.. บทประพันธ์ ที่ฉันชอบ..❤...
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 08:28:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: 1 2 3 4 5 [6]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: .. บทประพันธ์ ที่ฉันชอบ..❤...  (อ่าน 149582 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
14 กุมภาพันธ์ 2014, 01:41:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #100 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2014, 01:41:AM »
ชุมชนชุมชน


ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตค่ะ


(¯`♥´¯)..❤
.`•.¸.•´(¯`♥´¯)..❤
******.`•.¸.•´

 ๐๐ วาเลนไทน์ ๐๐


ฉันเป็นเช่นไรไม่แจ้ง
เฝ้าแฝงฝันใฝ่ใจเผลอ
ทุกวันมั่นปองมองเธอ
เมื่อเจอจิตรื่นชื่นใจ


หอมเอยกุหลาบซาบซ่าน
แย้มบานงามงดสดใส
รับขวัญวันวาเลนไทน์
เหมือนใครคนหนึ่งซึ้งจินต์


ดอกนี้สวยสุดดุจแก้ว
บานแล้วกลางใจไม่สิ้น
ทั่วภพจบฟ้ามาดิน
อวลกลิ่นชุ่มชื่นยืนนาน


สุขกายหายเหงาเช้าค่ำ
ดื่มด่ำด้วยรสพจน์หวาน
หวิววาบอาบทรวงดวงมาน
ทุกวารแว่วคำรำพัน


ใจปลิวลิ่วลอยคล้อยเคลื่อน
เบาเหมือนปุยเมฆเฉกฝัน
โลกล้วนชวนชื่นคืนวัน
สุขสันต์โศกสร่างห่างลวง


พะวงหลงปลื้มลืมหมด
รินรสหอมหวานปานสรวง
หวังได้ฟูมฟักตักตวง
ทั้งห่วงกลัวหายคลายคลอน


อาเพศเหตุไรใคร่รู้
สุดสู้เสาะให้ใครสอน
สงสัยใช่รักจักวอน
อย่าจรสนใจใคร่จอง



ดาว อาชาไนย
แห่งเสี้ยวอารมณ์กลอน


(¯`♥´¯)..❤
.`•.¸.•´(¯`♥´¯)..❤
******.`•.¸.•´(¯`♥´¯)..❤
************.`•.¸.•´(¯`♥´¯)..❤
******************.`•.¸.•´


 สาวน้อยหัวเราะ ขอขอบคุณอาจารย์ดาว อาชาไนย สำหรับบทกลอนที่ไพเราะงดงามมากค่ะ เคารพรัก



<a href="http://www.youtube.com/v/7AgTJcWTdi4&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/7AgTJcWTdi4&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : muneenoi, แป้งน้ำ, รพีกาญจน์, ดอกกระเจียว, ชลนา ทิชากร, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
20 กุมภาพันธ์ 2014, 07:01:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #101 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 07:01:AM »
ชุมชนชุมชน




~☀ ขณะเธอ ☀~

ขณะฉันงันงกตกประหม่า
 เธอเฉยชาหน้านิ่งสิ่งที่เห็น
ขณะฉันหวั่นไหวใจลำเค็ญ
 เธอเยือกเย็นเป็นสุขทุกข์ไม่มี

 ขณะฉันอั้นอัดรัดรุมอก
 เธอหยิบยกถกเงื่อนเลื่อนถอยหนี
 ขณะฉันมั่นใจให้ภักดี
 เธอคิดตีลี้หลบจบเรื่องราว

 ขณะฉันมั่นใจในความรัก
 เธอชะงักผลักไสไม่บอกกล่าว
 ขณะฉันฟันฝ่าหาดวงดาว
 เธอหยุดก้าวราวเหนื่อยเมื่อยเหลือเกิน

 ขณะฉันปันเหงื่อเพื่อร่วมก่อ
 เธอหลอกล่อพอใจไม่ขัดเขิน
 ขณะฉันมั่นใจในทางเดิน
 เธอมองเมินเพลินใจใครอีกคน

