Re: ซึ้งไหม............
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 08:03:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ซึ้งไหม............  (อ่าน 64857 ครั้ง)
สายใย
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 600
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,700


ช่างเขาเฮอะ


เว็บไซต์
« เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2009, 06:57:AM »




?ซินเดอเรลล่า?........โดย  ?tanapok?

โอ้แก้วตา เกิดมา แม่ตายไป
อีกพ่อแต่ง งานใหม่ ไว้คลายเหงา
ทั้งแม่เลี้ยง เกียจคร้าน งานไม่เอา
มีลูกติด มิขัดเกลา เหลาดวงใจ

กาลไม่นาน ผ่านไป พ่อก็เสีย(ชีวิต)
ซินของเรา  ถูกเขาเขี่ย เป็นคนใช้
ต้องตื่นเช้า เฝ้างาน สะท้านใจ
น้ำตาใส  ไหลริน แม่ซินเดอฯ

นายสมมุตติ  สุดใจร้าย   ใช้งานหนัก
แม่หนูมัก ถูกทำร้าย ยามเธอเผลอ
ทั้งสามสาว ความทุกข์ ไม่เคยเจอ
หนูซินเดอฯ น้ำตาเอ่อ คอยเปรอปรน



ซินเดอเลน่า โตมา   พร้อมความสวย
อีกร่ำรวย ช่วยมิตรไป   ในทุกหน
ไปแห่งใด มีเพื่อน หลากหลายคน
แม้ยากจน ตนยังยิ้ม  พริ่มอุรา

แต่แม่ใหม่  ยัยพี่พี่   นี้ตรงข้าม
ไร้ความงาม ความดี ไม่มีหนา
ถึงวันหนึ่ง จึ่งฟังข่าว เจ้าชายมา
ประกาศเชิญ เอิ่นประชา มาประชุม

เหตุสำคัญ ท่านเจ้าชาย หมายเลือกดู
จะเลือกคู่ ดูหญิง ซบอิงอุ่น
คู่ฟังเพลง คู่เคียงครอง คู่ใบบุญ
สืบสกุล  คุณสมบัติ  ให้ชัดเเจน  (กษัตริย์ครอง)

คุณแม่เลี้ยง เสียงส่ง   คงยิ้มชื่น
ต่างระรื่น ยืนอ่าน      อยู่นานสอง
หวังให้ลูก   ขวัญใจ   ได้คู่ครอง
นางหมายปอง  สองลูกยา เป็นราชินี

ว่าแล้วเพรียก  เรียกสั่งให้    ยัยซินฯ เซ่อ
อย่าออเออ   รีบช่วยฉัน    ขมันขมี   
จงแต่งหน้า   ให้พี่เจ้า      เอาให้ดี     
สมศักดิ์ศรี    สมหน้าตา    สง่างาม

ซินเดอฯ น้อย    คอยท่า    จะขอแม่
ให้เผื่อแผ่     พาเธอไป     ใคร่ไต่ถาม
แม่ก็ว่า      เหตุไฉน        ใยลามปาม
แล้วเหยียดหยาม    ปรามไว้    ไม่ให้ไป

หนูน้อยถาม   เนื้อความ     ตามสงสัย
เพราะเหตุใด    จึงไม่เคย   ได้ไปไหน
แม่บอกเจ้า    มีงานอยู่    อย่าฟูใจ
รีบทำไซร้     ดูแลบ้าน    สะอ้านดี

อีกทั้งแก     ไม่มี      ราตรีชุด
จึงให้หยุด    เฝ้าบ้านไว้   ในคืนนี้
แม่ไปพร้อม    เหล่าพี่ใหญ่   ไม่รอรี
เลิกงานนี้    แล้วเสร็จสรรพ    จะกลับมา

หนูน้อยบอก   เรื่องงาน   ไม่ต้องห่วง
จะเสร็จได้    พอทัน     วันนี้หนา
ส่วนเรื่องชุด   พอใส่ได้   พ่อให้มา
รอเดี๋ยวว่า      ลูกรีบแผลง    ตบแต่งทา

