1 ..
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2008&date=25&group=24&gblog=162 ..
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2008&date=17&group=24&gblog=173 ..
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2008&date=16&group=24&gblog=18อารัมภบท....
๑. ที่..สายน้ำไหลริน..จนสิ้นสุด
คือที่จุดนัดพบ..อรรณพกว้าง
ลบเลือนหลากหลายเป็น..ในเส้นทาง
เหลือเวิ้งว้าง..ขอบฟ้าจดวารี
๒. คือ..แผ่นดินถิ่นเกิด..กำเนิดร่าง
อยู่ท่ามกลางควันไฟ..และใจที่-
คอยกังวล..โองการ..เผยผ่านมี
กับท่าที..ที่ประสงค์..จำนงมา
รูปคราญแห่งบ้านอัมพวา.....
๓. งามเจ้าเอย..ลือเลื่องถึงเมืองหลวง
ความทั้งปวงสอดรับราวกับว่า-
หมายยั่วเย้ยแรงถวิล..ในจินตนา
เพื่อบรรดาจิตชาย..คอยว่าย-วน
๔. เช่นเกสรกลีบกรอง..ละล่องกลิ่น
ย่อมประทิ่นรสสร้าง..อยู่กลางหน
ต่างใดเมื่อรูปคราญ...เผยผ่านปรน-
เปรอจิตจน..เฝ้าละห้อยแต่คอยรอ
๕. ในคาบยามทัพศึก..ไม่นึกว่า-
ราชฉันทะจะแก่กล้าจนกล้าขอ-
รูปคราญให้ถวายตัว...เหนือหัว..พอ-
ได้เติมต่อเบิกบาน..หว่างการยุทธ
๖. โอ้..ละหนอขวัญชาติ..เทียวมาดหมาย-
แต่รูปกายโฉมยุพิน..ไม่สิ้นสุด
ขณะที่พลเตลง...เขาเร่งรุด
ราว..ฉวยฉุดอธิปไตย...ยื่นให้แล้ว
๗. ธิดาน้อย..คหบดีผู้มีราก
แต่ฝั่งฟากอัมพวา..พงศาแก้ว
กิจการนารี..บอกวี่แวว
ว่าเชื้อแถวสั่งสม..อบรมมา
๘. รูปเอยรูปเยาว์...พริ้มเพรานัก
จะกุมกักรอบพิมล...จากค้นหา
ย่อมยากเย็นเข็ญขุกไปทุกครา
ด้วยเล่าลือบรรดา...เกินกว่า-กัน
๙. โดยวัยยี่สิบสี่..วันนี้เจ้า
ร้างรูปชายใฝ่เฝ้า..รุมเร้าขวัญ
เยื่อใยจะผูกย้ำความสัมพันธ์-
เติมแต่งฝันแนบใจ...ก็ไม่มี
๑๐. งามรูปลักษณ์..ศักดิ์สกุลดรุณแก้ว
เช่นพร่างแพร้วรังสิมา..เปล่งราศี
บริบททั้งสิ้นย่อมยินดี-
เสพงามที่เผยให้หัวใจ..ยอม
๑๑. จึงครั้งนั้นไพจิตรนิมิตช่วง
ค่อยค่อยล่วงกำลังเข้าหลั่งหลอม
มีความงดงามล้ำให้ด่ำดอม
และความหอมหวานล้ำเข้ากล้ำกราย
๑๒. เพื่อนบิดา..เจ้าเมือง-ทราบเรื่องราว
ช่วยทูลกล่าวกีดกัน..ว่าหมั้นหมาย-
ร่วมไมตรีตราตรึงกับหนึ่งชาย
ขอพระองค์ผ่อนคลาย...พ้นหมายปอง
๑๓. แต่งเรื่องราวเบ็ดเสร็จ...หลังเพ็ดทูล
ก็สมบูรณ์ความยก..ช่วยปกป้อง
พระดำรัสยอมรับ..พ้นจับจอง
จิตย่อมผ่องใสอยู่ไม่รู้จาง
๑๔. ลูกสาวคหบดี..ผู้มีทรัพย์
คือลำดับความเผยคนเอ่ย..อ้าง
กอปรความหมายแฝงเร้นไม่เว้นวาง
หมายรูปสร้างงามละม่อม..แนบกล่อมทรวง
๑๕. หนึ่งชายชาติรูปงาม..เลื่องนาม-ยศ
ค่อยปรากฎความสู่..ไม่รู้ล่วง
เมื่อบิดาฝากฝัง..ความทั้งปวง
ก็รับรู้แหนหวง..ความห่วงใย
