~~~ แต่งกลอนสองบท แปดบาท ไม่ขาดตัว ~~~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
05 พฤศจิกายน 2024, 11:19:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~~~ แต่งกลอนสองบท แปดบาท ไม่ขาดตัว ~~~  (อ่าน 3465 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
16 กุมภาพันธ์ 2013, 01:07:AM
Moo Dum
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


ขอบคุณรูปจาก internet


« เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 01:07:AM »
ชุมชนชุมชน




คู่รักครอง  สองใจ  ในรักมั่น
หวังปลุกปั้น  กันอยู่  สู้เคียงฝัน
ชังชิงให้  ไปนาน  ผ่านคืนวัน
ลาจากกัน  ฝันพัง  ดังคร่ำครวญ

คิดมากด้วย  งวยงง  หลงฤๅรัก
ข้าอกหัก  รักเคลือบพิษ  จิตปั่นป่วน
ตามืดมัว  ตัวเผลอ  เธอเย้ายวน
จันทร์ชมชวน  ครวญพา  กานกฟัง

กลอนสองบทข้างบน อ่านต่อได้อีกสองบท
โดยแต่ละวรรค อ่านจากหลังมาหน้า ตามนี้ครับ

มั่นรักใน  ใจสอง ครองรักคู่
ฝันเคียงสู้  อยู่กัน  ปั้นปลุกหวัง
วันคืนผ่าน  นานไป  ให้ชิงชัง
ครวญคร่ำดัง  พังฝัน  กันจากลา

รักฤๅหลง  งงงวย  ด้วยมากคิด
ป่วนปั่นจิต  พิษเคลือบรัก  หักอกข้า
ยวนเย้าเธอ  เผลอตัว  มัวมืดตา
ฟังนกกา  พาครวญ  ชวนชมจันทร์


Moo Dum

 เคารพรัก

ย้อนกลับไปอ่านบทแรกต่อได้อีกครับ    ขำแบบกระแดะหน่อยๆ

แรงบันดาลใจมาจาก ขับรถไปเจอมอเตอร์ไซด์วิ่งย้อนศรบ่อยๆ
อยากขับย้อนศรมั่ง แต่ทำไม่ได้
เลยมาย้อนศรในบทกลอนแทนครับ    หัวเราะยิ้มๆ

 ไปเที่ยวกันดีกว่า แบร่ๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, ชลนา ทิชากร, Lจ้าVojกaoนบทนี้*, รพีกาญจน์, ♥ กานต์ฑิตา ♥, saknun, จารุทัส, Shumbala, D, เนิน จำราย, สมนึก นพ, Thammada, ลมหนาว, พี.พูนสุข, ค.คนธรรพ์, ดุลย์ ละมุน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 17 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 กุมภาพันธ์ 2013, 06:23:AM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #1 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 06:23:AM »
ชุมชนชุมชน




คุณหมูดำนี่ต้องยอมรับว่าสุดยอดจริงๆ  เจ้าความคิด
เป็นหนึ่งในบรรดาบุคคลที่แต่งกลอนที่ถือว่าคนอื่นทำตามได้ยาก
นอกจากจะแต่งให้อ่านกลับสองอย่างแล้วยังแต่งให้อ่านวนได้อีกด้วย
แต่ว่า..การคิดอะไรที่มันยากๆนั้นมักจะมีบางอย่างที่พลาดครับ(นิดหน่อย)
ดังคำว่าสี่เท้ายังรู้พลาด...  นอกนั้นเมื่อแก้แล้วกลอนบทนี้อาจเทียบชั้น
กลอนแต่งยากๆอย่างกลอนโคลง-โคลงกลอน ของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ได้
(เทียบชั้นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และความยาก) นับถือๆ

 ชอบใจๆ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, saknun, จารุทัส, Moo Dum, Shumbala, D, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, Thammada, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ลมหนาว, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 กุมภาพันธ์ 2013, 10:10:AM
Moo Dum
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


ขอบคุณรูปจาก internet


« ตอบ #2 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 10:10:AM »
ชุมชนชุมชน



ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ ติ ชม จากคุณ “ช่วงนี้ไม่ว่าง”

มิบังอาจ และ ไม่กล้า ไปเทียบชั้นอาจารย์ทั้งหลายครับ

เหตุที่เริ่มมาแต่งกลอน เพราะเป็น ปัจฉิมบท (เหมือนกับภาพยนต์เรื่องหนึ่งตอนนี้)
คือ อดีตเริ่มยาว อนาคตเริ่มสั้น
ก็เลยต้องฝึกสมองมากขึ้น เพราะกลัวเป็นอัลไซเมอร์
