๐ เสียงคลื่นเห่ ทะเลห่ม ลมสะบัด
วานช่วยพัด พรากฤทธิ์ ความคิดถึง
กับร่องรอย เสน่หา เคยตราตรึง
และพรากซึ้ง แสนเศร้า เคล้าลมลอย
๐ ฝากส่งให้ ใครหนึ่ง เคยซึ้งนัก
จวบจนรัก หักงอ จึงท้อถอย
ว่าหนึ่งใจ ใครนั้น ยังฝันคอย
แม้นบุญน้อย ต้อยต่ำ มิอำพราง....(อักษรารำพัน)
พรายฟองคลื่นฟื้นตัวระรัวลอก
ซัดหินซอกหาดทรายตอนสายสาง
ริ้วระยับซับซ้อนแลย้อนทาง
งามพรายพร่างห่างตาให้พาเพลิน
ในอ้อมอุ้มทะเลเห่ห่อฝัน
เพ้อรำพันผิวพรายปลายโขดเขิน
จากตาไกลใกล้กรุ่นแดดอุ่นเดิน
ภาพงามเกินกว่ากานท์ตระการตา….(อัศจรรย์จิต)
วิจิตรงามความเคล้าเศร้าและโศก
กลางลมโบกพลิ้วไหวใบพฤกษา
เสียงทะเลเห่กล่อมย้อมวิญญาญ์
ดั่งนำพาพรากรักไปจากไกล….(ดอกกระเจียว)
อันความงาม ยามรัก ยากหักห้าม
เหมือนดังไฟ ไหม้ลาม จนหวามไหว
มีรักแท้ แค่หนึ่ง ก็ซึ้งใจ
แต่อยู่ไหน ใจนั้น เฝ้าฝันเคียง...(อักษรารำพัน)
กระซิบเสียงเอียงแอบ แนบขอบฟ้า
ระโหยหาอาวรณ์ เว้าวอนเสียง
สรรพสิ่งนิ่งหยุด สุดสำเนียง
พาใจเลี่ยง เยี่ยงหลบ จะพบใคร
ได้แต่เพียงเฝ้าฝัน แค่นั้นหรือ
รักจริงซื่อ ถือคู่ อยู่หนไหน
ชีพแทบม้วยมรณา พาสิ้นใจ
ไร้เสียงใด ไหนขับ รับขวัญเรา
ดีกสงัด ขจัดเป่า ความเหงาโศก
ภายใต้โลกเดียวดาย สุดพ่าย , เหงา
รับวันใหม่ รุ่งสาง อาจจางเบา
ระคนเคล้าเฝ้าโศก วิโยกครวญ
จะรวนเร แพ้พร่ำ หรือร่ำไห้
เปล่าเปลี่ยวไร้ในรัก ให้พักหวล
ความเคยชิน บินใกล้ ให้ใจรวน
สติจวนเลือนหาย แพ้พ่ายแล้ว.....(e-no)