เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:55:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ  (อ่าน 209331 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
03 กุมภาพันธ์ 2014, 06:38:PM
ป้าโย
Special Class LV1
นักกลอนผู้เร่ร่อน

*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 22
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #180 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014, 06:38:PM »
ชุมชนชุมชน



พันคณะสระฉันทลักษ์  เหมาะเจาะเพราะวรรค จะสเนาะญาณ
วิทยอักขระประสาน  สติพิจารณ์ มิตินิพนธ์

พร้อมปฏิหิริตผล มนุสชน วิมุติชัย
ปราชญ์ทะนุพยัญชนะไทย บุรณะไว้ คติวิธี

สวยสระภาษะทฤษฎี  นิมิรตี  วิจิตรสยาม
ด้วยครุลหุสลับงดงาม ผิใดจะตาม ประภัททกฉันท์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, ศรีเปรื่อง, เนิน จำราย

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

กะเทยไทยใจประเสริฐเลิศที่สุด
เป็นมนุษย์คิดแตกจากใช่ปากหมา
นำพาชาติมิ่งยิ่งใหญ่แต่ไรมา
มีค่ากว่าสัตว์ตัวผู้สมสู่กัน
10 กุมภาพันธ์ 2014, 03:02:PM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #181 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014, 03:02:PM »
ชุมชนชุมชน

(อินทรวิเชียร์ฉันท์ ๑๑)

เกริ่น...

เกิดอยากจะชมสาว            ฉวิวาวสกาวพรรณ
ร้อยรัดกระหวัดฉัน-            ทสนานสราญรมย์

ศัพท์อาจประหลาดนิด         เพราะจริตหทัยผม
นั้นชอบและชื่นชม              วทะแหวกบุราณเพรง

สุดท้ายก็หวังว่า                 มิตรฮาอุราเครง
กับเล่หบรรเลง                  ดนุเพ้อเสนอขาย

ชมยุพาวิลาวัณย์...

พักตร์เจ้า ฤ เพราพริ้ม          ผิวยิ้มกระทำชาย
วาบหวิวสยิวกาย                อุระหมายจะก่ายเกย

อกตู้มปทุมต้าม                  ดุจหยามเยาะ "ใบเตย"
หากแม้นจะเปรียบเปรย         ฤ ก็ส้มกะแตงโม (คือ ใบเตยน่ะแค่ส้ม)

เอวบางตะโพกเบิ้ม              บะระเหิ้มอุฬารโต
ดินฟ้าก็เผลอ "โอว์"            ภณพร้องเพราะต้องมนต์  (๗๔๕)

ศรีเปรื่อง
๑๐ ก.พ. ๒๕๕๗

ขออภัยน้องใบเตย อาร์สยามด้วย ที่ถูกหยิบมาเป็นบรรทัดฐานในการเปรียบเทียบ
(หวังว่าน้องใบเตย คงไม่เสียความมั่นใจนะครับ  หัวเราะยิ้มๆ)

ปล.

ฉวิ = แผลงจาก ฉวี
ฉัน- ท = ฉีกคำจาก ฉันท์
เบิ้ม = ใหญ่
บะระเหิ้ม = คำแสลง แปลว่า ใหญ่มาก ๆ
วทะ = คำพูด
ภณ = กล่าว พูด
ปทุม = ย่อจาก ปทุมถัน
โอว์ = เสียงอุทาน แสดงอาการ ประหลาดใจ
พร้อง = ร้อง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:47:PM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #182 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2014, 10:47:PM »
ชุมชนชุมชน

(มาณวกฉันท์ ๘)

ทอรจเรข                 เสกบทฉันท์
เล่หประพันธ์              หมายมิตรยล
ตั้งอุระคล้อง              จองอนุสนธิ์
เรื่องทิพดล               ผลสัตยา


(ลลิตาฉันท์ ๑๒)

http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_image_detail.php?id=3618
 
รักเธอเสมอนภและดิน          ยุพินประภา
ไม่เปลี่ยนหทัย ณ วนิดา        แถลงยุบล

ถึงนางสวรรค์สิริพิลาศ          สะอาดสกนธ์
มายั่วดนู ฤ ก็มิสน               มโนมิคลอน

แต่รุ่งอรุณสุริยะแจ้ง             ลุแสงจะรอน
อกชายคนึงเฉพาะสมร          มุสาบ่มี

หากเจ้ามิปลงกมลเชื่อ          ณ เนื้อพจี
กริ่งเรียมมิมั่นถิรฤดี              จะลวงยุพาน

"ถ้าหลอกก็ให้วชิระฟาด        พิฆาตมลาน" >> [ชายหนุ่มสาบานครับ...สาบาน]
ลั่นวาทะสัจจะปฏิญาณ         สนั่นสกล

ฉับพลันก็เกิดอนิลหวือ          อะอื้ออะอล
สายฟ้ากระหน่ำบุรุษจน         มะเมื่อมสรีร์  (๗๕๒)

ศรีเปรื่อง
๑๙ ก.พ. ๒๕๕๗

ปล.

