            Taywin Rukkita ยะปาก มีโครงการจอบหรอยยุ
           
          o
            น้องเป็นสาว ขอนแก่น เด้อคร้าาา โพดแล่ววววววว
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

ขอยิ้มด้วย...โลกสวยงาม
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s