พฤษภกาษร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
ความดีก็ปรากฏ กฤติยศฤาชา
ความชั่วก็นินทา ทุรยศยืนขจร
สุภาษิตบทนี้มักถูกยกขึ้นมาเสมอเมื่อผู้พูดหรือผู้เขียนต้องการเน้นให้มนุษย์ทุกคนพึงระลึกถึงผลที่แต่ละคนพึงจะได้รับ หลังจากชีวิตตนดับสูญ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันระหว่างคนที่ทำความดีกับคนที่ทำความชั่ว และแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึงกว่าสองร้อยปีแต่สุภาษิตบทนี้ก็ยังคงอยู่คู่กับสังคมไทย ผู้ทรงพระนิพนธ์บทกลอนนี้คือสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ทางอักษรศาสตร์ และเป็นรัตนกวีของชาติอีกพระองค์หนึ่ง ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานด้านวัฒนธรรมดีเด่นของโลก

สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย วางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า หยุดได้ฉันใด
ลิลิตเตลงพ่าย
พระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์ที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