นภ = ฟ้า
สกนธ์ = ร่างกาย
สมร = หญิงสาวสวย (แปลได้อีกอย่างว่า การรบ)
ถิร = มั่นคง
ยุพาน = หญิงสาวสวย
มลาน = ตาย
สกล = สากล = ทั่วโลก ทั้งโลก
อนิล = ลม
อะอื้ออะอล = กร่อนจาก อื้ออื้ออึงอล
มะเมื่อม ตัดจาก ดำมะเมื่อม (แสลง)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ไพร พนาวัลย์, ชลนา ทิชากร, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

28 กุมภาพันธ์ 2014, 12:53:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #183 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 12:53:PM »
ชุมชนชุมชน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

...ขอเพื่อนแนะเขียนฉันท์............จริตมั่นขยับจาร
หวังร่วมประโคมกานท์................ประดับหล้านภาไทย

...ศิลป์ศาสตร์ผสานโยง..............ประดิษฐ์โคลงระรื่นใส
ผองเพื่อนสิมอบใจ.....................แนะสอนให้สนุกจริง
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กุมภาพันธ์ 2014, 02:42:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #184 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 02:42:PM »
ชุมชนชุมชน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

...อ่อนโยนมิอ่อนแอ.........พลังแล้ผลิผลจริง
พาลเผยมิเฉยนิ่ง..............ผจญสู้มิรู้หนี

...อ่อนโยนมิอ่อนแอ.........มนุษย์แท้มุมั่น ดี
ทุกข์ท้นก็พร้อมพลี...........ประพฤติเพื่อประโยชน์ชน

...อ่อนโยนประดุจแข.........จรัสแดสว่างหน
ชุบชื่นฤดีมล....................นภาหม่นกระจ่างพลัน

...อ่อนโยนประดุจแข.........มุเผื่อแผ่สงบสันต์
รวยจนจะแบ่งปัน...............บแบ่งชั้นฤเลวดี (๗๕๘)
ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
28 กุมภาพันธ์ 2014, 05:42:PM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #185 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2014, 05:42:PM »
ชุมชนชุมชน

(วสันตวงศ์ฉันท์ ๑๕)

แยก, แผลง และกร่อนพจนเรียง          "ลหุ" เหวี่ยงเฉวียงวลี
มาเคล้าคละกับ "ครุ" พจี                   กวิฉันท์ก็ก่อกระบวน

การแยกกถาเสนาะสนอง                    ฤ จะต้องตริตรองประมวล
อักษร ณ ท้ายพจะมิควร                     ภวะคล้องกะแม่สะกด

ส่วนแผลงนิยมมละสภาพ                   "สระ" คราบอดีตกำหนด
ให้ได้สำเนียงวจนะหด                      "ลหุ" ตามนิยามประสงค์

คำซ้ำและซ้อน ฤ ก็สมรรถ-                 (ถ)ะจะกัดประภาษ(ะ)ลง
แต่เสียงพยัญชนะเจาะจง                    เฉพาะหน้าและหลังเสมือน

คำเชื่อม ฤ แก้ "ลหุ" มิพอ                  ผิว์ระย่อสมองเลอะเลือน
ของดีนะอย่านัยนเบือน                      พิเคราะห์ใช้ ณ คราจำเป็น   (๗๖๓)

ศรีเปรื่อง
๒๘ ก.พ. ๒๕๕๗

ปล.

