เมื่อพบใครในตน, ยามสนธยา-
พฤศจิกา...หนาวลมพัดพรมผ่าน
คุณทำให้ลมหนาวยิ่งร้าวราน
กระดิ่งลมกังวานขับขานเพลง
เสียงใสหวานนอกห้อง ทำนองคิดถึง
เสียงหัวเราะคุ้นซึ้งซึ่งขานเปล่ง
เรื่องเล่าสู่กันฟังดังครื้นเครง
จนยามเช้าเร้าเร่งทุกเพลงเช้า
เห็นไหมยามหญ้าดอกเย้าหยอกฟ้า
ไม่คิดหวนกลับมาอย่าหน้าเศร้า
เรียบง่ายและบอบบางอย่างใจเรา
หยั่งลึกในความเหงาเกินเข้าใจ
....
ดึก, รอแว่วแผ่วคำของน้ำค้าง
อยู่ทิศทางตะวันออก, หมอก, ฟ้าใหม่
หากแม้คุณหมดหวังคราครั้งใด
ก็ห่างไกลเพียงพรากไม่จากนาน
เผลอคิดว่ามันเป็นอยู่เช่นนี้
รุ่งระวีจักคืบคอยสืบสาน
แต่ลมเอย...พัดพราวเพียงร้าวราน
ไร้เสียงหวานขอพรก่อนนิทรา
สิบปีผ่านเหมือนวันเพิ่งผันเปลี่ยน
ฉันวนเวียนมาตามข่าวถามหา
ไร้พรของขวัญฝาก...จากเทพธิดา
คราบน้ำตานองเนืองคือเรื่องจริง
....
เมื่อพบใครในตน, จึงสนทนา
พฤศจิกา เช้าตรู่ อยู่นิ่งนิ่ง
จูบลาจันทร์ดวงรักเคยพักพิง
มีบางสิ่งเคลื่อนไหวในอารมณ์.