ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[panthong.kh]

สายลมพัด แผ่วมา เวลาเช้า
บวกกับใจ เหงาเหงา เผาดวงจิต
ไม่อยากเชื่อ โชคชะตา พาชีวิต
ฟ้าลิขิต ขีดคั่น ฉันเดียวดาย

อยู่ดีดี น้ำตา มารินไหล
เจ็บลึกลึก ที่ใจ ในความหมาย
ภาพความหลัง คลุมครอบ อยู่รอบกาย
ใจสลาย คล้ายดั่ง พังแล้วเอย

สายลมพัด ใบไม้ ไหวเอื่อยเอื่อย
ความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มิกล้าเผย
ระทมทุกข์ ขมขื่น มิชื่นเชย
คนคุ้นเคย หลบเร้น มิเห็นเงา

สายลมพัด พลิ้วผ่าน นานแค่ไหน
รู้บ้างไหม ใจหม่น แทบป่นปี้
วอนสายลม พัดไป ไกลฤดี
ต่อแต่นี้ สิ้นสุด หยุดคร่ำครวญ

พันทอง
๑๒/๖/๖๓

[muneenoi]

สายลมเอยเพยพัดสะบัดโบก
ดังเพลงโศกแว่วมาพาใจหวน
ฟังหวีดหวิวบาดจิตสะกิดนวล
ความรัญจวนหงอยเหงาก็เร้ารุม

ปาดน้ำตาทุกทีที่ลมพัด
คงสาหัสดวงใจดั่งไฟสุม
อดีตช้ำจำเพาะที่เกาะกุม
บาดขยุ้มดวงจิตปลิดทรวงใน

อยากปลอบขวัญวันนี้ฤดีห่วง
เผื่อเบาทรวงเยี่ยงมิตรจะผิดไหม
แม้นมิถึงครึ่งกมลของคนไกล
อย่างน้อยได้เอ่ยทักพักน้ำตา

ความหลังผ่านนานแล้วแก้วจิตเอ๋ย
ปล่อยมันเลยตามลมข่มใจหนา
ปัจจุบันหันพักตร์หักใจลา
คิดเสียว่าฝันไปไร้ตัวตน

เอาความจริงอิงแอบไว้แนบข้าง
ว่าทุกอย่างไม่เที่ยงเพียงล่องหน
ความอ่อนแอแพ้พ่ายได้บันดล
ให้กมลเข้มแข็งแกร่งกว่าเดิม

 

มุนีน้อย

(ทักทายแม่นางพันทอง ไม่ได้ต่อกลอนกันนานเลย)

[เนิน จำราย]

ฟังครวญคำร่ำไรปราศรัยแว่ว
มาสองแล้วใคร่ตามเป็นสามเสริม
คราครั้งก่อนย้อนหลังแต่ดั้งเดิม
ร่วมต่อเติมเรียงคำหลายทำนอง

ต่างคนต่างวางเรียงส่งเสียงทัก
ตามเอกลักษณ์ของตนดั้นด้นสนอง
เรียงร้อยตามความคิดจริตหมายปอง
เสียงกู่ก้องบนดอนบ้านกลอนไทย

บัดนี้เอยเฉยเสียงสำเนียงห่าง
หรือลาร้างเปลี่ยนท่าที”วิถีใหม่”
ต้องปล่อยวางห่างเหินเกินทำใจ
เริ่ม“ปกติใหม่”หรือว่าเลิกลากลอน

เนิน จำราย

[โซ...เซอะเซอ]

สายลมพัดเวียนวนจนไหววาบ อุ่นเนิบนาบโอนเอนระเนนอ่อน- ตามกระหวัดรัดรึงซึ้งอาวรณ์ ที่ซุกซอนกำซาบไหลอาบทรวง ยิ่งขานขับ ปร่าขมระทมคิด ปล่อยชีวิตพลัดหลงพะวงห่วง เฝ้าคะนึงถึงรัก ปรักปวง- ระบิลบ่วงร้อยเล่ห์เพทุบาย แผลในใจนั้นหนารักษายาก ทนลำบากนานนัก มิจักหาย แม้ผันกาลผ่านเลือนคล้อยเคลื่อนคลาย ฝังรากปลายลึกลงในทรงจำ อาจมีเพียงมธุรสโอสถทิพย์ อ่อนกระซิบสวนีย์ที่ดื่มด่ำ จากผู้ละกิเลสเหตุแห่งกรรม ปรารภธรรมงามสรรพระงับทราม ขอส่งวรรคทักทาย สหายเอ๋ย สบเสียงเปรย เหนื่อยล้า ที่มา ถาม เมื่อพบเพียงจำพราก จากรูปนาม ฤ ควรความยึดมั่นพันธนาฯ โซ...เซอะเซอ 18 กรกฎาคม 2563 *พันธนาฯ : พันธนาการ

[เนิน จำราย]

ครวญคำนึง

พันธนาการม่านบังคุมขังคิด
ทอดทิ้งสิทธิ์เสรีที่ปรารถนา
ให้เหี่ยวเฉาเบาบางแรมร้างรา
ตามเวลาสายชลเลยพ้นรอ

ใคร่ครวญตรองลองย้อนแต่ก่อนเก่า
ตารอเฝ้าอาทรอักษรต่อ
เรียงถ้อยตามความเดิม,เพิ่ม,ตัดพ้อ
กลอนเกิดก่อสีสันเกินบรรยาย

มาบัดนี้ที่หมายมากลายกลับ
ข้องและคับจินตนามืดฟ้าหมาย
เขียนแล้วลบกลบทิ้งยิ่งเสียดาย
ใครสักราย โกลน เกลา  ลองเย้ามา

เนิน จำราย

[โซ...เซอะเซอ]

บางขณะ ขื่นขม โทมนัส บางกระหวัด พัดโชย ชื่นโหยหา บางตะขิดตะขวง บ่วงมายา บางเริงร่า หัวร่อ รี่ต่อกลอน บางอารมณ์ สมมาตร ดั่งวาดหวัง บางภินท์พัง ซ้ำซาก มากไหวอ่อน บางระทม เรื้อรัก ที่หักคลอน บางสัญจร ร่ำไป ไร้ผูกพัน บางชื่นชม คมคำ นำวิถี บางวลี แย้มเยื้อน เตือนจิตมั่น บางตรองตรึก เรียวลีบ คล้ายตีบตัน บางจำนรรจ์ ระเรื่อย เจื้อยจำเรียง โซ...เซอะเซอ 29 กรกฎาคม 2563