แยก >> การแยกเสียง ตามหลักคำที่แยกได้ต้องเป็นคำบาลี-สันสกฤต มักจะเป็นคำที่ตัวสะกดไม่ตรงกับชื่อแม่ เช่น เลิศ ภาษ
แผลง >> การแผลงคำ ที่นิยมกันก็มักจะเป็นการแผลงสระ ส่วนใหญ่เป็นไม้ตายในการสร้างคำลหุ เช่น โบราณ เป็น บุราณ, กวี เป็น กวิ
กร่อน >> การกร่อนเสียง โดยลดเสียงคำเดิมให้เหลือแค่ อะ ในฉันท์มักจะเห็นในกรณีที่เป็นคำซ้ำหรือคำซ้อนที่มีเสียงพยัชนะเดียวกัน
             เช่น วับวับ เป็น วะวับ, โฮกโฮก เป็น ฮะโฮก
คำเชื่อม >> เอาไว้แก้ปัญหา ลหุ ไม่พอได้ เช่น   จะ, สิ, ก็, ณ, และ, เพราะ, ละม้าย, ประหนึ่ง, กวะ (ราวกับว่า) ฯลฯ

 เคารพรัก  เคารพรัก  เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

03 มีนาคม 2014, 02:50:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #186 เมื่อ: 03 มีนาคม 2014, 02:50:PM »
ชุมชนชุมชน

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

...ขอเพื่อนแนะเขียนฉันท์............จิต(ะ)หวั่นสิยากเกิน
เพียงหวังจะเพลิดเพลิน..............พละร่วมประดิษฐ์กานท์

...ศิลป์ศาสตร์ บ่ ใคร่เก่ง............ริก็เกรงมิบรรสาน
หวังเพื่อนประศาสน์ชาญ............ผลิผสานประทับใจ (๗๖๕)


บรรสาน [บัน-] (กลอน; แผลงมาจาก ประสาน) ก. ทําให้ติดกัน, ทําให้สนิทกัน, เชื่อม, รัด, ผูกไว้.
ประศาสน์ [ปฺระสาด] น. การแนะนํา, การสั่งสอน; การปกครอง, การงําเมือง, การสั่ง. (ส. ปฺรศาสน; ป. ปสาสน).
ชาญ (มค. ชญฺญ) ว. ชำนาญ, รู้, ว่องไว, คล่องแคล่ว. (พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร)
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
04 มีนาคม 2014, 06:54:AM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #187 เมื่อ: 04 มีนาคม 2014, 06:54:AM »
ชุมชนชุมชน

(มาณวกฉันท์ ๘)

แม้นตริจะคล้อง          จองบทฉันท์
เอกอุสำคัญ              จำ ณ หทัย
หนึ่งเสนาะเสียง          เหวี่ยงกวิไกร
ฉันทประไพ              พึงศิกษา

อีกครุแจก                 แยกลหุคำ
เล่ห(ะ)กระทำ            ตามกติกา
หมั่นพิระเพียร             เวียนรจนา
ฉันท์จะวิภา               วามะสำนวน                   

อักขรท้าย                 ปลายตะละวรรค
วางเหมาะก็จัก            เลิศ(ะ)กระบวน
ให้สรขับ                  ตรับเสนาะชวน
จิตตะรำจวน              เคลิ้มเพราะกวี   (๗๖๘)

ศรีเปรื่อง
๔ มี.ค. ๒๕๕๗

ปล.

แบ่งปันกันนะครับ จากการสังเกตเกี่ยวกับเสียงท้ายของมาณวกฉันท์ ๘  ที่จะให้ความไพเราะในการขับ :-
วรรค ๔, ๖, ๗ และ ๘ ควรเป็นเสียง สามัญ หรือ จัตวา (โดยเฉพาะวรรค ๘ ซึ่งเป็นวรรคจบ ส่วนวรรคอื่นก็หยวน ๆ ได้ แต่ต้องลองอ่านดูว่ามันแปร่งรึเปล่า) สังเกต จะเป็นตัว L กลับด้าน (mirror)
ท้ายวรรค ๘ ที่เป็นบทจบ ควรเลี่ยงคำตาย เพราะจะทำให้ทำนองเสนาะจบลงแบบห้วน ๆ ไม่ไพเราะครับ


 เคารพรัก  เคารพรัก  เคารพรัก
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

05 มีนาคม 2014, 11:20:PM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #188 เมื่อ: 05 มีนาคม 2014, 11:20:PM »
ชุมชนชุมชน

(อินทรวิเชียรฉันท ๑๑)

เกริ่น...

กรุงเก่ากระบวนฉันท์             ลหุนั้นมิเคร่งดี
บางจุดก็แอบมี                   พจะเอกและตายแทน

เลือกคำเหมาะจักได้             สรใกล้ละม้ายแสน
อย่าหมิ่น ฤ ดูแคลน             เสนาะอยู่นะเนื้อเย็น                   

จั๊กกะแร้...ปัญหาชายหนุ่ม...

