เห่ครวญ พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 04:50:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เห่ครวญ พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์  (อ่าน 13452 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
07 กรกฎาคม 2008, 07:17:PM
Alpha
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 07:17:PM »
ชุมชนชุมชน

รอนรอนสุริยคล้อย            สายัณห์
เรื่อยเรื่อยเรื่อแสงจันทร์     ส่องฟ้า
รอนรอนจิตกระสัน            เสียวสวาท   แม่เอย
เรื่อยเรี่อยเรียมคอยถ้า       ที่นั้นห่อนเห็น ฯ
 
 
    เรื่อยเรื่อยมารอนรอน    สุริยาจรเข้าสายัณห์
เรื่อรองส่องสีจันทร์          ส่งแสงกล้าน่าพิศวง
    ลิ่วลิ่วจันทร์แจ่มฟ้า       เหมือนพักตราหน้านวลผจง
สูงสวยรวยรูปทรง           ส่งสีเจ้าเท่าสีจันทร์
    เอวอ่อนชอ้อนองค์        โฉมอนงค์ทรงสาวสวรรค์
หาไหนไม่เทียมทัน          ขวัญเนตรพี่นี้น่ารัก
    ขาวสุดพุดจีบจีน          เจ้ามีสีนพี่มีศักดิ์
ทั้งวังเขาชังนัก                แต่พี่รักเจ้าคนเดียว
    นอนนั่งตั้งอาลัย           สายสุดใจไม่แลเหลียว
หวังชมสมกลมเกลียว      ควรฤาน้องข้องใจเคือง
    ขาวสุดพุดซ้อนแซม    เนื้อแอร่มอร่ามเหลือง
โฉมอ่ากว่าทั้งเมือง         หนแห่งใดไม่เหมือนเลย
    ได้น้องทองนพมาศ    มาสังวาสพาดชมเชย
ร่วมเรือนเพื่อนพิงเขนย   เคยวิงวอนอ่อนหวานคำ
    ฝนตกยกปีกป้อง         ฟ้าร้องต้องเอาตนงำ
ชิดเชื้อเนื้อนวลขำ           อ่อนลมุนอุ่นอกเรียม
    รักนุชสุดสายใจ          ต้องฤทัยไม่เท่าเทียม
ขอต้องน้องอายเหนียม    เกรียมจิตเจ้าเฝ้าทุกข์ทน
    ฝนตกฝนหากตก        แก้วกับอกอย่าโกรธฝน
ลมพัดรับขวัญบน           แก้วโกมลมานอนเนา
    ฝนตกไม่ทั่วฟ้า          เยนแหล่งหล้าในภูเขา
ไม่เยนในอกเรา              เพราะเพื่อนเคล้าเจ้าอยู่ไกล
    เรียมร่ำน้ำตาตก        อกร้อนรุ่มดังสุมไฟ
แสนคนึงถึงสายใจ         เจ้าไกลสวาทนิราศเรียม ฯ
 
 
     เสียงสรวลระรี่นี้          เสียงใด
เสียงนุชพี่ฤาใคร             ใคร่รู้
เสียงสรวลเสียงทรามวัย  นุชพี่   มาแม่
เสียงบังอรสมรผู้              อื่นนั้นฤามี   ฯ
 
 
    เสียงสรวลระรี่นี้            เสียงแก้วพี่ฤาเสียงใคร
เสียงสรวลเสียงทรามวัย     สุดสายใจพี่ตามมา
    ลมชวยรวยกลิ่นน้อง       หอมเรื่อยต้องคลองนาสา
เคลือบเคล้นเหนคล้ายมา     เหลียวหาเจ้าเปล่าวังเวง
    ยามสองฆ้องยามย่ำ       ทุกคืนค่ำย่ำอกเอง
เสียงปี่มีครวญเครง            เหมือนเรียมคร่ำร่ำครวญนาน
    ล่วงสามยามปลายแล้ว    จนไก่แก้วแว่วขับขาน
ม่อยหลับกลับบันดาล          ฝันเห็นน้องต้องติดตา
    เพรางายวายเสพย์รส     แสนกำสรดอดโอชา
อิ่มทุกข์อิ่มชลนา                อิ่มโศกาหน้านองชล
    เวรามาทันแล้ว              จึ่งจำแคล้วแก้วโกมล
ให้แค้นแสนสุดทน            ทุกข์ถึงเจ้าเศร้าเสียดาย
    งามทรงวงดังวาด         งามมารยาทนาดกรกราย
งามพริ้มยิ้มแย้มพราย        งามคำหวานลานใจถวิล
    แต่เช้าเท่าถึงเยน            กล้ำกลืนเขญเปนอาจิณ
ชายใดในแผ่นดิน              ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ   ฯ
 
 
    เรียมทนทุกข์แต่เช้า       ถึงเยน
มาสู่สมคืนเขญ                 หม่นไหม้
ชายใดจากสมรเปน           ทุกข์เท่า   เรียมเลย
จากคู่วันเดียวได้                ทุกข์ปิ้มปานปี   ฯ
 

ที่มา  http://www.geocities.com/Paris/Jardin/9351/jfk7.htm
ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s