 ขณะฉันดันอุ้มทุ่มเทให้
 เธอห่างไกลใจเพริดเกิดสับสน
 ขณะฉันหวั่นไหวในกมล
 เธอสุขล้นคนเสริมเติมอารมณ์

 ขณะฉันฝันดีมีความหวัง
 เธออยากยังตั้งหน้าหารักถม
 ขณะฉันฝันค้างอย่างระทม
 เธอสุขสมชมชอบกอบกรรมกาม

ประพันธ์โดย

"กานต์ฑิตา"
๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๔


(๓๓๑)

ขณะเธองันงกตกประหม่า
 ฉันพะว้าพะวังยังเกรงขาม
 ขณะเธอหวั่นไหวในทุกยาม
 ฉันถูกหนามรักแกล้งแทงชีวี

 ขณะเธออั้นอัดรัดรุมอก
 ฉันเหมือนตกหลุมไฟไหม้ร้อนจี๋
 ขณะเธอเต็มใจให้ภักดี
 ฉันเหมือนมีเพียงฝันอันยืดยาว

 ขณะเธอมั่นใจในความรัก
 ฉันอกหักห่างไกลหัวใจสาว
 ขณะเธอฟันฝ่าหาดวงดาว
 ฉันปวดร้าวและเหงาเมื่อเขาเมิน

 ขณะเธอปันเหงื่อเพื่อร่วมก่อ
 ฉันเริ่มท้อสุดเศร้าเขาห่างเหิน
 ขณะเธอมั่นใจในทางเดิน
 ฉันลุยเพลินขวากหนามความมืดมน

 ขณะเธอหันเหทุ่มเทให้
 ฉันกลับไร้เริ่มรับความสับสน
 ขณะเธอหวั่นไหวในบัดดล
 ฉันรู้ตนไหวหวั่นจำซานซม

 ขณะเธอฝันดีมีความหวัง
 ฉันกลับพลั้งพลาดคำจำขื่นขม
 ขณะเธอฝันค้างทางอารมณ์
 ฉันสิตรมฝันค้างทางชีวี

ประพันธ์โดย

 ดาว อาชาไนย
 แห่งเสี้ยวอารมณ์กลอน
  สาวน้อยหัวเราะ ขอขอบคุณอาจารย์กานต์ฑิตา และอาจารย์ดาว อาชาไนยผู้ซึ่งได้สร้างบทประพันธ์นี้ ไพเราะงดงามมากค่ะ  เคารพรัก




<a href="http://www.youtube.com/v/4nt6yI-L4ps&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/4nt6yI-L4ps&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, แป้งน้ำ, muneenoi, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์

ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
20 กุมภาพันธ์ 2014, 02:16:PM
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« ตอบ #102 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 02:16:PM »
ชุมชนชุมชน

(หมายเหตุ-ขอมาร่วมแจมเฉยๆ ไม่ถือว่าเป็น "บทประพันธ์ที่ฉันชอบ" ของ "รัตนาวดี" นะจ๊ะ..เพราะคงไม่เพราะขนาดนั้น55 ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)

*ขณะที่*
(แก้ "ขณะเธอ" ของคุณ "กานต์ฑิตา")

ขณะที่..เธองกงันขวัญประหม่า
ฉันทำท่าหน้าตายคล้ายเธอเห็น
ขณะที่เธอหวั่นไหวใจลำเค็ญ
ฉันทำเป็นหน้าชื่นแต่อกตรม

ขณะที่..เธออัดอั้นกระสันอก
ฉันเหมือนตกโลกันตร์วันขื่นขม
ขณะที่เธอเต็มใจให้ภักดิ์ชม
ฉันเฝ้าบ่มความหวังตั้งตารอ

ขณะที่..เธอมั่นใจในความรัก
ฉันเฝ้าถักสายใยในรักก่อ
ขณะที่เธอคว้าดาวสาวพะนอ
ฉันต้องท้อเพราะเป็นได้แค่เพียงดิน

ขณะที่..เธอปันเหงื่อเพื่อร่วมก่อ
ฉันสานต่อหยาดเหงื่อเพื่อโฉมฉิน
ขณะที่ทางเดินนั้นเธอมั่นจินต์
ฉันกลับสิ้นทางรักประจักษ์ตน

