~"เรื่องสั้นขำขัน ของคนครูลักพักจำ?"~(เกี่ยวกับการเขียนกลอนครับ)..
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:21:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ~"เรื่องสั้นขำขัน ของคนครูลักพักจำ?"~(เกี่ยวกับการเขียนกลอนครับ)..  (อ่าน 2828 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
18 พฤศจิกายน 2010, 01:06:AM
ระนาดเอก
webmaster
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 780
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,732


~พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ~


profile.php?id=100024533527747
เว็บไซต์
« เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2010, 01:06:AM »
ชุมชนชุมชน

~"เรื่องสั้นขำขัน ของคนครูลักพักจำ?"~
หนุ่มรักคุด,ตกงานเขียนกลอน
ตอน "ปล่อยไก่ออนไลน์ ๖๐๐ กว่าสำนวน"

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

หลังจากตื่นนอนกลางวัน ของทุกวันอันเป็นกิจวัตรของกวียานเกาะ (เกาะแม่)
หนุ่มใหญ่รักคุด(อายุเกือบจะห้าสิบ) ก็เดินเกาก้นแกรกๆเข้าครัว หาขวดกาแฟที่แม่ต้องแอบซ่อน
เพราะเล่นกินแบบไม่เคยควักเงินซื้อ
เฮ้ย..วันนี้จะเขียนกลอนหลีสาวเรื่องอะไรดีวะ
นึกถึงหน้าแฟนเก่าที่หล่อนทิ้งไปเพราะความไม่เอาถ่านของตัวเอง
กะว่าจะเกาะเพื่อตั้งตัวสักหน่อยดันรู้ทัน เธอ"น้องศรีธัญญาที่รัก?"..
ถึงมีผัวแล้วพี่ก็ยังร๊ากกก ก๊าก หวังว่าเธอคงจะเข้ามาอ่านบทกวีของพี่ อุตส่าห์ตั้งนามปากกา
ให้มีชื่อเธอพ่วงอยู่ท้ายด้วย เผื่อเธอจะซึ้งใจทิ้งผัวทิ้งลูกกลับมา เลี้ยงพี่แทน ..ก๊าก
รำพึงรำพัน อย่างสติแตกตอนยาลดโฮโมนทางประสาทกำลังเริ่มจะหมด..!!
.
ฉับพลัน!!..ก็มีเสียงเรียกจากเด็กชั้นประถมใกล้บ้านมายืนตะโกนเรียกที่หน้าบ้าน
"ลุงๆ..อยู่มั๊ย ลุง..แม่หนูให้เอาการบ้านมาให้ช่วยดูให้หน่อย"
เสียงเด็กหญิงอายุราว ๙ - ๑๐ ขวบ ท่าทางเฉลียวฉลาดตะโกนเสียงโหวกเหวก
"อยู่ๆ..อีนาง(โว้ย).." หนุ่มรักคุดตอบอย่างหัวเสีย ฉุนที่เด็กเรียกลุง
พลางมัดผ้าขาวม้าให้ดูทะมัดทะแมงเดินไปเปิดประตูรับต้นเสียง
"ลุงๆ..ช่วยดูกลอนนี่ให้หนูหน่อย หนูแต่งเองอ่ะ!พรุ่งนี้จะต้องส่งครู?"
เด็กละล่ำละลักเสียงเจื้อยแจ้ว  แล้วพูดต่อ
"เห็น แม่หนูบอกวันๆลุงไม่ได้ทำมาหากินอะไร เห็นแต่งกลอนหลีสาวออนไลน์ทั้งวัน
น่าจะรู้เรื่องเลยเอามาให้ตรวจดูก่อนส่งครูเก็บคะแนน"
แค่ได้ยินคำว่ากลอน หนุ่มรักคุดตาวาว รีบชิงตอบอย่างอารมณ์ดี
"มาถูกที่แล้วอีนางเอ้ย..มาๆเอามาดูหน่อย?"
ว่าแล้วก็อ่านกลอนแปดที่เด็กชั้นประถมแต่ง ปากก็วิจารณ์ เขียนดีนี่ เล่นเอาแม่หนูน้อยยิ้มแป้น
"แต่..!! เดี๋ยวพี่จะแต่ง เอ้ยลุงจะแต่งให้..เอาให้ได้คะแนนเต็มเลยของกล้วยๆ"
ว่าแล้วก็ฉวยดินสอ ร่ายบทกวีอันทรงคุณค่าใส่สมุดเด็ก
อย่างที่คิดว่าคุณครูภาษาไทยคนไหนๆคงจะต้องตกตะลึง เมื่อได้สัมผัสผลงานระดับปรมาจารย์ของตน
.
"ฮ่า..เสร็จแล้ว" พูดจบยื่นให้เด็กหญิงรุ่นหลานอ่าน  อย่างพึงพอใจในผลงานของตน