อากาศกระอุกแท้                 จั๊กกะแร้ก็เกิดเหม็น
หวาดหวาดมิเคยเป็น             ดนุแสนกระวนใจ

ด้วยนัดกะหนึ่งนุช                ฉวิสุดสกาวใส
เต่าเหม็นฉกาจใคร               ล่ะจะชมนิยมเรา

พิมเสนและสารส้ม               คละผสมผิว์บรรเทา
คั้นลูกมะนาวเอา                 เฉพาะน้ำละเลงทา

อีกผลมะขามแก่                  สะระแหน่ก็เป็นยา
ปูนแดงกระจัดภา-               วะบุรุษสรีร์หืน     (๗๗๔)


ศรีเปรื่อง
๕ มี.ค. ๒๕๕๗

ปล.

ฉันท์สมัยอยุธยาไม่ได้เคร่งลหุ-ครุเท่าที่ควรครับ โดยก็มีการเอาคำที่มีลักษณะเสียงสั้นมาใส่แทนในตำแหน่งของคำลหุ
ซึ่งหากเป็นคำตายหรือคำเอก เสียงทำนองเสนาะที่ปรากฎออกมาก็ไม่ได้เสียจังหวะไปเท่าใด แฮ่ ๆ ก็พอกะล่อมกะแล่ม (กล้อมแกล้ม แทรก อะ) ไปได้ครับ

วันนี้ เลยขอแหกกฏฉันท์รัตนโกสินทร์ ๑ จุดนะครับ  หัวเราะยิ้มๆ  หัวเราะยิ้มๆ  หัวเราะยิ้มๆ

จั๊กกะแร้ เอา คำ "ครุ"มาวางในตำแหน่ง "ลหุ"
(จั๊ก เป็นคำตาย แม้เสียงจะไม่สั้นเท่ากับคำลหุ แต่อ่านทำนองเสนาะแล้วก็มีผลต่อจังหวะของฉันท์ค่อนข้างน้อยครับ)

กระอุก = ระอุ
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

18 มีนาคม 2014, 03:12:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #189 เมื่อ: 18 มีนาคม 2014, 03:12:PM »
ชุมชนชุมชน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

...ฉันยังละอ่อนอยู่............มิอาจสู้กระเตงฉันท์
เพียงนึกสนุกพลัน.............สะบัดจารกระผีกเดียว

...ว่างว่างจะลองดู.............สิวอนสูละล้อเชียว
เพียงเพื่อน บ ถี่เหนียว........แนะสอนฉันก็ขอบคุณ (๗๗๖)


ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
21 มีนาคม 2014, 08:55:AM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #190 เมื่อ: 21 มีนาคม 2014, 08:55:AM »
ชุมชนชุมชน

อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑

...ฉันท์นี้สิจะเริ่ม...............ริประเดิมสะบัดจาร
แม้ไม่เสนาะหวาน..............ก็มุหาญประลองดู

...ฉันนั้นพิเคราะห์แล้ว.........จะลุแนวระดับครู
แม้ยาก บ ละสู้.................จิต(ะ)กู่"พยายาม" (๗๗๘)


ฉันท์นี้ ครั้งแรกครับ เลย....
ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
06 พฤษภาคม 2014, 04:35:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #191 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2014, 04:35:PM »
ชุมชนชุมชน

วิชชุมมาลาฉันท์ ๘

....โอ้โอหนุ่มสาว เข้าคราวเหลือน้อย
ต่างพร้อมพร่ำสร้อย ผูกถ้อยร้อยขำ
ข้าจึ่งแส่เรื่อง อย่าเคืองร่วมยำ
แปลงแนวร้องรำ สมคำ"กล้วยไม้"

....พอดีรี่เร่ง บุกเบ่งอย่าเคือง
สบช่องคุยเขื่อง โคลงเลื่องลงไว
ปัญหาข้าฯถาม ฉันท์ตามแก้ไข
ร่ายแล้วลงไป หวังใจตอบกัน

"กล้วยไม้"แฝงใด วางไว้ให้ทาย
อย่าหลบลี้หาย มุ่งหมายตอบพลัน
ใบ้บอกสักนิด หวังมิตรหลับฝัน
เห็นเหตุขบขัน ผกผันทายเทอญ (๗๘๑)