ขณะที่..เธออุ้มทุ่มเทให้
ฉันขาดใจเสียก่อนตอนรู้ผล
ขณะที่เธอหวั่นไหวในกมล
ฉันสับสนยิ่งนักรักจอมปลอม

ขณะที่..เธอฝันดีมีความหวัง
ฉันก็ยังเอาใจใฝ่ถนอม
ขณะที่เธอฝันค้างบนทางตรอม
ฉันก็พร้อมยอมเจ็บ..เพื่อเก็บเดน

ประพันธ์โดย

มุนีน้อย


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รัตนาวดี, พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..
20 กุมภาพันธ์ 2014, 04:25:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #103 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 04:25:PM »
ชุมชนชุมชน


 ตบมือให้  สาวน้อยหัวเราะ  ตบมือให้  ยิ้มแบบรักนะ..  ตบมือให้  ขอจีบ...ได้ป่ะ  ขอจุ๊บ..หน่อย

 ฉลองกัน ขอบคุณท่านพี่มุนีน้อยจ้า... เคารพรัก


แหม..หัวช่างช่างแหลมเหมือนหัวลิง (ตามคำพังเพยมีความหมายนะคะ   ยิ้มหน้าใส)


ชอบอ่านกลอนท่านพี่( พี่หลวงใช่ป่ะ อะไรวะ...งง ว่ะ) ตามอ่านติดงอมแงมเลยค่ะ


ขอให้มีความสุข สนุกกับเขียนกลอนทุกวันนะคะ


แต่งนิทานกลอนเก่ง เป็นรูปเรื่องราวทุกวัน ให้พวกเราอ่านอย่างมีความสุข


หนึ่งในล้านนะเนี่ยะ  ขอจีบ...ได้ป่ะ


  ส่งจูบจ้ะ ในนามบ้านกลอนไทย


   เคารพรัก  ขอคารวะขอบคุณผลงาน และน้ำใจ ของท่านพี่มุนีน้อย มา ณ ที่นี่เจ้าค่ะ  เคารพรัก




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : พี.พูนสุข, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, muneenoi

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
02 มีนาคม 2014, 10:55:AM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #104 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 10:55:AM »
ชุมชนชุมชน

บทสภาขุนช้างขุนแผน (ความเก่า)
ตอน ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง
ผู้ประพันธ์: ไม่ปรากฎ

ชมพลางทางคิดถึงวันทอง
ให้ขุ่นข้องเคืองแค้นระคายหนัก
ไม่ควรเลยน้องเอ๋ยมาหน่ายรัก
เกรงจะชักช้ามุ่งมาหัวนอน

เห็นขุนช้างสอดกอดนางหลับ
ถอดดาบจะสับสักสิบท่อน
พรายห้ามตัวสั่นใคร่ฟันฟอน
จิตใจค่อนค่อนจะใคร่ฟัน

พรายยึดยิ่งเหี้ยมเตรียมตรมใจ
กูจะฟันมันให้ขาดสะบั้น
ถีบพรายกุมารที่วิ่งกัน
ไว้มันทำไมไอ้งูพิษ

ฝ่ายพรายกุมารจึงว่า
จะฆ่าเขาทำไมจะได้ผิด
เขาก็เป็นข้าเฝ้าเจ้าชีวิต
พระทรงฤทธิ์จะว่าเราไม่ยำเยง

ขุนแผนว่าจะผิดให้ผิดไป
ให้สาสมแก่ใจมันคุมเหง
อาจทำกูได้มันไม่เกรง
ใช่การของเอ็งกูแค้นนัก

ถีบขุนช้างที่หว่างอก
พลัดตกจากเตียงเสียงดังอัก
ทุดทำแก่กูดูหมิ่นนัก
เมียกูมรึงลักมาแนบนอน (โอ้...แก้คำไม่สุภาพให้ด้วย  หัวเราะยิ้มๆ)

<a href="http://www.youtube.com/v/GUppZHgbRzs&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/GUppZHgbRzs&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ที่มา:http://www.youtube.com/watch?v=GUppZHgbRzs

โอ๊ย!!! ฟังแล้วรันทวย...ไพเราะและเป็นธรรมชาติที่สุดเลยครับ  หน้าโคตรลามกน้ำยายไหย
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

02 มีนาคม 2014, 11:28:AM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #105 เมื่อ: 02 มีนาคม 2014, 11:28:AM »
ชุมชนชุมชน

นิทานเวตาล เรื่องที่ ๖
พระนิพนธ์ใน พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ (น.ม.ส.)

