๏ สายรุ้งพร่าง..ขวางทาบ..ระนาบฟ้า
ขับนภา..ฟ้าพราย..หลากหลายสี
ประหนึ่งแก้ว..แววเพชร...เกล็ดมณี
เรื่อรุจี..รวีวรรณ..อนันต์กาล..๚
๏ หมายรุ้งเรียว..เกี่ยวใจ...เอาไว้มั่น
ร่วมประคอง..คล้องฝัน..แห่งวันหวาน
สานสลัก..รักไว้..ให้เนานาน
ชูช่อบาน..จารจรุง..ดั่งรุ้งทอ..๚
๏ เมื่อสัมพันธ์..นั้นกลาย..จากหมายมาด
เรียวรุ้งขาด..พาดเกลียว...ดุจเรียวขอ
ภาพรุ้งงาม..ยามเรา..เคียงเคล้าคลอ
ก็หักงอ..ต่อหน้า..กลางฟ้าคราม..๚
๏ พิรุณร่ำ..ฉ่ำริน..จนสิ้นสาย
ลำรุ้งพราย..คล้ายแล้ว..สิ้นแววหวาม
สิ้นสายฝน..หล่นริน..ใจสิ้นตาม
หมดสิ้นงาม..ยามขาด..สวาทวาง..๚
๏ สิ้นฝนโปรย..โรยละออง...จากท้องฟ้า
รังสิมา..ทา-ทุ่ง..ครารุ่งสาง
แต่ฤดี..นี้เหมือน..กลับเลือนลาง
คล้ายฟ้าขวาง..กางกั้น..ยากบั่นไป..๚
๏ หวังรุ้งเรียว..เกี่ยวคล้อง..สองจิตมั่น
แต่รุ้งงาม..ยามฝัน..กลับสั่นไหว
มาบังบด..หมดค่า..ความอาลัย
ห้วงฟ้าไกล..ไร้ค่า..ให้อาวรณ์..๚
๏ ความเดียวดาย..กรายกล้ำ ..เข้าย้ำเหนี่ยว
เมื่อรุ้งเรียว..เกี่ยวฝัน...ในวันก่อน
มาสลาย..กลายกลับ..จนลับจร
สิ้นแรงโรย..โหยอ่อน..สะท้อนทรวง..๚
๏ สายรุ้งโค้ง..โยงจิต..กลับบิดผัน
ทิ้งสัมพันธ์..วันวาร..ให้รานร่วง
รุ้งพรายสี..คลี่ฉาบ..ด้วยภาพลวง
ก็หายดวง..ร่วงหล่น..หลังฝนซา..๚
๏ เหลือเพียงคน..หม่น-คอย..บนรอยเหงา
เหลือเพียงเศร้า..เข้าราน..หมายผลาญพร่า
เมื่อรุ้งงาม..ล่ามพ่วง..เพียงลวงตา
ไย....ถวิล..จินต์หา..ด้วยอาลัย..๚
๏ ระวีฉาย..พรายแสง..ขึ้นแต่งฟ้า
หลังฝนซา..ปรากฏ..สีสดใส
เป็นรุ้งสาย..พรายตา..กลางฟ้าไกล
เชื่อมสายใย..ให้คล้อง..ทั้งสองดวง..๚
๏ มองรุ้งพราย..หลายสี..มณีสวรรค์
ดั่งเสกสรร..ปั้นแต่ง..จากแหล่งสรวง
ช่างงดงาม..หวามไหว..ถึงในทรวง
ที่โชติช่วง..ห้วงหาว..งามพราวตา..๚
๏ แต่รุ้งงาม..ยามหมอง...เข้าครองจิต
ถึงชวนพิศ..เพียงใด..ก็ไร้ค่า
เลื่อมรุ้งพราย..ลายสลับ..จับนภา
ก็เลือนพร่า..ลาล่วง..จากห้วงจินต์..๚
๏ เลื่อมพรายรุ้ง..ปรุงฝัน..ในวันนี้
กลับไม่มี..สีสัน..อันถวิล
มาแต่งแต้ม..แซมหวัง..ที่พังภิณฑ์
ทั้งชีวิน..สิ้นหวาน..ผ่านกมล..๚
๏ เมื่อรุ้งทอง..รองเรื่อ...ไม่เหลือแล้ว
ภาพพราวแพรว..แวววับ..ก็ลับพ้น
เหลือเพียงเศร้า..เหงาใจ..ภายในตน
ที่ท่วมท้น..จนขวัญ..ถูกบั่นทอน..๚
๏ ยามรุ้งพราย..หายล่วง...สิ้นดวงลับ
ใจเหมือนกับ..รับพิษ..ถูกฤทธิ์ศร
หวังรุ้งงาม..ดามรัก..ที่หักคลอน
ช่วยรักษา..อาวรณ์..ก่อนวายวาง..๚ะ๛
add complete
by klonthaiclub fb