๐ ไม่ใช่ดาว วาววับ ประดับฟ้า
หรือจันทรา งดงาม เมื่อยามฉาย
ไม่ได้มี สีสัน พรรณราย
ทอประกาย เรืองรอง ดั่งทองทา
๐ เพียงก้อนดิน ก้อนหนึ่ง ที่เพิ่งเกิด
ดูเอาเถิด..อย่างไร..ก็ไม่ประสา
จะหยิบปั้น ก็เหยเก เสียเวลา
ป่วยการ..ที่จะมา คอยใส่ใจ
๐ เมื่อไขว่คว้า หาดาว ที่พราวแสง
สํานึกแห่ง โหยหา หยุดสาไถย
จะมัวก้ม เบื้องตํ่า อยู่ทําไม ?
เบื้องฟ้าสูง ยิ่งใหญ่ คงได้เจอ
๐ อย่าหมายมั่น ปั้นดิน ให้เป็นดาว
ดั่งนิยาย เรื่องยาว นําเสนอ
เมื่อผิดรูป ย่อมไม่เกิด ความเลิศเลอ
รังแต่ให้ พรํ่าเพ้อ เพียงลําพัง
๐ คือกฎเกณฑ์ สากล ทุกคนรู้
ดินนั้นอยู่ เบื้องตํ่า ด้วยคําสั่ง
ให้มืดมน หม่นสี อย่างจีรัง
หากแต่เปี่ยมพลัง..แห่งทรนง
๐ จึงฟ้าสูง..เปรียบเรือน ของเดือนดาว
สุกสกาว..ยามพิศ ให้จิตหลง
เมื่อดอกสรวง เริงร่าย ยักย้ายองค์
ก็เมื่อนั้น..ใครคง บรรจงรับ
๐ ข้อแตกต่าง ชี้ชัด บรรทัดฐาน
แม้ล่วงกาล เพียงใด ก็ไม่ดับ
ดินไม่อาจสําแดง..ทอแสงระยับ
เสมือนกับ จันทรา-ดาราราย
๐ แต่ยินยอม เป็นดิน อยู่ถิ่นตน
คิดอาจเอื้อม เวหน ไม่ขนขวาย
แม้ไร้แสง ไร้กลิ่น ประทินกาย
ฉากสุดท้าย..ใครเล่า..ไม่เฝ้าดิน
หรือจันทรา งดงาม เมื่อยามฉาย
ไม่ได้มี สีสัน พรรณราย
ทอประกาย เรืองรอง ดั่งทองทา
๐ เพียงก้อนดิน ก้อนหนึ่ง ที่เพิ่งเกิด
ดูเอาเถิด..อย่างไร..ก็ไม่ประสา
จะหยิบปั้น ก็เหยเก เสียเวลา
ป่วยการ..ที่จะมา คอยใส่ใจ
๐ เมื่อไขว่คว้า หาดาว ที่พราวแสง
สํานึกแห่ง โหยหา หยุดสาไถย
จะมัวก้ม เบื้องตํ่า อยู่ทําไม ?
เบื้องฟ้าสูง ยิ่งใหญ่ คงได้เจอ
๐ อย่าหมายมั่น ปั้นดิน ให้เป็นดาว
ดั่งนิยาย เรื่องยาว นําเสนอ
เมื่อผิดรูป ย่อมไม่เกิด ความเลิศเลอ
รังแต่ให้ พรํ่าเพ้อ เพียงลําพัง
๐ คือกฎเกณฑ์ สากล ทุกคนรู้
ดินนั้นอยู่ เบื้องตํ่า ด้วยคําสั่ง
ให้มืดมน หม่นสี อย่างจีรัง
หากแต่เปี่ยมพลัง..แห่งทรนง
๐ จึงฟ้าสูง..เปรียบเรือน ของเดือนดาว
สุกสกาว..ยามพิศ ให้จิตหลง
เมื่อดอกสรวง เริงร่าย ยักย้ายองค์
ก็เมื่อนั้น..ใครคง บรรจงรับ
๐ ข้อแตกต่าง ชี้ชัด บรรทัดฐาน
แม้ล่วงกาล เพียงใด ก็ไม่ดับ
ดินไม่อาจสําแดง..ทอแสงระยับ
เสมือนกับ จันทรา-ดาราราย
๐ แต่ยินยอม เป็นดิน อยู่ถิ่นตน
คิดอาจเอื้อม เวหน ไม่ขนขวาย
แม้ไร้แสง ไร้กลิ่น ประทินกาย
ฉากสุดท้าย..ใครเล่า..ไม่เฝ้าดิน