กาพย์ฉบัง ๑๖

ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป   ทุกแคว้นแดนไพร
มิอาจประสบพบสุข

ชายใดอยู่เหย้าเนาทุกข์   ไม่ด้นซนซุก
ก็ชื่อว่าชั่วมัวเมา

มาณวกฉันท์ ๘

จงจรเที่ยว      เทียวบทไป
พงพนไพร      ไศลลำเนา
ดั้นบถเดิน      เพลินจิตเรา
แบ่งทุขเบา     เชาวนไว
ข้อความนี้ มี 10 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

16 มีนาคม 2014, 10:56:PM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #106 เมื่อ: 16 มีนาคม 2014, 10:56:PM »
ชุมชนชุมชน



men.sanook.com   ขอบคุณภาพจาก internet ครับ


                        ขอขอบคุณท่านแล้ว                 "รัตนา-วดี"
                    มธุรสวาจา                                หนึ่งให้
                    มาตอบรับภราดา                         ดังจิต แม่เอย
                    นำ"ศิลาสีฯ"ไซร้                          สู่บ้านกานท์สมร

                        นักกลอนนามหนึ่งไซร้               "รัตนา-วดี"
                    นามขจรขจายมา                         แม่เชื้อ
                    นวลนุชหนึ่งกานดา                       กวีเด่น
                    คมเฉียบฉานอะเคื้อ                      คล่าวคล้องสนองใจ     

                        กลอนไทยเรืองรุ่งด้วย               นักกลอน
                   ขับกล่อมกานท์บวร                       ก่อเกื้อ
                   วรรณกวีบ่คลายคลอน                    งามเด่น
                   เอกลักษณ์ชนชาติเชื้อ                    ชื่อชั้นกวีสยาม

                        เรือนงามนามหนึ่ง"บ้าน-            กลอนไทย"
                  เสริมส่งบรรณาลัย                         แกร่งกล้า
                  มนต์ลิขิตสมัย                             สรรค์สื่อ
                  คงอยู่ชูเชิดหน้า                           นบน้อมนานฉนำ


                 ขอบคุณครับ

                 ศิลาสีรุ้ง
                 ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๗


 เคารพรัก  รัตนาวดีกราบขอบคุณท่านศิลารุ้งค่ะ โดนใจ ประทับใจ ปลื้มใจ..  ขอจีบ...ได้ป่ะ (กำลังบ้ายอที่สุด  ขำแบบกระแดะหน่อยๆ) เจ้าค่ะ ส่งจูบจ้ะ ชอบใจๆ เคารพรัก

 ฉลองกัน คือ..สุดยอดโคลง ที่ผ่านสายตา รัตนาวดีจ้า   ตบมือให้ สาวน้อยหัวเราะ ส่งจูบจ้ะ
ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
19 มิถุนายน 2014, 11:01:PM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #107 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2014, 11:01:PM »
ชุมชนชุมชน

จริง ๆ แล้ว สังคมไทยมีการคอรัปชั่นกันมาช้านาน
แต่เรื่องราวต่าง ๆ ก็มักจะถูกกลบหรือทำลายหลักฐานทิ้งไปจากหน้าของประวัติศาสตร์

นิราศหนองคาย
โดย หลวงพัฒนพงศ์ภักดี (ทิม สุขยางค์)


สมเด็จพระปรมินทร์บดินทร์เดช      
ซึ่งปกเกศร่มเกล้าเจ้าอยู่หัว
สดับเรื่องเมืองบนกระมลมัว      
ศึกพันพัวราษฎร์ประเทศในเขตคัน