๑๖. คือชายผู้องอาจ..เมืองราชบุรี
เกียรติยศศักดิ์ศรี..เขามีให้
สายสกุลหนุนเนื่อง..แต่เบื้องไกล
อาจนับไปถึงวงศ์พระทรงธรรม
๑๗. จนบิดาสองฝ่ายพลอยหมายมั่น
ผูกสัมพันธ์หนุ่มสาว..ร่วมก้าวย่ำ-
สู่เส้นทางคู่ครอง...ร่วมจองจำ-
สองจิตสัมผัสหมายแห่งสายใย
๑๘. ระทึกเอยอกสาว...เมื่อข่าวล่วง-
ย่อมทาบทวงอกนั้น..จนสั่นไหว
แสนวุ่นวายสับสน...ด้วยคนไกล
ถึงกาลใกล้เยี่ยมหน้า...เพื่อมาพบ
๑๙. แม่หญิงลูกคหบดี..บ้านบางช้าง
ก็สุดทางสุดที่จะลี้หลบ
รอบอุทธัจไหวหวั่นก็ครันครบ
รอบรรจบ..ใจดรุณ..แสนวุ่นวาย
๒๐. จะมีรูปเยี่ยงไร...หนอ-ใครนั้น
ใจหญิงก็ฉับพลัน...พลอยมั่นหมาย
จะแอบพุ่มพฤกษ์หวัง..บดบังกาย
ลอบพิศโฉมรูปชาย..เมื่อกรายมา
๒๑. เมื่อถึงวันกำหนด..เจ้าจดจ้อง
ปีนไม้ป้องบังรอย...นั่งคอยท่า
ชะเง้อมอง..เป้าหมายคอยชายตา
ผ่านพุ่มพฤกษ์พรรณา..รอหน้าคน
๒๒. จวบจนยิน..ศัพท์เสียงสำเนียงแว่ว
ลืมกาย..แก้ว-เท้าเคลื่อน...พลาด-เลื่อนหล่น
ร่วงหมอบท่ามกลางหน้า..สายตา..ยล
จุกเสียดจนร่างงอ..น้ำคลอตา
๒๓. รูปเอย..รูปเยาว์อายเขานัก
มาทอดลักษณ์ลำบากต้องตากหน้า
ให้คนเขาอุ้มร่าง..เยื้องย่างพา-
ไปส่งมือมารดา..แต่ครานั้น
๒๔. น่าแปลกใจไฉนอยู่...ความรู้สึก
กลับระทึกระทวยให้..ห้วงใจสั่น
กลางอ้อมแขนโอบอุ้ม..ร้อนรุ่มครัน
ร้อนรุ่มขวัญ..หวั่นวิตกสะทกสะท้อน
๒๕. นับก้าวสู่เรือนชาน..คล้ายนานนัก
แขนก็กักกุมอยู่ไม่รู้ผ่อน
เหมือนแทรกหมายรุมเร้า..คอยเว้าวอน
สู่เนื้ออ่อนละม่อมพักตร์...จำหลักทรวง
๒๖. ลอบเร้นมองรูปหน้า...ก็ว่างาม
จนวาบหวามใจแก้ว...ไม่แล้วล่วง
พาหอมหวานเข้าประดัง..ใจทั้งดวง
และทาบทวงด้วยถวิลที่ยินยอม
๒๗. จวบแว่วเสียงแม่..พ่อ..ที่รออยู่
จึงค่อยรู้ตัวผก..จาก-อกอ้อม
ทรวงหนึ่งจำข่มกด...ให้อด-ออม
อีกหนึ่งกลับพรั่งพร้อม..จะยอมใจ
๒๘. ซักถามอยู่เซ็งแซ่..เสียงแม่..พ่อ
อีกคนรอฟังถ้อย...แล้วคอยไข
เห็นเหมือนคนหล่นตุ๊บแล้วฟุบไป
คงกิ่งไม้หักป่น...จึงหล่นลง
๒๙. เหลือบชำเลืองวงหน้า...สบตาวับ
ก็แย้มเยื้อน..เนตรพรับ..นัยรับ..ส่ง
แอบความหมายลึกล้ำ..แฝงจำนง
เพื่อโฉมยงค์รับรู้แต่ผู้เดียว
๓๐. คือท่าทีอันสุขุม..คอยรุมเร้า
เตือนเนตรเจ้าเหลือบหา..ละล้าเหลียว
ระทึกอกใจหญิงเสียจริงเจียว
จนเปล่าเปลี่ยววันวานเหมือนลาญลบ
๓๒. คือท่าทีเยือกเย็น..ที่เห็นอยู่
เมื่อสบแววเอ็นดู..ก็รู้หลบ
อ่อนโยนในทรวงขวัญ..ก็ครันครบ
อ่อนหวานนั้นสุดกลบ...ให้ลบกลาย
อ้อมแขน..ที่..แหนหวง....
๓๓. ก็แค่ใจที่ไหวหวั่น...
ครบครันอ่อนโยนที่โชนฉาย
ดูเถิดรุมอยู่ไม่รู้วาย
ทอดสายใยยาวให้ก้าวตาม
๓๔. งามหนึ่งก็ซึ้งซ่าน...
