ถอดความกลอนนึกว่ามาฆ่า....
(ที่แท้ก็มา...)
ยามสามกว่า ฟ้ามืดมัว ทั่วทุกทิศ
กะจะปิด ประตูบ้าน เลยงานเข้า
ขณะที่ ต้องก้มหัว ปิดรั้วเรา
เห็นเป็นเงา น่าสะพรึง ชิดถึงตัว
แขกแปลกหน้า มาเยือน ถึงเรือนฉัน
ยื่นปืนบรร- จุลูก ถูกที่หัว
ร้องก้องขู่ อยู่ข้าง อย่างน่ากลัว
ว่าอย่ายั่ว ประเดี๋ยวยิง ให้กลิ้งเลย
ฉันหวั่นหวาด ขลาดหงอ ต่อคำขู่
ใจไม่รู้ เป็นอะไร ไม่กล้าเอ่ย
แม้แต่หัว ก็ก้มงุด สุดจะเงย
ฝืนยืนเฉย ขาสั่น มิบรรเทา
ชักรักตัว กลัวตาย วอนชายนั้น
อย่าฆ่าฉัน เลยหนอ ขอร้องเขา
หากอยากได้ สิ่งใด ขึ้นไปเอา
ดูตู้เก่า นั่นเก็บทอง ล้วนของแพง
ที่นี่ก็ ตู้เซฟ เก็บสมบัติ
ฉันนั้นจัด เก็บซ่อน ก้อนทองแท่ง
ในใต้เตียง นอนนั้น ฉันจัดแจง
ให้ใส่แบงค์ พันได้ หลายปึกโต
ฝ่ายชายโฉด โกรธฉัน มันกระทุ้ง
จิ้มทิ่มพุง ดังปึ้ก นึกโมโห
ขอก็ให้ ไยหนา ยังพาโล
เมินเงินโชว์ งั้นถามเจ้า เอาอะไร
มันนั้นบอก ตะคอกหู กู..ปวด..ขี้...
ผ่านย่านี้ สุดแสนอ่วม มีส้วมไหม
ก็ขอเข้า ห้องน้ำหน่อย ปล่อยทุกข์ไง
ถ้าช้าไป มากกว่านี้ ขี้แตกเอย...
(ถ้าไม่ให้ กูนะมรึง โทษถึงตาย...)
ป๊าดดดโธ๊...ทีแรกนึกว่ามาฆ่า...ที่แท้ก็มา....555
ถอดใจความจากบทกลอนแล้วได้ความว่า"ยามสามกว่า กะจะปิดประตูบ้าน ขณะต้องก้มปิดรั้ว เห็นเงาน่าสะพรึง
แขกแปลกหน้ามาเยือนถึงเรือน ยื่นปืนบรรจุลูกที่หัว ร้องขู่ว่า เดี๋ยวยิง ฉันหงอต่อคำขู่ ไม่กล้าเงย ฝืนยืนขาสั่น
ชักรักตัวกลัวตายเลยขอร้องเขา อยากได้สิ่งใดขึ้นไปเอา ตู้เก่านั่นเก็บทอง นี่ตู้เซฟฉันเก็บซ่อนทองแท่ง ใต้เตียงนอนนั้น
ใส่แบงค์พันหลายปึก ฝ่ายชายโฉดมันจิ้มพุงดังปึ้ก นึกโมโห ถาม เอาอะไร ? มันบอก กู..ปวด..ขี้.. มีส้วมไหม
ขอเข้าห้องน้ำหน่อย ถ้าช้ากว่านี้ขี้แตก...."