ต่อไป »

[บุคคลทั่วไป]

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)

[Moo Dum]

กระท้อนหวาน  ผ่านทุบ  จนบุบช้ำ
ทุบย้ำย้ำ  ช้ำก่อน  กระท้อนหวาน
ช้ำเพราะทุบ  ยุบไป  ได้ไม่นาน
ก็หวานปาน  ตาลชิม  ลิ้มดอมดม

บอระเพ็ด  เข็ดขม  อมลิ้มฝาด
ขมขยาด  ปาดลิ้น  ไม่สิ้นขม
ลิ้มรสชิน  ลิ้นฝาด  อาจระทม
ชิมรสชม  ขมลิ้น  ไม่ชินเคย

รักรสหวาน  ตาลอ้อย  ย้อยหวานหยด
หวานไม่หมด  มดผ่าน  หวานยิ่งเอ๋ย
อ้อยตาลหวาน  ปานหยด  มดอดเชย
รักหลุดเลย  เฉยหมด  อดหวานชิม

ช้ำชอกรัก  หักอก  ฟกตอกย้ำ
เลือดรินซ้ำ  ช้ำหนัก  กระอักลิ่ม
บทรักขม  ข่มแสบ  ตามแบบพิมพ์
ขื่นมิอิ่ม  ลิ้มขม  ผสมคำ

ตาลหวานฉาบ  อาบชะ  บอระเพ็ด
ขมไม่เสร็จ  เด็ดดม  ชมหวานร่ำ
ขมเพียงนอก  หลอกไว้  ในหวานนำ
ต้องจดจำ  ช้ำมาน  ซ่อนหวานใน

บอระเพ็ด  เช็ดอาบ  ฉาบตาลฉ่ำ
รสหวานล้ำ  ซ้ำซาก  ฝากไว้ให้
หวานไม่หมด  ซดตรม  ขมถึงใจ
เลือกแบบใด  ใครชื่นชม  ขมหวานรวม

Moo Dum

 

[กรกช]

#๓๐

-๐-
หยิบกระท้อน ขึ้นปาด ฝาดลิ้นข้า
เพราะไม่กล้า ทุบไป เกรงใจอยู่
ยอมกล้ำกลืน ฝืนชิม ลิ้มรสดู
ให้ลิ้นรู้ รสชาติ ฝาดอย่างไร
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสบ้าง
รสอ้างว้าง ฝาดล้ำ จะทำไฉน
ไม่กล้าทุบ เพราะห่วง เจ้าดวงใจ
มิอยากให้ ต้องเจ็บช้ำ ระกำแด
-๐-
บอระเพ็ด ขมฝาด อาจหวานได้
หากเคลือบไว้ ด้วยตาล หวานแน่แน่
โบราณคิด วิธีทาน ผ่านการแปร
ที่เนื้อแท้ ขมเคลือบหวาน ไม่หวานจริง
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสขม
ใจตรอมตรม ขมใน เชื่อใจหญิง
หวานฉาบหน้า สดใส ไม่น่าอิง
เมื่อทุกสิ่ง รู้แน่ แท้บ่วงมาร
-๐-
จะหวานตาล หวานอ้อย หวานร้อยรส
หวานไปหมด เหลือกาก ถูกพรากหวาน
ชนชอบลิ้ม ชิมชม ลมรสตาล
เกิดอาการ เสียวฟัน กันทุกคน
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสหวาน
รักแผ่ซ่าน ใจฟูฟ่อง สมองสับสน
ดั่งเป็นโรค เบาหวาน ใจเวียนวน
จำต้องทน ฉีดยา ลดอาการ
-๐-

[...เป็ดน้ำ...]