ด้วยไพร่บ้านพลเมืองจะเคืองขุ่น      
ทรงการุญราษฎรคิดผ่อนผัน
เชิญสมเด็จเจ้าพระยาปรึกษาพลัน
พร้อมด้วยพันธุพงศ์พระวงศ์วาน

เห็นแต่เจ้าพระยามหินทร์เคาซิลลอ
เป็นเนื้อหน่อพงศ์เผ่าเหล่าทหาร
พอจะเป็นแม่ทัพรับราชการ      
ที่รำคาญขุ่นข้องเมืองหนองคาย

แล้วจัดพระยา, พระ, หลวงทั้งปวงอีก
ให้เป็นปีกซ้ายขวาทัพหน้าหลาย
ทั้งเกณฑ์เลขสมฉกรรจ์พันทนาย      
ทั้งเลขจ่ายตามกรมระดมกัน

เกณฑ์เลขทาสทั้งที่มีค่าตัว      
ดูนุงนัวนายหมวดเร่งกวดขัน
ผู้ที่เป็นมุลนายวุ่นวายครัน      
บ้างใช้ปัญญาหลอกบอกอุบาย

ว่าตัวทาสหลบลี้หนีไม่อยู่ (ง่ะ เอกชนคอรัปชั่น หลบเลี่ยงกฎหมาย)
ข้างเจ้าหมู่เกาะตัวจำนำใจหาย
ที่ตัวทาสหนีจริงวิ่งตะกาย      
ทำวุ่นวายยับเยินเสียเงินทอง

เกณฑ์ขุนหมื่นขึ้นใหม่ในเบี้ยหวัด      
ขุนหมื่นตัดเกณฑ์ตามสามเอาสอง (ตั้งเบี้ยหวัดไว้เต็ม แต่เกณฑ์จริงแค่ 2 ใน 3 รับประทานส่วนต่างไปกว่า 30%)
ท่านนายเวรเกณฑ์กวดเต็มหมวดกอง      
เอาข้าวของเงินตราปัญญาดี (ทำทีกวดขัน ที่แท้หวังของเซ่น)

เหล่าพวกขุนหมื่นไพร่ต้องไปทัพ      
ที่มีทรัพย์พอจะจ่ายไม่หน่ายหนี
สู้จ้างคนแทนตัวกลัวไพรี (อิอิ อันนี้ก็คอรัปชั่นครับ)
ที่เงินมีเขาไม่อยากจะจากจร ฯ

ปล.
ใครสนใจก็ลองไปอ่านหนังสือเรื่อง "นิราศหนองคาย วรรณดีที่ถูกสั่งเผา" ของ สิทธิ ศรีสยาม (จิตร ภูมิศักดิ์) ดูนะครับ
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

24 กรกฎาคม 2014, 10:37:AM
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« ตอบ #108 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2014, 10:37:AM »
ชุมชนชุมชน

ว่ากันว่า ตระกูล "พลาย" ของ "ขุนแผน" นั้น มีเชื้อสายมอญ

ในอดีต อาณาจักรต่าง ๆ มีศูนย์กลางอยู่ที่กษัตริย์ ยังไม่ได้มีประท่งประเทศกัน
ผู้มีฝีมือหากเห็นว่าอาณาจักรไหนรุ่งเรือง หรือ มีกษัตริย์ที่น่าศรัทธา เขาก็จะไปสวามิภักดิ์กัน
(เรื่องอาณาจักรโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่กษัตริย์นี่ ผมไม่ได้คิดเองนะครับ
แต่อ่านมาจากหนังสือเชิงวิชาการ เสียดายที่จำชื่อหนังสือไม่ได้
ส่วนเรื่องผู้มีฝีมือนี่ ผมเดาครับ ด้วยคิดว่ามันคงคล้าย ๆ กะ "สามก๊ก" อะไรทำนองนั้น  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)

 
บทเสภาขุนช้างขุนแผนก็มีภาษา "มอญ" ปะปนอยู่ด้วย
ที่เด่น ๆ ก็เป็นนี่ล่ะครับ :-

แล้วพวกมอญซ้อนซอเสียงอ้อแอ้           ร้องทะแยย่องกระเหนาะย่ายเตาะเหย
ออระน่ายพลายงามพ่อทรามเชย            ขวัญเอ๋ยกกกะเนียงเกรียงเกลิง