ซินเดอฯ ว่า   ก็รีบ     ไปหยิบชุด
พี่คนหนึ่ง    แกล้งสะดุด   ฉุดโดนขา
ถ้วยกาแฟ    ร้อนร้อนตก   หกลงมา
โอ้น้ำตา       สาวเจ็บทรวง    ร่วงไหลริน



สามแม่ลูก     แสนดีใจ    ได้ไปงาน
สุขสราญ    หน้าบาน     สมถวิล
หัวเราะห้วน   ดีใจ       ได้แกล้งซินฯ
พลันได้ยิน    เสียงรถม้า    ก็ลาไป

แม่และพี่     สามนั้น        ไปพลันสิ้น
ทิ้งหนูซินฯ   ร้องไห้         อย่างหวั่นไหว
อยู่ดีๆ          มีเหตุครัน     อัศจรรย์ใจ
จอมสวยสวย    พี่นางฟ้า    อยู่หน้าเธอ

อัปสรา      ปลอบว่า     อย่าร้องไห้
ฉันช่วยได้   จะทำให้     สุขเสมอ
เพียงเธอหา   หนูจอมเถื่อน    สามเพื่อนเกลอ
อีกเจ้าหมา    หน้าเซ่อ      อยากเจอตัว

ขาดไม่ได้    คือฟักทอง     หนึ่งผลใหญ่
เทวีวาด       คฑาให้       ไฟสลัว
สาวซินเดอฯ    ใจสั่น      เต้นระรัว
เธอแสนกลัว     ทั้งตื่นเต้น  เห็นแปลกใจ

ทันใดนั้น    ฟักทองกลาย     เป็นรถม้า
สองหนูเป็น    อาชา            สวยสดใส
อีกหนึ่งหนู     คือผู้ขับ         นับนำไป
หมาหน้าใหญ่    กลายเป็นนัก    พลักประตู



แล้วเสกซินฯ      ให้อยู่      ชุดสุดแพง
ก่อนจะแจ้ง      แถลงไข     ให้ได้รู้
บอกสาวเจ้า       วางตัวไว้  ให้น่าดู
และต้องรู้         ดูกระเตื้อง  เรื่องเวลา

ก่อนเที่ยงคืน    ให้เจ้านับ       รีบกลับบ้าน
เป็นเศษถ่าน     เหมือนเดิมแท้   แม่หนูจ๋า
จงจำไว้          และเข้าใจ          ในวาจา
แล้วนางฟ้า       ก็ลา               ถลาไป

แม่หนูเป็น           ดั่งเช่น       เจ้าหญิงน้อย
หน้าตาพริ้ม         ยิ้มชดช้อย  กลอยสดใส
ค่อยค่อยก้าว       ขึ้นรถม้า      ก่อนคลาไคล
สั่งสารถี            ขับรถไป       ให้ถึงงาน



สารถี        ขับไป           ไม่รอช้า
เร่งรีบพา    หนูน้อย       น่าสงสาร
เพราะเกรงว่า จะชักช้า    ไม่ทันการณ์
ขับทะยาน     สู่งานได้     ในทันใด

เจ้าหญิงน้อย     ค่อยก้าวตรง     ลงจากรถ
สุดจะอด        กลั้นยิ้ม           ปริ่มไม่ไหว
นางค่อยค่อย   เยื้องย่างเพลิน    เดินเข้าไป
ทุกคนใน          ท้องพระโรง    โพลงตะลึง

ซินเดอฯ น้อย      ค่อยยิ้ม     พริ้มน่ารัก
ส่วนสาวอื่น      นั้นชัก          จะหน้าบึ้ง
เหตุเพราะซินฯ   สวยใส        ใคร ๆ จึง
อิจฉาซึ่ง        เจ้าหญิงน้อย    พลอยกานดา



เจ้าชายแสน     ถูกใจถึง        จึงเรียกร้อง
ตะโกนก้อง     เมียงมองเดิน   เชิญมาหา
โปรดเต้นรำ     กับฉันหน่อย    อ้อยกัลยา
ผู้มาจาก         ฟากฟ้า        นภาลัย

องค์หญิงโปรด    ให้เกียรติมา    หาสักนิด
ขอจงคิด      เต้นรำกัน        นั่นได้ไหม
แม่ซินเดอฯ     ตอบรับ        ในทันใด
มอบรอยยิ้ม     สดใส          ให้เจ้าชาย