งานปัจจุบันส่วนใหญ่ ใช้แต่สมองซีกซ้าย
ก็กลัวสมองซีกขวา ทางด้านงานศิลปะจะฝ่อครับ
พอแต่งๆไป สมองซีกซ้ายทำตัวเป็นหัวหน้า (คุ้นๆแฮะ)
เริ่มเข้ามาวางโปรเจค กำหนดฟอร์แมทประหลาดๆออกมา
ส่วนสมองซีกขวา ก็ต้องหาศิลปะคำกลอนมาใส่ให้ได้

งานชิ้นนี้โหดพอสมควร
แต่สมองบังคับให้ทำให้ได้
พอแต่งเสร็จ อ่านดู ไอยะ... โอว์ ว๊าว... ... เจอข้อผิดหลาด
(ไม่ทราบว่าเป็นผิดจุดเดียวกันหรือเปล่า)
"ใจ" ก็เริ่มหงุดหงิด
ความที่ "ใจ" เป็น Perfectionist (พวกสมบูรณ์แบบ)
ก็สั่งให้แก้ไขซะ
แต่ "สมอง" เป็น Artist (พวกอารมณ์ศิลป์)
บอกว่า นิดหน่อย ช่างมัน
"สมอง" เหนื่อยล้าจ้ะ
แกถูกตามมามากแล้ว เจ้า..."ใจ"
วันนี้ขอขัดซักหน่อย
"สมอง" กับ "ใจ" ยังเคืองกันอยู่เลยครับ

ต่อไปจะให้สมองซีกขวา เป็นช้างเท้าหน้าบ้าง   ยิ้มให้จ้ะ
และลดความประหลาดๆ จากดีกรีของสมองซีกซ้ายลงครับ

ขอบคุณสำหรับนิ้วมือ และคะแนนที่ได้รับจากทุกๆท่าน
น้อมรับไว้ด้วยความเคารพ และยินดีครับ

 เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : Shumbala, saknun, D, จารุทัส, ช่วงนี้ไม่ว่าง, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, สมนึก นพ, Thammada, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ลมหนาว, พี.พูนสุข, ดุลย์ ละมุน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
16 กุมภาพันธ์ 2013, 11:38:AM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #3 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2013, 11:38:AM »
ชุมชนชุมชน






ถึงแม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดไปบ้างแต่ก็ถือว่าเล็กน้อยมากครับ เมื่อเทียบกับแนวคิดสร้างสรรค์ที่แปลกไม่ซ้ำใคร
และต้องถือว่ากลอนบทนี้น่าจะเป็นต้นแบบ  เป็นการบุกเบิกทางให้กับคนที่สนใจในทางนี้ได้เดินสะดวกยิ่งขึ้น
ถ้าสิ่งที่ผมพูดไป คุณหมูดำได้ทราบอยู่ก่อนแล้วก็ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ  หัวเราะยิ้มๆ
และได้โปรดอย่าหยุด   โปรดนำเสนอสิ่งดีๆ แปลกๆใหม่ๆให้เพื่อนสมาชิกได้อ่าน  ได้ศึกษา  ได้เปิดหูเปิดตา
กันต่อไปครับ  จะนับว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อผู้สนใจเป็นอย่างยิ่งอย่างแท้จริง



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, รพีกาญจน์, saknun, สมนึก นพ, Shumbala, Thammada, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ลมหนาว, พี.พูนสุข, Moo Dum, ดุลย์ ละมุน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 09:42:AM
Moo Dum
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


ขอบคุณรูปจาก internet


« ตอบ #4 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 09:42:AM »
ชุมชนชุมชน




          ขอบคุณอีกครั้งครับ
          ยอมรับคำแนะนำ ติ ชม ทุกอย่าง
          ท่านใดไม่สะดวกหน้าม่าน เป็นหลังไมค์ ก็ได้ครับ
          เพื่อจะได้ปรับปรุง พัฒนาตัวเองต่อไป

          ระยะนี้งานยุ่งๆ คงจะห่างบ้านไปบ้าง
          ขอฝากกลอนไว้อีกสองบทครับ

 

สุขชื่นชม  สมมาน  หวานกลอนแต่ง
ถ้อยขันแข่ง  แบ่งปลุก  ทุกข์ปลดเปลื้อง
คอยหลงเฝ้า  เร้ารุม  สุมใจเคือง
เรืองปราดเปรื่อง  เรื่องร้อย  ปล่อยใจลอย


เหมือนเดิมครับ แต่ละวรรคอ่านจากหลังไปหน้า ดังนี้

แต่งกลอนหวาน  มานสม  ชมชื่นสุข
เปลื้องปลดทุกข์  ปลุกแบ่ง  แข่งขันถ้อย
เคืองใจสุม  รุมเร้า  เฝ้าหลงคอย
ลอยใจปล่อย  ร้อยเรื่อง  เปรื่องปราดเรือง

Moo Dum

 เคารพรัก หัวเราะเยาะ

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, สมนึก นพ, ช่วงนี้ไม่ว่าง, เนิน จำราย, Shumbala, Thammada, ♥ กานต์ฑิตา ♥, จารุทัส, ลมหนาว, ดุลย์ ละมุน, รการตติ

