ฤาฝีแปรงแฝงเร้นจากปรโลก
กลบเมฆกลมลมโศก อกุศล
เดือนก็ร้าวดาวเทวษด้วยเศษมนตร์
ดาษสีดำดิ่งปฎล สู่บาดาล
มืดมิดแล้วแก้วเอ๋ยอัจกลับ
มณเฑียรทับทาทาสนิวาสสถาน
คันทวยล้าพร่าระฆังสิ้นกังวาน
ด้วยเล่ห์มากนิรมาณ อภิมุข
มืดมิดแล้วแววสวรรค์แต่วันก่อน
เย็นศิระอดิศร ที่เคยสุข
เหลือแต่รอยร้อนรนระคนทุกข์
เกินซ่อนซุกสาบไหม้ไพร่ชีพราหมณ์
ฤาฝีแปรงแต่งสีจากปีศาจ
มาขู่ฆาตแข่งเล่นให้เห็นขาม
เมื่อแสงทองส่องกั้นประจันยาม
จึงฟ้าครามจะประจักษ์ให้รักรงค์ ฯ
พรายม่าน
สันทราย
๒๑.๑๑.๕๖
ม่านฟ้ามัวสลัวแสงด้วยแปรงสี
สูรย์สุรีย์โรยแสงสิ้นแรงส่ง
แต่งธาษตรีฝีแปรงแสร้งประจง
ดังเถ้าผงธุลีคลี่ห่มคลุม
จึงมืดมิดสนิทนักเจียนจักสูญ
ปฏิกูลกองกล่นจนกลัดกลุ้ม
ฝูงผีพรายกรายกล้ำขย้ำรุม
ทุรชนพลอยสุมประชุมเพลิง
กอปรกลียุคอธิวิปลาส
วิปริตประหลาดปรุงจนยุ่งเหยิง
แต้มเศวตรกาดำดุจดำเกิง
ลุเถลิงแก่อำนาจราษฎร
มิคสัญญีกลียุคจึงปลุกปั่น
พร่าชีวันบูชิตอดิศร
ยังศรัทธาประชาแม้นมิแคลนคลอน
จำราญรอนสู่ฝันวันฟ้าพราว