(เดิมเคยแต่งเป็น โคลง ถามปริศนาครับ)

....ขอถามนามที่ใช้..................คิดไฉน
แฝงบ่งบอกธรรมใด..................ใคร่รู้
"กล้วยไม้"เปี่ยมความนัย............หลายหลาก
ฝันฝากหนุ่มสาวผู้....................ร่วมสร้างโลกสวย






ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2014, 10:48:AM
Silasiroong
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 189
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 113



« ตอบ #192 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2014, 10:48:AM »
ชุมชนชุมชน


bemyhome.com


             วิชชุมมาลาฉันท์ ๘


                                      ๐ ยลคำนำสร้อย               ผูกถ้อยคำถาม
                                   รินหลั่งรูปนาม                     กลความดำเนิน
                                   เรียงร้อยมาลัย                    ชื่นใจใดเกิน
                                   กรอกลับขับเพลิน                จำเริญจำเรียง

                                      ๐ ผู้น้อยฤากล้า                พรรณาพาฉันท์
                                   ท่ามผู้รังสรรค์                     หลากล้วนชื่อเสียง
                                   ครูฉันท์หนึ่งนี้                     ครู"ศรีเปรื่อง"เคียง
                                   พร่ำสอนสำเนียง                 รูปลักษณ์หนักเบา

                                      ๐ "สีรุ้ง"ปล่อยไก่             อันใดผิดข้อง
                                   น้อมรับทั้งผอง                    ท่วมกองขุนเขา
                                  เป็นเด็กหัดขาน                   "ศรีฯ"ท่านกล่อมเกลา
                                  ร่ายรำทำเนา                       พอได้กรายมน

                                     ๐ กลับมา"กล้วยไม้"          สดใสโลกงาม
                                  ทุกช่อรวงยาม                    ชื่นบานดาลดล
                                  ผันคำนำยิ้ม                       เอมอิ่มยินยล
                                  "ใกล้ม้วย"ชีพชนม์              "สีรุ้ง"รอวัน    ..  ..(๗๘๕)


                                                                เอ้อ..จริงว่ะ           เอ้อ..จริงว่ะ             เอ้อ..จริงว่ะ

               

                                      ๐ "กล้วยไม้"นำโลกล้วน    สวยงาม
                                    ชูช่อละออตาม                  คบไม้
                                    ภมรร่อนชมยาม                บานเบ่ง
                                    "แชร์"ท่านพาเขวไขว้         ชื่อซ้ำทำฉงน

                                     ๐ ตอบบนความบ่งชี้         ชอบนา
                                   นามที่ถามเป็นมา              ดั่งนี้
                                   "ใกล้ม้วย"เปี่ยมสัญญา       ธรรมเที่ยง
                                   แลหนึ่งมิอาจลี้                 แม่นแล้ว"ศิลาฯ"

                                   ขอบคุณครับ
                                     ศิลาสีรุ้ง
                                               ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ 
   





thaivet.org




ขอบคุณภาพจาก internet ครับ





.
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
07 พฤษภาคม 2014, 12:40:PM
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« ตอบ #193 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2014, 12:40:PM »
ชุมชนชุมชน


 

                  ๐๐ กล้วยเอ๋ยกล้วยไม้ ๐๐

ธาตุมมิสสาฉันท์ ๑๑

๐ ตอบถ้อยร้อยถาม      ดนุทายตาม ประสงค์เชิญ
ไม่เคยเฉยเมิน               มนะคิดฮอด ตลอดมา

๐ "กล้วยไม้" อายอวล     ดุจกลิ่นนวล รำจวนหา
ดอกแย้มแต้มผา                ระดะดื่นดาษ พิลาสไพร

๐ ดอกก้านบานเบ่ง         ตะละดอกเปล่ง ประกายใส
เชิดชูครูไทย                    คุรุวารบท ประณตคุณ

๐ เพลงโปรดโสตตรึง       เสนาะซ่านซึ้ง ประหนึ่งบุญ
ขับขานหวานอุ่น             หฤหรรษา ชราหวาม
 
 ๐ "กล้วยไม้" ใสซื่อ       นรเล่าลือ ระบือนาม
มอบรักงดงาม                 อุระแหลกลาญ เพราะชายลวง
     
 ๐ "กล้วยไม้" ใกล้ม้วย    วจะขำขวย ระทวยหน่วง
จุกเจ็บเหน็บทรวง            ชิวะดับดิ้น ถวิลใด ?
                                             (๗๙๑)

                  งง.... งง.... งง....   