หวานอารมณ์ผ่องใสวิไลทิพย์
แม้ไกลลิบหาลงยังคงหวาน
ดำรงรักอยู่มั่นนิรันดร์กาล
ยังหวานเช่นวันวานแม่หวานใจ

ดูบางคู่ใกล้ชิดสนิทสนม
รักกลับขมเสียหนักเหมือนตักษัย
เราไกลห่างยังหวานซ่านฤทัย
บางคู่ใกล้กลับขมไม่สมปอง

 

[panthong.kh]

หวานกับขม ผสมกัน มันกว่าแห้ว
กลมกล่อมแล้ว แจ๋วเกิน อย่าเมินหมอง
ภาษิตว่า เอาไว้ ในครรลอง
หวานเป็นลม ขมต้อง ร้องหายา

ด้วยเพราะเหตุ แยกกัน นั้น ไม่ออก
เหมือนจักตอก ไม้ไผ่ ไว้ข้างฝา
เหมือนกระบุง บุ้งกี๋ กี่ปีมา
ยังมีค่า คู่กัน ไม่ผันแปร
พันทอง
 

[กังวาน]

พี่สิตรมขมขื่นเป็นหมื่นแสน
ยังขาดแคลนคนคู่ดูดวงแข
นั่งซึมเซาเหงาหงอยคอยคนแล
มีเพียงแต่น้ำตาหล่นทุกข์ท้นใจ

ถ้ามีเจ้าเข้าเคียงมิเกี่ยงหนี
จะยอมพลีชีวาอย่าหวั่นไหว
หวานจะมอบตอบเธอมิเผลอไป
ขมคงไม่ปรากฎทุกบทกลอน

       ---กังวาน---

[Moo Dum]

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชิม  ลิ้มรสหวาน
ฉ่ำชื่นมาน  ผ่านลิ้น  ชินหวานป้อน
สิ้นหวานยัง  หวังขอ  รอเฝ้าวอน
หวานยังซ่อน  อ้อนซ่าน  มานเฝ้ารอ

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชิม  ลิ้มรสขม
มานช้ำตรม  ข่มลิ้น  ชินขมต่อ
สิ้นขมยัง  หลั่งมา  น้ำตาคลอ
ขมให้พอ  ขอให้พรหม  ชมให้พร

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชิม  ลิ้มรสฝาด
มานช้ำหวาด  อาจคลั่ง  ดั่งถูกต้อน
สิ้นฝาดยัง  นั่งพับ  ไม่หลับนอน
ฝาดฟาดคลอน  ถอนใจ  ไหวฤดี

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชิม  ลิ้มรสเปรี้ยว
มานลดเลี้ยว  เที่ยวไป  ไม่เป็นที่
สิ้นเปรี้ยวยัง  หวังสนุก  ทุกราตรี
ชื่นชีวี  หนีเที่ยว  เปรี้ยวได้ใจ

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชิม  ลิ้มผสม
มีหวานชม  ขมเปรี้ยว  เสียวบาดไส้
หลากรสลิ้ม  ชิมรสรัก  ภักดิ์เพื่อใคร
ฝึกฤทัย  ใฝ่รสธรรม  เพื่อกรรมดี

Moo Dum

 

[ไร้นวล^^]

๐ขมสะเดาเรายังมิชังรส
ขมยาบดบำรุงปรุงป่วยถอน
ขมลิ้นฝ่อบอระเพ็ดไม่เคล็ดคลอน
ขมบังอรใจหินสิ้นสรรพคุณ

๐หวานน้ำตาลซ่านลิ้นก็ชินเบื่อ
หวานว่านเครือตาลอ้อยเดี๋ยวกร่อยกรุ่น
หวานลอดช่องชิมชื่นกลับกลืนคุ้น
หวานละมุนละมัยรักไม่พักรมย์

อ้าว ไม่ทันท่านหมูดำ กลอนผมสัมผัสต่อกับท่านกังวานนะครับ

[Prapacarn ❀]

รักเจ้าเอ๋ย..เคยชิมลิ้มรสโศก
วิปโยคโศกศัลย์..ฝันสลาย
โศกไม่สิ้นเจ็บนักรักกลับกลาย
รักสลายเพราะชิม..ลิ้มรสลวง

รักเจ้าเอ๋ย..เคยชิมลิ้มรสเฝื่อน
น้ำตาเปื้อนด้วยเราเฝ้าแหนหวง
เคยถนอมกล่อมรัก..กลับหักทรวง
กาลลุล่วงรสปร่าช้ำชาชิน

