เมื่อน้ำท่วม อ่วมใจ หาใครช่วย
หรือจะรอ ให้ม้วย ด้วยลมฝน
กราบขอพร วอนหา ฟ้าเบื้องบน
ช่วยเมตตา คนจน ทนหลายปี
ทั้งข้าวกล้า นาไร่ ก็ไปหมด
ให้รันทด หดหู่ ต้องกู้หนี้
ต้น,ดอกเสริม เพิ่มพูน คูณทวี
จะปีนี้ หรือปีไหน ได้ลืมตา
ภาคหน่วยรัฐ จัดหา คราเกิดเหตุ
ให้สังเวช แก้ที่ปลาย กันขายหน้า
งบประมาณ จานเจือ เพื่อเยียวยา
ก็เหมือนทา ยาหม่อง ต้องลูบไป
เพียงแก้เคล็ด ขัดยอก ที่ชอกช้ำ
แต่ที่พล้ำ ถูกเชือด หลั่งเลือดไหล
รอวันตาย กายทรุด หยุดหายใจ
จะเยียวยา กันอย่างไร ให้คิดดู
คนยากจน นั้นจะตาย เช้า,สาย,ค่ำ
ต้องหน้าดำ ทุกปี นี่รู้อยู่
เป็นแบบนี้ เรื่อยไป หรือไรกู
โลกรับรู้ เพียงเยียวยา-ทาเข้าไป
เมื่อยามแล้ง แหล่งน้ำ ควรทำขุด
ท่อที่อุด ทางระบาย สายน้ำไหล
อีกแก้มลิง สิ่งช่วยเรา บรรเทาภัย
กลับเฉยไย ไม่ทำ ไม่นำพา
ถึงฤดู น้ำหลาก หากล้นเอ่อ
ทำบังเกอร์ กระสอบทราย ใส่ใจหา
น้ำไม่มี ที่ไป มากไหลมา
จึงเอ่อล้น ท่วมหลังคา ท่วมฟ้าดิน
ระดับน้ำ ภายนอกรวม สูงท่วมหัว
น้ำหลากรัว รวมกัน ตันทางสินธุ์
ด้วยไม่มี ทีทางไป ให้ไหลริน
จึงเต็มถิ่น เอ่อล้นหลาม ท่ามไร่นา
เทวดา ฟ้าฝน หรือคนแย่
ด้วยไม่มี ใครที่แก้ แลอนาถา
เพียงเจียดเงิน ฟาดหัว ชั่วชายคา
ส่งมาม่า ขนมปัง ประทังกลืน
แต่หนี้สิน รุงรัง หลังน้ำลด
ตอผุดหมด อดต่อ ก็เต็มฝืน
น้ำท่วมผ่าน ม่านน้ำตา ข้าเอ่อยืน
ใครหรือคืน ค่าเสียหาย ตายทั้งเป็น