เด็กหญิงตั้งหน้าอ่านอย่างบรรจงทุกถ้อยคำ..แล้วเริ่มสะดุด ขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด
"ลุงๆ..สัมผัสระหว่างบท สระไอกับสระอาย มันใช้รับกันไม่ได้คุณครูสอน..ใครๆก็รู้"
หนุ่มรักคุด ได้ยินเด็กคราวหลานติง พลอยสะดุ้ง
"ตรงนี้อีกลุง..สระอันกับสระอาน..ก็ใช้ไม่ได้" เด็กหยุดนิดหนึ่งก่อนหลุดปาก
"ลุงเขียนไม่เป็นก็ไม่บอกก่อน..เสียเวลา..โธ่?" แล้วเจื้อยต่อ
"อย่างนี้ได้ศูนย์กันพอดี..ของหนูยังเขียนดีกว่าตั้งเยอะ?..แหวะ!!"
ว่าจบก็รวบสมุดในมือหันหลังวิ่งกลับ ทิ้งให้หนุ่มรักคุด สบถอย่างห้วนๆ
"กู..นี่แหละ..เจ๋งที่สุดแล้ว..ครูที่ไหนสอนมรึงวะ"..
ด้วยความหัวเสีย กับกิริยาเด็กรุ่นหลาน..ก็หวังจะแก้ข้อกล่าวหาเด็ก
รีบหาตำราครูบาอาจารย์มาเปิดดู..
.
พอหาเจอเปิดพลิกไปพลิกมาหลายหน้า เหงื่อเริ่มแตกความเครียดเริ่มปะทุ
"เฮ้ย..ไอ้ห่ะ..กูผิดมาตั้งแต่เกิด.." อารมณ์อายเด็กรุ่นหลานวิ่งเข้าแทรก
"ที่ผ่านมา..กูปล่อยไก่มาเป็นฟาร์มเลยนี่หว่า.." นึกถึงบทกวีที่ตัวเองเผยแพร่ทางหน้าสาธารณะ ทางเว็บไซ้ต์
"ยิ่งสองปีที่ผ่านมา ๖๐๐ กว่าสำนวนล่าสุด..?"
พอเริ่มเครียดเริ่มนึกถึงเบียร์ๆเท่านั้นที่ช่วยดับกลุ้มได้
สายตาและมือไขว่คว้าหากระป๋องเศษตังค์ที่แม่ใส่ไว้ซื้อกับข้าวเย็น
เทออกนับได้ไม่ถึงสิบบาท (ซวยฉิบบ่นในใจ)
.
แต่แล้วความชาญฉลาดก็วิ่งเข้าหา พลางเดินตัวปลิวออกนอกบ้านอย่างเร่งรีบ
(ไปเซ็นต์เบียร์ร้านข้างบ้านและให้แม่ตามไปจ่าย..เป็นประจำ)
พอได้ฤทธิ์เบียร์เข้าไปย้อมใจ ก็เริ่มพึมพำ
"กูจะทำยังไงกับ สำนวนที่เผยแพร่ไปแล้วดีวะ (อายคนจังว่ะ)?"
และแล้วความคิดอันแยบยล ที่สุดแสนบรรเจิดก็วิ่งโถมเข้าหา..
"กู..จะเผาตำราๆ..ใครๆจะได้ไม่เห็นว่ากูเขียนผิด..!!" บ่นพร่ำไปเรื่อยเปื่อย
ด้วยอาการประสาทติดตัวกำลังกำเริบ ปากพร่ำไปมือก็กระดกเบียร์ไป
ตาแดงหน้าเริ่มกรึ่มเพราะฤทธิ์ดีกรีของเบียร์
.
พูดพร่ำสาละวนไป ขาก็เดินไปหยิบตำราเก่าๆของครูบาอาจารย์ที่ตนมี
เอามาเผาด้วยอาการทางจิต ประชดความผิดพลาดของตัว
ปากก็พร่ำ “แล้วกูจะมองหน้าเด็กมันยังไงวะ..เสียหน้าฉิบหา..”
ความพลุ้งพล่านยิ่งวิ่งสูงขึ้น..ปากก็บ่นเลื่อนลอย..
“เผามันให้หมด..กูหลงปล่อยไก่ให้คนหัวเราะมาตั้งนาน?”
..เผามันให้หมด..ๆๆๆๆ” เป็นเสียงซ้ำๆซากๆ ดังควบคู่กับควันไฟที่ลอยฟุ้ง
เล็มลามกระดาษจนกองหนังสือกลายเป็นขี้เถ้า
กับอาการทางประสาทที่สอดแทรกเข้าควบคุมร่างกาย
จนเป็นเบ้าเนื้อเดียวกันจนใครๆ สามารถสัมผัสและไม่อาจจะปฎิเสธภาพที่เห็นได้..

ก๊าก ก๊าก โรคจิตนี่หว่า...ไอ้หนุ่มรักคุด..จ๊าก..


๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ปล.ขอขอบพระคุณเรื่องสั้นขำขันเกี่ยวกับการเขียนกลอน จากคุณกันตวีโร บล็อกโอเคเนชั่นครับ

อายแบบน่ารัก
ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  ชุมชน  |  ส่งหัวข้อนี้  |  พิมพ์  
 

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s