ทั้งสองนั้น          เต้นรำคึก      จนดึกดื่น
เกือบเที่ยงคืน    ซินฯได้นึก      ถึงคำหมาย
ว่าต้องกลับ     ก่อนเที่ยงคืน     พื้นเส้นตาย
ก่อนจะกลาย     เป็นเศษถ่าน   เหมือนวานวัน



ทูลเจ้าชาย        บอกว่า              ขอลาแล้ว
เจ้าชายบอก     อย่าคลาดแคล้ว    เลยจอมขวัญ
ซินเดอฯ วิ่ง        ชิ่งหลอก      ออกไปพลัน
เจ้าชายนั้น          วิ่งห้าม          ตามเธอไป



ถึงหน้าวัง บันไดชัน เธอสะดุด
รองเท้าแก้ว ก็หลุด ลื่นไถล
ซินเดอฯจะ ก้มเก็บ ในทันใด
แต่เจ้าชาย นั้นไซร้ ไล่ตามมา

ซินเดอฯ รีบ วิ่งไป ไม่รอรี
ไม่ชักช้า เร็วรี่ ขึ้นรถม้า
ก่อนเจ้าชาย จะสั่งปิด ทวารา
ราชรถ ก็พา นางลับไป

ฝ่ายเจ้าชาย ก้มลง เก็บรองเท้า
แสงสีขาว ส่องแวววาว พราวสดใส
จึงร้องเรียก มหาดเล็ก มาทันใด
แล้วบอกว่า ธิดาไซร้ ลืมในงาน

ทรงสั่งให้ มหาดเล็ก ออกตามหา
โอ้แม่เทพ ธิดา แม่หน้าหวาน
หาสตรี เท้าเท่า สาววันวาน
มาแต่งงาน รักชั่วกาล ชั่วกัปกัลป์

มหาดเล็ก ถือรองเท้า ไปตามบ้าน
ให้นงคราญ ลองสวมใส่ ว่าใครนั่น
สวมรองเท้า แก้วงามคู่  ที่ดูพลัน
เที่ยวหาหัน เช้า - เย็น ไม่เห็นใคร

มาถึงบ้าน สุดท้าย ปลายนคร
สองบังอร เปิดออกมา หน้าสดใส
มหาดเล็ก เก๊กหล่อผาด ประกาศไป
บ้านนี้มี หญิงใด ไม่แต่งงาน

สองพี่น้อง เสนอตัว ไม่มัวช้า
พูดคะขา เจรจา  ท่าอ่อนหวาน
ว่าหนูเอง ลืมไว้  ในวันวาน
เวลาผ่าน   เนิ่นนานเข้า  ไม่เอาคืน

มหาดเล็ก ต้องเก๊กให้ ลองใส่สวม
หากมันหลวม หรือแน่นอับ  คับสุดฝืน
อย่าเพียรใส่ โปรดถอดส่ง  จำนงค์คืน
ว่าแล้วยื่น    เปลือกสวมน่อง  ให้น้องนาง

สองพี่น้อง ร้องแก่ง   แย่งรองเท้า
ทหารที่   ยืนเฝ้า    เงาตาขวาง
ฉันตัดสิน ยุติธรรม ความเป็นกลาง
ให้แม่นาง คนน้อง  รองหลังเธอ

คนพี่จึง  ขึงพยอง  แล้วรองก่อน
ค่อยค่อยหย่อน เท้านอน  ตอนเสนอ
อำมาตย์บอก หนอกเท้าใหญ่  ไปนะเออ
แล้วบอกเธอ  ถอดปอง  ให้น้องนาง

อำมาตย์ ฝืน   ยื่นไป   ให้น้องไว้
เธอดีใจ  ใส่รวม  สวมดูบ้าง
โอ้เท้าเจ้า   ช่างเล็กเกิน   เชิญเอวบาง
ต้องถอดวาง รองเท้าแก้ว  แล้วคืนไป

คนพี่บอก  คืนนั้นเย็น  เต้นรำหนัก
เท้าก็ชัก  บวมปู๋      จึงดูใหญ่
เท้าบวมเอง   จะให้ทำ    ตามอย่างไร
อำมาตย์ไซร้  ส่ายหน้า   หาเชื่อเธอ