รักเจ้าเอ๋ย..เคยลิ้มชิมรสรัก
หลากหลายนักลวงใจใฝ่ถวิล
ทั้งขม..หวาน เข้าประดังจนฝังจินต์
ตัดรักสิ้น..ตัดมายา..สุขอารมณ์

แซมค่ะ
 

ขออภัยนะคะ.. แซมตกสัมผัสอยู่ประจำ
เพราะบางครั้งเขียนกลอนตอนทำงานบ้าง..ตอนเดินป่าบ้าง..ตอนไปตลาดบ้าง..
และหลายๆครั้งตอนนอนๆ อยู่แล้วนึกขึ้นมาได้ รีบจดๆ...เขียนเสร็จ.. อ้าว!! ไม่สัมผัสใครเลย
 

[Moo Dum]

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชม  ต้นลมหนาว
ขาดหญิงสาว  ร้าวใจ  ไร้รักห่ม
ด้วยล่องลอย  คล้อยล่อง  ต้องทุกข์ตรม
มิสุขสม  ชมชิด  คู่คิดครอง

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชม  ต้นลมร้อน
ขาดหญิงอ้อน  วอนเว้า  เฝ้าปกป้อง
ระอุอบ  ซบใคร  ไม่ดั่งปอง
น้ำตานอง  หมองหม่น  คนมีกรรม

รักเจ้าเอ๋ย  เชยชม  ต้นลมฝน
ขาดหญิงสน  จนใจ  ให้พลอดพร่ำ
เปียกฝนปราย  สายฝน  ทนประจำ
คนใจดำ  จำลับ  กับฝนโปรย

Moo Dum

 

[กรกช]

#๓๒

-๐-
ดอกบานเย็น เห็นงาม ตามสีสรร
เหลืองแดงอัน แจ่มตา หันหาโหย
ไหวไหวดอก สะบัดใบ เมื่อลมโชย
ยามลาโรย เปลี่ยนสีไป ใจเอนเอียง
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสหลอก
คิดว่าดอก จริงแท้ แค่กลีบเลี้ยง
กลิ่นหอมชวน ภมรให้ อยู่ใกล้เคียง
นั่นเป็นเพียง หลอกล่อ หนอดวงมาลย์
-๐-
หยิบพริกสด เมล็ดน้อย ค่อยค่อยเคี้ยว
เผ็ดจริงเชียว หลั่งเหงื่อมา น่าสงสาร
น้ำตาไหล เพราะพิษพริก ล้างอยู่นาน
ป้ายถูกตา แสบซ่าน สะท้านทรวง
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสเศร้า
น้ำตาเรา ใช้ล้างพิษ เหมือนติดบ่วง
สลัดปัด สะบัดไป ไม่พ้นดวง
พิศวาสลวง ต้องยอมแพ้ ต่อแม่นาง
-๐-

บานเย็น (อังกฤษ: Four-o’clocks; Marvel of Peru; ชื่อวิทยาศาสตร์: Mirabilis jalapa L.)
คำว่า Mirabilis ในภาษาละตินหมายถึง ยอดเยี่ยม, สวยงาม, มหัศจรรย์ ส่วนคำว่า Jalapa เป็นชื่อเมืองแห่งหนึ่งในประเทศเม็กซิโก

เป็นไม้ดอกที่สามารถมีดอกหลายสีอยู่บนต้นเดียวกันพร้อมๆ กันได้
นอกจากนี้ในแต่ละดอกอาจมีหลายสีปนกันอยู่ได้เช่นกัน
สีดอกจะเปลี่ยนไปเมื่อต้นบานเย็นมีอายุมากขึ้น เช่น บานเย็นพันธุ์ดอกเหลือง
สีของดอกอาจค่อยๆ เปลี่ยนเป็นชมพูเข้ม หรือ พันธุ์ดอกขาวอาจจะเปลี่ยนเป็นม่วงอ่อนได้