               "ตรงกันกี่คำตอบเอ่ย..???"
 

                                พี.พูนสุข
                         ๗  พฤษภาคม  ๒๕๕๗
 

<a href="http://www.youtube.com/v/Ge73wwmVqmo&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Ge73wwmVqmo&amp;rel=0&amp;fs=1</a>



ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
09 พฤษภาคม 2014, 04:29:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #194 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2014, 04:29:PM »
ชุมชนชุมชน


 ในปี พ.ศ.2526 ขุนวิจิตรมาตราได้แต่งเพลง กล้วยไม้ ในภาพยนตร์ศรีกรุงเรื่อง "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" โดยมี ร.ท.มานิต เสนะวีณิณ รน. เป็นผู้แต่งทำนอง เป็นเพลงในจังหวะรุมบ้าเพลงแรกของไทย และเป็นเพลงไทยสากลเพลงแรกที่ใช้โน้ตสากล มี มณี บุญจมานนท์ และ องุ่น เครือพันธุ์ เป็นดาราแสดงนำ และออกร้องโชว์ตัวทั้งศาลาเฉลิมกรุงและพัฒนากรทุกรอบ
         ขุนวิจิตรมาตราเล่าให้ฟังว่า ร.ท.มานิต เสนะวีณิณ รน.เป็นผู้ที่ชื่นชอบเพลงคลาสสิคมากและชอบเล่นเปียโนให้ฟังเสมอๆ เมื่อจะแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องปู่โสมเฝ้าทรัพย์ จึงแนะนำว่าอยากให้เป็นแนวคลาสสิค และขอให้มีความยาวเพียง 2 - 3 นาทีเท่านั้น เมื่อได้ทำนองมาแล้วจึงแต่งใส่เนื้อลงไปได้พอดี
         เพลงนี้มีชื่อเต็มว่า "เพลงลาทีกล้วยไม้" เกิดขึ้นก่อน เพลงกล้วยไม่ลืมดอยของพรานบูรพ์ซึ่งแต่งไว้ในละครเรื่อง โจ๊โจ้ซัง แสดงที่โรงหนังพัฒนากร เมื่อวันที่ 13 - 15 พฤศจิกายน 2477 (กล้วยไม้ของเราแต่เก่าก่อน อยู่ในดงดอนเจ้าซ่อนช่อซ่อนใบ...)
http://www2.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9470000036030

เพลงลาทีกล้วยไม้(กล้วยไม้)
        คำร้อง ขุนวิจิตรมาตรา ทำนอง ร.ท.มานิต เสนะวีณิน รน.
         โอ้ว่ากล้วยไม้เอย ก่อนนี้เคยเป็นดอกไม้ไพร
        หญิงได้เด็ดแซมผม ชายได้ดมชื่นใจ
        นึกจะเด็ดดม ได้สมนึกใน
        มาเป็นเมืองไม้ ได้แต่ชำเลืองไกลไกล
        ให้แสนอาลัยจริงหนา โอ้กล้วยไม้จำลาที
        โอ้ว่ากล้วยไม้เอย ก่อนไม่เคยเป็นดอกไม้ใคร
        ได้กระเช้าแล้วเหนอ ทั้งกระเชอในไพร
        ได้ที่ทิ้งถิ้น แปลกสิ้นเปลี่ยนไป
        มามีเจ้าของ ก็ได้แต่มองถอนใจ
        ด้วยความอาลัยเจ้านา โอ้กล้วยไม้จ๋า ลาที

--------------
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=261325
 เพลง..กล้วยไม้
คำร้อง/ทำนอง " ครูพรานบูรพ์ "
ข้บร้องต้นฉบับโดย " คุณอารีย์ นักดนตรี "

กล้วยไม้
คำร้อง...ทำนอง พรานบูรพ์
ขับร้อง..อารีย์ นักดนตรี

กล้วยไม้ ของเราแต่เก่าก่อน
อยู่ในดงในดอน เจ้าซ่อนช่อซ่อนใบ
ไกลภู่ ไกลผึ้ง เจ้าอยู่ถึงไหนไหน
ใครจะเด็ด จะดมได้ เราไม่เห็นเลย
ใครจะเด็ด จะดมได้ เราไม่เห็นเลย
โอ้ กล้วยไม้เอย
น่าชื่น น่าเชย เจ้าไม่เคยชอกช้ำ
เช้า สาย บ่าย ค่ำ
ชื่นบ่ช้ำชอกเลย