อำมาตย์มอง   ด้วยทำท่า   สายตาขวาง
โอ้แม่นาง   ช่างโกหก   ถกเพ้อเจ้อ
พูดอะไร    ไม่อายเลย   ไม่เคยเจอ
ช่างพูดเว่อร์  เป็นของเธอ  ช่างเพ้อไกล


จึงถามว่า    บ้านนี้      มีหญิงอื่น
ไปเต้นรำ     เมื่อคืน    อื่นมีไหม
สองบังอร   ตอบไม่     ในทันใด
มีก็แต่      สาวใช้     ในครัวเรา

อำมาตย์ขอ   ดูตัวแท้   แม่สาวนั่น
พี่สาวยื่น     คำมั่น     มันไม่ใช่
อย่าชักช้า   เสียเวลา    หาอีกไกล
เก็บแรงไว้   ตรวจสอบ   ตอบเจ้าชาย

อำมาตย์พ้อ   ขอฉันรู้   ดูตัวก่อน
อย่าใจร้อน    กล่าววาจา   ว่าไม่ใช่
ให้ลองสวม    รวมเข้า    จะเท่าไร
คงไม่ใช้       เวลานาน    ที่ผ่านเกิน

แม่เลี้ยงจึง     เออออ  ว่าก็ได้
แล้วเรียกใช้   พี่เจ้า     สาวจอมเดิ้ล
ให้ไปเรียก    สาวซินฯ    ให้ผินเดิน 
ลูกไปเชิญ   ให้มาลอง     ตรองประมาณ์


พี่สาวเรียก    นางเศษถ่าน   วานมานี่
แม่ตัวดี       มาตรงนี้         เร็วรี่หนา
ให้อำมาตย์   ได้ยล        หน้ามนตรา
เพื่อจะหา     ที่ให้เจ้า     อยู่เฝ้างาน


ทหารยื่น    รองเท้าให้     ยัยโฉมยง
สามแม่ลูก   มองอนงค์    คงหน้าหวาน
สองพี่น้อง   แกล้งสะดุด  ฉุดผ้าม่าน
พุ่งทะยาน   ทับทหาร     พาลตกใจ


เสียงดังเพล้ง   รองเท้าตบ   กระทบพื้น
ทุกคนตื่น         กลืนคอแหบ   แทบร้องไห้
แต่ซินเดอฯ      ปลอบว่า       ไม่เป็นไร
ยังคงมี         อีกข้างไซร้        อยู่ในครัว


อำมาตย์แสน     สุขถวิล      ยินนนางพูด
ร้องกู๊ด ๆ         สุดแน่ใจ      ว่าไม่มั่ว
ด้วยบัดนี้         ใจทหาร        สั่นระรัว
เนื่องเพราะกลัว   เจ้าชาย    หมายลงทัณฑ์


นางแม่เลี้ยง      นิ่งอึ้ง      คนึงคิด
แล้วเพ่งพิศ       ถึงงาน      วันวานนั่น
แม่เศษถ่าน       เราก็ไม่     ได้พบกัน
ถามว่าเอา        รองเท้านั้น   มาจากใคร

ซินฯ เปิดเผย    เอ่ยตอบ     มอบความจริง
ว่าทุกสิ่ง       นางฟ้าสวย    ช่วยข้าให้
มีทั้งรถ     รองเท้าแก้ว        แจ่วต่อไป
ร่วมงานได้      เต้นรำผ่าน     สราญครัน

แม่เลี้ยงบอก     นางฟ้านั้น     มันหลอกเด็ก
เจ้าไม่ใช่          ยัยตัวเล็ก      มาเก๊กฝัน
ไปเฝ้าหา      ลักพรากไว้        จากใครกัน
ซินฯบอกพลัน    ฉันเปล่า      เขาช่วยมา

อำมาตย์บอก    เจ้าทั้งสอง     อย่าปองเถียง
แล้วส่งเสียง     บอกทหาร   ทางด้านหน้า
ตามแม่หนู       ไปเอา         รองเท้ามา
เพื่อดูว่า       จริงหรือเปล่า    เอามาดู