ดอกบานเย็นจะบานในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เป็นต้นไป จึงเป็นที่มาของชื่อไทยว่า "บานเย็น"
หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า "ดอกสี่โมง" (four o'clock flower)
เมื่อดอกบานจะมีกลิ่นหอมจัดแบบกลิ่นหอมหวานๆ
ในประเทศจีน เรียกบานเย็นว่า "ดอกสายฝน" (shower flower) หรือ "ดอกหุงข้าว" (rice boiling flower)
เพราะดอกบานเย็นจะบานในช่วงเวลานั้น ส่วนในฮ่องกง เรียกว่า "มะลิม่วง" (purple jasmine)

ส่วนของกลีบดอกที่เห็นเป็นสีต่างๆ นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่กลีบดอกแท้
แต่เป็นส่วนกลีบเลี้ยง (calyx) ที่เปลี่ยนรูปไปจากปกติและมีเม็ดสี (pigments)
การผสมเกสรเกิดโดยแมลงกลางคืนชนิดที่มีลิ้นยาวซึ่งถูกดึงดูดมาหาดอกบานเย็นโดยกลิ่นหอมที่ปล่อยออกมานั่นเอง

อ้างอิง ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย

[กรกช]

#๓๓

-๐-
ชมบานชื่น ชื่นแต่ชื่อ ไม่ชื่นกลิ่น
บางคนยิน ผ่านหูไป ไม่สนบ้าง
ปลูกประดับ สวนใหญ่ ไว้เป็นทาง
ไม่ตัดวาง ใส่แจกัน อยู่นั่นเอง
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสชื่น
กลายรสขื่น ได้อย่างไร ใจโหวงเหวง
คิดว่าชื่น กลับช้ำ ตามคำเพลง
เรากลับเกรง ขาดไป สายสัมพันธ์
-๐-
หยิบสุรา มาดื่ม ให้ลืมทุกข์
หวังพบสุข กลับเมามัว ลืมตัวฝัน
นึกว่าพบ สุขแน่ ที่แท้พลัน
ทุกข์จาบัลย์ คนเดียว เปล่าเปลี่ยวใจ
-๐-
เหมือนหยิบรัก ขึ้นชิม ลิ้มรสเหงา
ดั่งคนเมา สติคล้าย หายไปไหน
นั่งจ่อมเจ่า เมาทุกข์ สุขหนีไกล
เหงาเพราะไร้ คนห่วง ดวงฤดี
-๐-

[Moo Dum]

หวานเอ๋ยหวาน  มานล้น  ปลูกต้นรัก
ภักดิ์สุดภักดิ์  จักมั่น  แต่ขวัญพี่
ตายเป็นตาย  วายลง  เป็นผงคลี
ปืโกฏิปี  มีรัก  หนักแน่นครอง

นานแสนนาน  บานไว้  ไม่รู้โรย
โหยหาโหย  โบยบิน  ถวิลจ้อง
วันทั้งวัน  ฝันลอย  คอยสมปอง
มองเฝ้ามอง  ต้องตา  น้องยาใจ

งง-งวย-งง  สงสัย  ในรักเร่
เหหันเห  เซล้ม  ตรมหมองไหม้
ร้องร่ำร้อง  น้องเรียก  เพรียกหาใคร
ไปจากไป  ไยทิ้ง  นิ่งเฉยชา

ขมเอ๋ยขม  ข่มใจ  ใต้อโศก
โชคหนอโชค  โบกบิน  สิ้นแล้วหนา
คืนทุกคืน  ฝืนช้ำ  กล้ำน้ำตา
ลาจากลา  อาลัย  ฤทัยตรม

ช้ำสุดช้ำ  ย้ำขม  ลั่นทมร่วง
ช่วงชิงช่วง  บ่วงรัก  มักไม่สม
แผ่วผิวแผ่ว  แว่วเพียง  เสียงสายลม
พรมพลิ้วพรม  ล่มฝัน  สวรรค์จม

ไม่รู้โรย  โปรยหล่น  ใต้ต้นรัก
ดอกใบหัก  รักเร่แซม  แย้มยวนข่ม
ต่างผลิดอก  ออกใบ  ใต้ลั่นทม
แฝงเงาร่ม  ลมโบก  อโศกบัง

Moo Dum