ให้อยู่ดีกินดีมีเมียสาว                        เนียงกะราวกนตะละเลิงเคลิ่ง
มวยบามาขวัญจงบันเทิง                     จะเปิงยี่อิกะปิปอน

ที่มา: http://www.reurnthai.com/wiki/บทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
       ตอนที่ ๓๓ แต่งงานพระไวยพลายงาม


<a href="http://www.youtube.com/v/1bvcPfaXNF4&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/1bvcPfaXNF4&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

แห่ ๆ แต่ผมแปลไม่ออก... ใครแปลได้...แปลให้หน่อยนะครับ  เอ้อ..จริงว่ะ

ศรีเปรื่อง
๒๔ ก.ค. ๒๕๕๗
ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

17 พฤศจิกายน 2014, 06:31:AM
รัตนาวดี
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 977
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 3,130


❤ ลองล้มลงดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าใครยังอยู่ข้างๆเรา*¨♥


bai.bun.1
« ตอบ #109 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2014, 06:31:AM »
ชุมชนชุมชน

ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต



...คืนฟ้าสาง...

ได้พบกันวันที่มีเราสอง
เฝ้าประคองเคียงข้างสู่ทางฝัน
รอมานานหลายเดือนเตือนใจกัน
อย่าไหวหวั่นวันที่ไม่มีเรา

ได้ที่พักริมน้ำในยามเที่ยง
ขนเสบียงเข้าบ้านย่านป่าเขา
ทั้งเบียร์,ไวน์,หลายขวด ดวด...อย่าเมา
ใต้ร่มเงาดาวเดือนเยือนฝนริน

กินกันไปคุยกันไปสุขใดเท่า
เรื่องที่เราอยากบอกออกมาสิ้น
พี่ร้องเพลงให้ฟังเคยพังภินท์
เจ้ายลยินรินเบียร์แล้วเชียร์บอล

เสียงฟ้าแลบฟ้าร้องน้ำนองแน่
เจ้าไก่แจ้ในกรงมันคงค่อน
แหม ดึกดื่นตื่นไพรยังไม่นอน
จะออดอ้อนถึงไหนหนอใจคน

เมฆครึ้มดำฉ่ำฟ้าทั่วป่าใหญ่
เสียงดังใกล้เข้ามาทั้งฟ้าฝน
คนขี้หนาวอย่างพี่รุกรี้รุกรน
เข้าปะปนปีนป่ายเคียงกายนาง

จนหลับใหลใกล้แจ้งฟ้าแดงแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้วไก่ขันยันฟ้าสาง
ขอนอนต่ออีกหน่อยวันปล่อยวาง
จะเดินทางกันต่อขออีกคืน

ชอบเลือกไปหลายที่ตามรีสอร์ท
ในอ้อมกอดแมกไม้ไกลขมขื่น
ติดริมน้ำฉ่ำใจได้กลมกลืน
วันมะรืนจากไกลอีกหลายเดือน

ไม่อยากมีฟ้าสางต้องห่างน้อง
ยามเกี่ยวข้องเชยชิดมิอิดเอื้อน
อยากหยุดโลกเอาไว้ไม่แชเชือน
ขอร่วมเรือนคนดีชั่วชีวา

ประพันธ์โดย

ไพร พนาวัลย์



 


  ส่งจูบจ้ะ ขอขอบคุณ คุณไพร  พนาวัลย์ สำหรับบทกลอนไพเราะค่ะ เคารพรัก



<a href="http://www.youtube.com/v/Q7dE5nv0CzE&amp;rel=0&amp;fs=1" target="_blank">http://www.youtube.com/v/Q7dE5nv0CzE&amp;rel=0&amp;fs=1</a>

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : spring, รพีกาญจน์, ดาว อาชาไนย

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

..อสงไขย..ใน..ใจ..คุณ...❤... สาวน้อยเซย์ ฮาโหล.....
☆★*•.¸All You Need Is  ℒƠѵℯ ✫*¸.•*¨♥¸.•*★☆
หน้า: 1 2 3 4 5 [6]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s