ทหารตาม     แม่หนูไป     ถึงหน้าห้อง
แล้วมองจ้อง     หารองเท้า     เจ้าแสนหรู
แม่หนูไป    หยิบรองเท้า      และเอาชู
นี่รองเท้า      แก้วอีกคู่         ดูไม่เชย

แม่เลี้ยงเห็น    ใจไม่เย็น       เต้นตุ๊บตั๊บ
อำมาตย์รับ     กระชับชอบ     ตอบแม่หนู
ขอเธอได้      รีบเร่งรวม             สวมใส่ดู
จะหมายรู้        คู่นายใหญ่        คนไหนจริง



สาวน้อยเดิน       เหินนั่งลง      ตรงเก้าอี้
ไม่รอรี            สวมรองเท้า      พราวเพริศพริ้ง
สามแม่ลูก         จ้องกันใหญ่        ไม่ไหวติง
ทันใดนั้น          เสียงปิ๊ง!!              ดังขึ้นมา

ปรากฏร่าง             เจ้าสาว       สุดแสนสวย
รื่นระรวย            ด้วยกลิ่นหอม  พร้อมพฤกษา
รองเท้าแก้ว          กระทบแสง      สุริยา
เครื่องภูษา             ก็จำแลง        แปลงเปลี่ยนไป



อำมาตย์อึ้ง         นึกไม่ถึง           ตะลึงเงียบ
สุดจะเปรียบ       เทียบเธอดู          กับผู้ไหน
สะคราญสวย     ด้วยรอยยิ่ม         พริ้มพิไล
ดูสดใส            ยิ่งบุปผา             คราแย้มบาน

อำมาตย์จึง             ทูลเชิญทรง        องค์หญิงน้อย
นางค่อยค่อย          ยิ้มสะออน          อย่างอ่อนหวาน
ทหารต่าง              อวยพรชัย          ให้สราญ
แล้วประทับ            ราชยาน            ผ่านสู่วัง

ถึงจุดหมาย          ได้เวลา              มาเกือบบ่าย
ทูลเจ้าชาย           ว่าได้พบ             ประสพหวัง
เมื่อได้ยิน             เจ้าชายยิ้ม         ดุอิ่มจัง
จากบัลลังก์          เสด็จเดิน            เหินออก ไป



เจ้าชายแสน               ดีใจ            ที่ได้พบ
เมื่อประสบ              ก็ถามความ       ตามสงสัย
แม่นางนั้น              มีนามมา          ว่าอย่างไร
เพราะเหตุใด           จึงทิ้งกัน         ให้ฝันคอย


เจ้าชายบอก        รู้ไหม            ใครเป็นห่วง
เจ้าทำให้            ใจทั้งดวง       ทรวงข้าหงอย
เหมือนตัวเจ้า       จะหายไป      ไร้ร่องรอย
 ตัวข้าพลอย       ไม่เห็นสุข       ทุกข์ใจกาย


น้องนางทูล             เจ้าชายว่า         อย่าตัดพ้อ
ข้าก็รอ                พบท่าน             อย่างมั่นหมาย
ด้วยไม่อาจ          รักปอง               ครองเจ้าชาย
ด้วยน้องเปรียบ      เพียงทราย         อยู่ปลายภู


โอ้น้องหญิง              แม่ยอดรัก            ยอดยาหยี
ไยเจ้าจึง                   กล่าววจี                พี่เจ็บหู
หากเจ้าเป็น              เพียงเมล็ดทราย      ที่ปลายภู
พี่ขอคู่                    อยู่กับเจ้า                เนินเนาว์กาล


พระราชา            ราชินี                    จึงแต่งตั้ง
คู่บัลลังก์              ทั้งคู่ด้วย                ช่วยสืบสาน
ครองรักกัน          ยิ่งใหญ่                 ให้เนิ่นนาน
ปกครองบ้าน       ปกป้อง                   เหล่าผองชน





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

พิมพ์วาส, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 พฤศจิกายน 2009, 10:00:AM โดย สายใย » บันทึกการเข้า

หากสิทธิ์ของสายใย ไม่สงวน...(ครับ)

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s