กลอนรัก...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
25 พฤศจิกายน 2024, 02:25:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนรัก...  (อ่าน 1807 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
28 ธันวาคม 2009, 02:00:PM
jjseed01
LV4 นักเลงประจำหมู่บ้าน
****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 38



« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2009, 02:00:PM »
ชุมชนชุมชน

๐ กลางสายลมโรยละลอก..ท่ามหมอกเช้า
เยียบเย็น-เหงา..โลกสรรพ, รูปอัปสร-
ค่อยเผยผ่านรุมเร้า..คอยเว้าวอน
ให้คำนึงช่วงตอน..เจ้าย้อนคำ

๐ พี่-เช่นยอดหญ้าพลิ้วท่ามริ้วลม
แห่งความชื่นฉ่ำ-ฉม..คอยบ่มร่ำ
มีความหมายสุมซ้อน..ออดอ้อนนำ
ผ่านให้สัมผัสทั่วทั้งหัวใจ

๐ ลู่ระเนนเอนล้ม..ล้อลมร่าย
เรียวใบปลิวปัดป่าย..ต้นส่ายไหว
เช้าชื่นเมื่อพรมผ่านด้วยหวานใคร
แม้น-เยียบเย็นเพียงไหน..ก็ไม่รู้

๐ ด้วยอบอุ่นอ่อนหวาน..ได้ผ่านล้อม-
เพื่อใจน้อมนอบหวานที่ผ่านสู่
น้ำใจเช่นสายน้ำ..ถ้อยคำตรู-
ย่อมดำรูรอยร่าง..ที่กลางทรวง

๐ คืนสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
ผ่านฟากฟ้าเดือนดาว..ส่งหนาวล่วง-
สู่โลกร้อนหญ้าเขียว..เพื่อเรียวรวง-
รับรู้ช่วงเหน็บหนาวอีกคราวครั้ง

๐ เรียวยอดหญ้าอ่อนพลิ้วด้วยริ้วลม
รอรับชื่นฉ่ำฉม..สายลมหลั่ง
พลิ้วยอดเอนไหวลู่..เหมือนรู้ฟัง-
ความอ่อนหวานกระซิบสั่ง..อีกครั้งครา

๐ รับรู้ความรื่นรมย์แห่งลมร่ำ
อ่อนละมุนหนุนนำ..ราวย้ำว่า-
รื่นที่หวนห้อมเห่ห้วงเวลา
จนเฝ้าคอยไขว่คว้า-จากฟ้าไกล

๐ ลมลูบเรียวซัดส่ายปัดป่ายยอด
นัยพร่ำพลอดสืบหมาย..ก็ส่ายไหว-
ย่อมด้วยโดยดุษฎี..ก็ที่ใจ-
จะล่องไหลระลอกหวังอีกครั้งคราว

๐ ระยิบเอยเนตรคมกลางลมร่ำ
ผ่องผกายร่ายรำในค่ำหนาว
ดูเถิด..แววปลดเปลื้องแฝงเรื่องราว-
แทนคำกล่าวสั่นรัว..จากหัวใจ

๐ งดงามเอยผกายวับให้นับเนื่อง
รอปลงเปลื้องความร้อยผ่านถ้อยไข
อย่างแฝงเร้น..งดงามแห่งความนัย-
ก็ค่อยไหวลำดับช่วงเข้าพ่วงพัน

๐ บ่ายโบกผ่านลมร่ำแห่งค่ำหนาว
ฝ่าเดือนดาวโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ
เพื่อโอนอุ่นแอบแฝงเข้าแบ่งปัน
ให้เหน็บหนาวทั้งนั้น..ต้องบั่นทอน

๐ ผ่านมาเถิด..เกรียวกรู..ฤดูลม
อุ่นจะห่มหนาวร้ายให้ถ่ายถอน
ยอดหญ้าเรียว..ลมร่ำ..ถ้อยคำวอน-
จะร่วมฟ้อนฝากช่วง..บำบวงฟ้า

๐ เพื่อหอมหวานต่างตอนได้ย้อนสู่-
ร่วมรับรู้ใฝ่ฝันร่วมฟันฝ่า-
ฝาก-อบอุ่นโลมไล้ผู้ไกลตา
แทนอ้อนแขนปรารถนา..ผู้อาลัย

๐ ชื่น..สายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
เมื่อสองดาวดวงนั้น..คล้ายสั่นไหว-
ตอบรับความหอมกรุ่น..แห่งอุ่นไอ-
ที่หลั่งไหลซ่านซึ้งเข้าตรึงตน

๐ คล้าย-ความคิดถึงกันในวันนี้
นับครั้งที่..มีนั้น..นับพันหน
คล้าย-ความนัยอกชาย..ที่ว่าย-วน
ทุกครั้งหน..ถวิลอยู่แต่ผู้เดียว

๐ เมื่อ..บทเพลงปฏิพัทธ์ระบัดบ่ม
ย่อมปรารมภ์..ถวิลแต่ชะแง้เหลียว
เมื่อ..อ่อนหวานรำร่าย-ที่คลายเกลียว-
พันโน้มเหนี่ยวร่วมหมาย..คือ-สายใย

๐ เมื่อสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว
คืนเรื่องราวตอกย้ำ..ผ่านคำไข
ก็ด้วยโดยซาบซึ้งของหนึ่งใจ
ที่อ่อนไหวรับรู้..ฤดูลม

๐ เกสรดอกไม้หอม..ที่ยอมหลั่ง-
หอมประดังถิ่นอยู่ให้รู้ฉม
ต่างฤๅหอมเสน่หา..ห้วงอารมณ์-
ที่จ่อมจมหอมอยู่..ฤๅรู้พอ ?   


 
ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s