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
17 กุมภาพันธ์ 2013, 12:59:PM
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« ตอบ #5 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2013, 12:59:PM »
ชุมชนชุมชน


คงต้องขออนุญาตแต่งเลียนแบบบ้างนะครับ
จริงๆแล้วก็ไม่ได้เก่งมาจากไหนหรอก   ก็แต่งตามแบบตัวอย่างที่คุณหมูดำได้ทำให้ดูนั่นแหละ
ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยจริงๆ  เนื่องจากว่าหาคำได้ยากมาก  กว่าจะแต่งจบได้ก็แก้แล้วแก้อีก
ผิดยังไงก็อย่าว่ากันนะครับ   หัวเราะยิ้มๆ

 เคารพรัก



เห็นหมูดำ  ทำกลอน  อ้อนหมู่มิตร
สร้างประดิษฐ์  คิดเน้น   เป็นหลากหลาย
วางถ้อยล้ำ   คำกลับ   สลับกลาย
บรรจงร่าย  ถ่ายทอดร่าง  ทางกวี

นึกนิยม   สมจินต์  ถวิลหวัง
หลงลุ่มลึก  ตรึกฟัง   ดังวิถี
ยงยืนจัก   รักษ์กานท์  สานสิ่งดี
พรายรุจี  มีศาสตร์ศิลป์  บ่งจินต์พลาง
         


เมื่ออ่านกลับจากหลังไปหน้าก็จะได้ดังนี้ หัวเราะยิ้มๆ


มิตรหมู่อ้อน   กลอนทำ  ดำหมูเห็น ยิ้มแฉ่งฟันหลอ
หลายหลากเป็น  เน้นคิด   ประดิษฐ์สร้าง
กลายสลับ   กลับคำ  ล้ำถ้อยวาง
กวีทาง    ร่างทอดถ่าย   ร่ายบรรจง

หวังถวิล    จินต์สม   นิยมนึก
วิถีดัง      ฟังตรึก    ลึกลุ่มหลง
ดีสิ่งสาน    กานท์รักษ์   จักยืนยง
พลางจินต์บ่ง  ศิลป์ศาสตร์มี  รุจีพราย

ช่วงนี้ไม่ว่าง



 หัวเราะเยาะ ลาตายดีกว่าตู เคารพรัก




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : เนิน จำราย, จารุทัส, รพีกาญจน์, Thammada, ลมหนาว, พี.พูนสุข, Moo Dum, ค.คนธรรพ์, ดุลย์ ละมุน, รการตติ, Shumbala

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
18 กุมภาพันธ์ 2013, 10:59:PM
Moo Dum
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 142
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 247


ขอบคุณรูปจาก internet


« ตอบ #6 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2013, 10:59:PM »
ชุมชนชุมชน


     ท่านสมาชิกในบ้านผู้มีความรู้
     เป็นอาจารย์แนะนำว่า
     กลอนที่เขียนข้างต้น
     ใกล้เคียง (แต่ไม่ใช่) กับกลบทที่ชื่อ "ถอยหลังเข้าคลอง"       
     ลักษณะเป็นกลอนสุภาพ
     โดยวรรคที่สอง เป็นการย้อนคำของวรรคที่หนึ่ง
     และวรรคที่สี่ เป็นการย้อนคำของวรรคที่สาม
     ผมก็เลยแต่งกลบทนี้บ้าง ตามนี้ครับ
     (ไม่รู้ว่าจะกลายเป็น ถอยหลังลงคลอง หรือเปล่าครับ)   ขำแบบกระแดะหน่อยๆ



หลายหลากถ้อย  ร้อยรับ  กานท์ขับขาน
ขานขับกานท์  รับร้อย  ถ้อยหลากหลาย
ใครใกล้ด้วย  ช่วยสอน  ร่ายกลอนพราย
พรายกลอนร่าย  สอนช่วย  ด้วยใกล้ใคร

ใฝ่ครวญนึก  ตรึกตรอง  หมองใจล่อง
ล่องใจหมอง  ตรองตรึก  นึกครวญใฝ่
ยังพรึงพรั่น  สั่นคลอน  ให้ถอนใจ
ใจถอนให้  คลอนสั่น  พรั่นพรึงยัง
 
หวังสมใจ  ไกลทุกข์  มีสุขศรี
ศรีสุขมี  ทุกข์ไกล  ใจสมหวัง
ตัวลืมหลง  ลงนั่ง  งั่งงงงัง
งังงงงั่ง  นั่งลง  หลงลืมตัว

(งูเยอะจัง เต็มหัวเลย   ขำขี้แตกขี้แตน)

ทั่วไปเห็น  เช่นรัก  นานจักหวาน
หวานจักนาน  รักเช่น  เห็นไปทั่ว
ตรมช้ำใจ  ให้ต้อง  กลัวหมองมัว
มัวหมองกลัว  ต้องให้  ใจช้ำตรม

ขมขื่นใจ  ไปกอด  วอนออดอ้อน
อ้อนออดวอน  กอดไป  ใจขื่นขม
คอยพบพาน  หวานชื่น  ห่มรื่นรมย์
รมย์รื่นห่ม  ชื่นหวาน  พานพบคอย

Moo Dum

 ชอบใจๆ เคารพรัก ชอบใจๆ


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ช่วงนี้ไม่ว่าง, ลมหนาว, ♥ กานต์ฑิตา ♥, ดุลย์ ละมุน, รการตติ, รพีกาญจน์, Shumbala, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s