"ฉงน"
ในบางครั้ง มากน้ำใจ ไหลล้นหลั่ง
ดุจเขื่อนพัง น้ำหลาก เชี่ยวกรากไหล
ตกกระโจน โผนผาด ฟาดหัวใจ
รับไม่ไหว หวาดหวั่น ให้พรั่นพรึง
ร่วมถาโถม โลมล้อม พร้อมด้วยรัก
แจ้งประจักษ์ ล้วนลำนำ คำคิดถึง
เสียงตามสาย ร่วมบรรยาย คล้ายตราตรึง
สำเนียงอ้อน หวานซึ้ง น้ำผึ้งอาย
“เฝ้าติดตาม ยามห่าง ไม่สร่างฝัน
ค่ำคืนวัน มั่นจิต คิดมุ่งหมาย
นอนละเมอ เพ้อหา คิดว่าชาย
เคล้าเคลียกาย ไม่ห่าง”... นางวางคำ
เพียงข้ามคืน กลืนวัน เธอผันเปลี่ยน
เหมือนบทเรียน ขาดตอน กลอนถลำ
วางอักษร เกลื่อนกลาด ขาดบทนำ
วกวนซ้ำ คำไข ในอารมณ์
....ใดดานดล คนคล้อย ไหลลอยลิ่ว
ถูกพัดปลิว หลุดหลัก สลักขม
โยกไหวเอน เลนเท เพอารมณ์
ตัวติดตม เติมต่อ หนองงงัน
เป็นเพราะคน หรือบนฟ้า มากำหนด
สุดกำสรด หมดชื่น คืนสุขสันต์
ให้ฉงน คนหนอคน ท้นรำพัน
ใครไหนกัน เจอเหมือนเรา...เฝ้ารำพึง.
บ้านริมโขง