เดี๋ยวนี้ ดูรึกล้วยไม้
มาชูช่อ ชูใบ บานอยู่ในกระเช้า
ลืมดง ลืมดอย ที่เคยอยู่ก่อน อยู่เก่า
ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉาลง
ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉาลง
โอ้ กล้วย ไม้ เอย
เจ้าไม่น่าเลย ที่จะมาใหลหลง
เจ้าลืมสุมทุม พุ่มพง
ลืมดงดอย.. เอย


ขออภัยครับ คลิก "ที่มา" ผิดไป
"ที่จะมาใหลหลง" ผมขออนุญาตแก้ไขคำพิมพ์ใน web "ไหลหลง" ด้วยครับ
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
13 พฤษภาคม 2014, 01:33:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #195 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 01:33:PM »
ชุมชนชุมชน

คุณ พี.พูนสุข ถามว่า  "ตรงกันกี่คำตอบเอ่ย..???"

555 เยี่ยมครับ ถูก

๑) ในพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 5 "นิราศกาญจนบุรี"

        กล้วยไม้ไต่ไม้ค่าง     รัถยา
ส่งกลิ่นตลบมา                   เฟื้องฟุ้ง
กลกลิ่นขนิษฐ์นา                 รีรัตน์
หอมตลบอบมุ้ง                   รุ่งเช้ายังหอม

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=18595

๐ "กล้วยไม้" อายอวล     ดุจกลิ่นนวล รำจวนหา
ดอกแย้มแต้มผา           ระดะดื่นดาษ พิลาสไพร

๒) เป็น "ชื่อเพลง" (ไม่ทราบว่า รู้จักทั้ง ๒ เนื้อไหมครับ)
๓) "กล้วยไม้" ใกล้ม้วย 555
๔)  เชิดชูครูไทย   คุรุวารบท ประณตคุณ

...กล้วยไม้มีดอกช้า  ฉันใด
การศึกษาเป็นไป      เช่นนั้น
แต่ดอกออกคราวไร   งามเด่น
งานสั่งสอนปลูกปั้น    เสร็จแล้วแสนงาม

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
http://www.royin.go.th/th/webboardnew/answer.php?GroupID=1&searchKey=&searchFrom=&searchTo=&PageShow=&TopView=&QID=12907


555 ส่วนประเด็นนี้ ข้าเจ้ายอมรับ บ่ฮู้ เลย บอกหน่อย ๆ 555

๐ "กล้วยไม้" ใสซื่อ       นรเล่าลือ ระบือนาม
มอบรักงดงาม             อุระแหลกลาญ เพราะชายลวง



ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤษภาคม 2014, 10:32:AM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #196 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2014, 10:32:AM »
ชุมชนชุมชน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

....พร้อมพลันจะทุ่มเท.............มิหันเหมุรับใช้
รักแผ่ผลิผลให้......................ประโยชน์ได้ระรื่นเย็น
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
30 พฤษภาคม 2014, 12:06:PM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #197 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2014, 12:06:PM »
ชุมชนชุมชน

อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

....พร้อมพลันจะทุ่มเท.............มิหันเหมุรับใช้
รักแผ่ผลิผลให้......................ประโยชน์ได้ระรื่นเย็น


อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

....รักพร้อมริร่วมฝัน..............*ยุติธรรม์ขจัดเข็ญ     (*อ่าน ยุ-ติ-ทัน)
เพื่อผองสิยอมเป็น.................พละเข่นพิฆาตภัย (๗๙๓)
ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 มิถุนายน 2015, 09:31:AM
toshare
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 303
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,388



« ตอบ #198 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2015, 09:31:AM »
ชุมชนชุมชน

...ร่วมแรงสิผองเพื่อน..........จะลุเดือนจะหมดวัน
สามปีกะจบนั้น.................ทะลุกันประกาศชัย

...ผองเรา ฤ ยอมแพ้...........มนแน่ทะยานไป     (มน อ่าน มะนะ)
ฝากชื่อระบือไกล...............มิคุไว้"ละอ่อนจัง"

...เจ็ดวันมุทุ่มเท................บ่ละเห ฤ สิ้นหวัง
แข่งใดกระจายดัง...............มิจะขลัง"ชนะตน"
(๙๕๓)
ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 8 9 [10]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s