เทิดทูนครูกวี สุนทรภู่ และขอให้กำลังใจกวีรุ่นใหม่สร้างผลงานต่อไป
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 02:54:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เทิดทูนครูกวี สุนทรภู่ และขอให้กำลังใจกวีรุ่นใหม่สร้างผลงานต่อไป  (อ่าน 6400 ครั้ง)
ข้าน้อยขอฝากตัว
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 110



« เมื่อ: 30 มกราคม 2009, 11:00:AM »

        นิราศเล่าเก้าเรื่องเรืองปรากฏ                     เป็นเกียรติยศเป็นแบบอย่างแนวทางสอน
หนึ่งเมืองแกลงสองพระบาทไม่ขาดกลอน          ภูเขาทองแต่งตอนบรรพชา
ยามตกอับคับแค้นกลอนแสนหวาน                     ผู้ได้อ่านตราตรึงเศร้าซึ้งหนา
โคลงนิราศเมืองสุพรรณนั้นแปลกตา                  วัดเจ้าฟ้าและอิเหนาก็เข้าที
เมื่อนิราศพระประธมตรมไม่สร่าง                     ด้วยแรมร้างบงกชบทศรี
ปางสนองพระประสงค์ลงเพชรบุรี                    ตรอมฤดีดายเดียวเปลี่ยวใจจริง
รำพันพิลาปรำพึงถึงความหลัง                          ประดุจดังหวนไห้อาลัยหญิง
ยิ่งต่ำต้อยด้วยศักดิ์ยิ่งรักจริง                              แต่ยากยิ่งสุดคว้ามาชมชู
ผูกนิทานประทับใจได้ลือเลื่อง                            แฝงการเมืองคนฟังยังชินหู
ไชยสุริยาแต่งเป็นกาพย์ฉบับครู                         สอนหนูหนูหัดอ่านเขียนเพียรกันมา
เรื่องก่อนเก่าเล่ามาว่าโคบุตร                               เป็นปฐมสมมุติอิงศาสนา
ขุนช้างขุนแผนหนึ่งตอนกลอนเสภา                    อนันต์ค่าลักษณวงศ์คงเลื่องลือ
สิงหไกรภพลบหล้าผู้กล้าแกร่ง                           นิทานแฝงคติไว้ให้ยึดถือ
อ่านสนุกทุกสมัยไว้ฝีมือ                                      ชนฮาฮือติดใจพระอภัยมณี
จินตนาการกว้างไกลใครฤาสู้                              สุนทรภู่ครูกลอนอักษรศรี
คดีธรรมคดีโลก..โศก..สุข..ชี้                              สุภาษิตสอนสตรีควรตรึกตรอง
ทั้งเพลงยาวสอนหทัยถวายโอวาท                      ไม่ประมาทมองข้ามความหม่นหมอง
สวัสดิรักษาพึงจำตามทำนอง                              หากหวังครองชีวิตตนพ้นทุกข์ภัย
อภัยนุราชบทละครซ่อนความเก๋                          บทกล่อมเห่พระบรรทมสมสมัย
เรายกย่อง"ท่านยิ่งใหญ่"ด้วยจริงใจ                    โลกพลอยได้เห็นงามตามใคร่ครวญ
กลอนของท่านสอนให้เราได้คิด                           ทั้งชีวิตท่านสอนให้เราได้หวน
คติโลกคติธรรมตามทบทวน                               ยิ่งสมควรที่เราจะเทิดพระคุณ


                                                                                 

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ปู่ริน

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

คมอะไรไม่คมเท่าลมปาก      คมมีดแม้คมมากปากคมกว่า
คมคำใครว่าคมชมวาจา        ไม่คมกล้าเท่าคมคารมกลอน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s