เบ่งบานโบกอยู่..สุดรู้ข้าม
ดูสิ..เนตรใครคล้ายไหววาม-
วับตามอารมณ์..เหมือนสมยอม
๓๕. จะรับรู้บ้างไหม...
คำใครหยัดหยั่งลงหลั่งหลอม
ความแทรก-ซ้ำซ้ำให้ด่ำดอม
เข้ากล่อมตอกตรึง..ใจหนึ่งนั้น
๓๖. คงไม่เคยรู้หรอก...
ระลอกความนัยเริ่มไหวสั่น
ที่ใจหนึ่งใจ..ของใครกัน
หมายมั่นละห้อยหา..ในท่าที
๓๗. ก็แค่ใจที่ไหวสั่น....
หากนั่น..เร้ารุกไปทุกที่
ให้อยู่ด้วยถวิลและยินดี
เต็มปรี่อภิรมย์สุดข่มลง
๓๘. โลกจึงเริ่มโชนฉาย....
และคล้ายกักกุมให้ลุ่มหลง
ฟ้าเอย..ชวาลช่วงทั้งปวงจง-
สืบส่งสาดทอ..อย่ารอรี
๓๙. เพื่องามจักงามยิ่ง...
สรรพสิ่งแจ่มจ้าด้วยราศี
เพื่อใจหนึ่งใจจะไหววี
สู่วิถีเสน่หาแรงอาวรณ์
๔๐. แม้จะนานเนิ่นแล้ว
ยังแผ่วผ่านอยู่ไม่รู้ผ่อน
แผ่วระลอกผ่านคำคอยย้ำวอน
ออดอ้อนอ่อนหวาน..สะท้านทรวง
๔๑. แค่อยากให้รับรู้....
ว่า-หวานซ่านอยู่ไม่รู้ล่วง
หัวใจก็หอมกว่าหอมปวง
หอมจะหวงไว้แทน...อ้อมแขนใคร
๔๒. พ่อแม่ญาติพี่น้อง...เห็นพ้องอยู่
ว่าชายผู้อุ้มงาม...เนตรวามไหว-
รูปกายสูงงามสง่า..เกินหน้าใคร
เหมาะสมด้วยรูปพิไล..ทรามวัยนั้น
งานมงคล....พศ. ๒๓๐๔
๔๓. ครั้งนั้นงานวิวาห์..ชาวบางช้าง
เกิดขึ้นหว่างกลางทรวง..สองดวงขวัญ
เป็นการเริ่มปักปลูกความผูกพัน
เพื่อแบ่งปันสุขโศก...ที่โบกโบย
๔๔. ครั้งนั้น..งานมงคล..มากล้น-ญาติ
ครึกครื้นพาทย์มโหรี..เสียงปี่-โหย
มือบ่าวสาว..น้ำสังข์..ก็หลั่งโปรย
ร่วมน้ำสังข์รินโรย...ก็โดยใจ
๔๕. สายมงคลพาดล้อม..กระหม่อมคู่
สองเนตรรู้สบกัน..พร้อมหวั่นไหว
สะทกสะเทิ้นเขินหน้า...ทีท่าใคร
โอ้กระไรใจหญิง...หวามยิ่งแล้ว
๔๖. ค่ำคืนนี้มองเห็น...แขเพ็ญดวง
เมื่อส่วนทรวงสายสมร..ลมผ่อนแผ่ว
นาสิก-เนื้อ..สบทราบ...เนตรวาบแวว
และอกแก้วอาวรณ์สะท้อนสะท้าน
๔๗. ลมลูบพฤกษ์พรรณใบ..เสียงไหวแว่ว
สะท้านใจเจ้าแล้ว..ทุกแผ้วผ่าน
ประจบทราบรัญจวน..เนื้อนวลคราญ
แผ่วผสานลมร่ำ..นั้น-คร่ำครวญ
๔๘. ลมค่ำดึกเริ่มคะนอง..แรงล่องไหล
เมื่อรูปงาม..อกใจ..เริ่มไห้หวน
ท่ามรูจีเพ็ญแข..ลมแปรปรวน
อกหนึ่งก็จิมจวน...สู่ปรวนแปร
๔๙. น่านนทีลมกระพือ..ก็อื้ออึง
พร้อมใจหนึ่งเริงรุด...จนสุดแก้
หวิวหวาม..ทาบทวงทั้งดวงแด
เผยออกแผ่รอยถวิลในจินตนา
๕๐. งามรูปเยาว์เร้ารุมด้วยสุมนัส
ที่อุบัติผ่านเล่ห์เสน่หา
ละเมียดความหอมหวานแห่งมารยา
ผ่านคุณค่าแห่งรัก..ร่วมตักตวง
.
.