Re: กุสติณราช ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
06 เมษายน 2025, 08:25:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กุสติณราช ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย  (อ่าน 14743 ครั้ง)
kapheetam
LV3 นักกลอนประจำบ้าน
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2024, 04:00:PM »

พอคล้อยหลัง  ช่างทอง  องค์จอมสัตว์
ออกตำหนัก  ผละพลัน  เร่งสรรหา
เหล่าวัตถุ  ชุบหลอม  ทองคำมา
หล่ออัมพา  พะงางาม  อร่ามยล

คิ้วขนง  วงพักตร์  ประทับจิต
งามชวนพิศ  ติดตา  พาใหลหลง
ราวอัปสร  จรฟ้า  ให้หล้ายล
ทั่วสกล  นงใด  ไม่เทียบเทียม

ร่างลออ  อรชร  กรอ้อนแอ้น
เฉิดแฉล้ม  ผุดผาด  บาทจดเศียร
ดั่งสตรี  มีวิญญาณ  ยามมองเมียง
หากเปล่งเลียน  เสียงได้  ไม่แปลกใจ

หลังสำเร็จ  เสร็จงาน  การหลอมหล่อ
นวลลออ  รูปนาง  งามสดใส
กุสราช  ราชโอรส  ให้สบใจ
นำผ้าผ่อน  ท่อนสไบ  ใส่อนงค์

แล้วยกรูปหล่อนาง  วางรถเข็น
สง่าเด่น  ผิวนวล  ชวนใหลหลง
ไสบังอร  ซ่อนยัง  ห้องบรรทม
รอดูผล  ช่างทอง  หลอมออกมา



หนึ่งเดือนผัน  ช่างทอง  จึงหลอมเสร็จ
หลังขัดเก็บ  เช็ดรอย  ค่อยมาหา
ยกรูปปั้น  ตั้งเด่น  เข็นรถมา
ฉีกยิ้มร่า  หน้าบาน  ปานจานเชิง

ไส้รถไป  ไม่วายมอง  ลำพองจิต
ครุ่นดำริ  พิศนาง  พานฮึกเหิม
ฝีมือข้า  หน้าไหน  ใครเทียบเชิญ
คงเคอะเขิน  เมินลา  ไม่กล้ายล

ถึงตำหนัก  ไม่พักหอบ  บอกทหาร
รีบรายงาน  รูปนาง  ตามประสงค์
หล่อสำเร็จ  เสร็จงาม  ตามจำนง
ขอเสด็จ  ในกรม  ทรงทอดตา

นายทวาร  ฟังความ  รายงานเฝ้า
กราบทูลเกล้า  เล่าความ  ตามเนื้อหา
บอกช่างทอง  หลอมนาง  กาญจนา
ได้แล้วเสร็จ  เสด็จมา  ทอดตาชม

โอรสใหญ่  ได้ฟัง  พลันเยื้องย่าง
จินตนาการ  นางทอง  ต้องสวยสม
ถึงพลันเห็น  รูปทอง  หลอมชอบกล
ไม่งามสม  ทรงคิด  พิศขัดใจ



คิ้วไม่สม  วงพักตร์  ดูลักลั่น
ซ้ำไรฟัน  เขยิบ  ไม่เฉิดฉาย
ถันยวบห้อย  ย้อยยาน  หูกางไป
ดูอย่างไร  ไม่พาน  หวามติดตรึง 

จึงหันพักตร์  ตรัสพลัน  ยังช่างโอ่
อวดคุยโว  สามารถ  ปราศใครถึง
เทียมออเจ้า  เล่าลือ  จนอื้ออึง
จงลุกขึ้น  พึงฟัง  คำสั่งเรา

ขอจงเข้า  ห้องใน  ที่ไสยาสน์
บรรทมอาสน์  ขนาบคู่  อยู่ข้างเสา
ประทับเด่น  เห็นลออ  รูปหล่อเรา
เข็นแม่เจ้า  เยาวพา  มาบัดดล

ช่างทองฟัง  พลันลุก  ผลุบเข้าห้อง
เห็นนางทอง  ยองใย  ให้ฉงน
งามอะคร้าว  ราวเสก  ด้วยเวทมนต์
ให้สับสน  ลนลาน  คลานออกมา

หน้าตาซีด  รีบแจ้ง  แจงความผิด
โปรดอย่าติ  พิศพักตร์  พระสุนิสา
เกล้าไม่ทราบ  พิลาสท้าว  เยาวพา
อยู่ห้องในไสยา  พากล้ำกราย

มหาสัตว์  พักตร์ยิ้ม  พริ้มพรายโอษฐ์
ไม่เคืองโกรธ  โทษช่าง  นั่งเหงื่อไหล
ตรัสนงเยาว์  เจ้าพบ  พานตกใจ
คือรูปหล่ออรไท  หาใช่คน

เราทดลอง  หลอมหล่อ  ไม่พออวด
หรือประกวด  เทียบชั้น  ยังมิสม
ขอท่านนำ  นางมา  ทอดตาชม
ว่างามสม  นงท่าน  นั้นอย่างไร

ช่างโอ่ฟัง  เก้กัง  ยืนนั่งลุก
เหงื่อซึมผุด  สุดเอ่ย  เฉลยไข
เข้าห้องนาง  ลำพัง  พลาดพลั้งไป
คงเหลือไหล่  แต่ไร้หัว  ใจรัวพลัน

จึงไห้หวน  ครวญคร่ำ  ร่ำพิลาป
กราบแทบบาท  ยุคล  ทรงผ่อนผัน
เกล้ากลัวพลั้ง  นั่งคุก  อุกฉกรรจ์
ด้วยต้องนาง  เฉิดฉัน  ชีพบรรลัย

โพธิสัตว์  ตัดความ  รำคาญพร่ำ
สั่งรีบนำ  เหมอนงค์  องค์เฉิดฉาย
รูปหล่อนาง  งามน้อง  ที่ห้องใน
มาเร็วไว  ช้าได้  ตกตายจริง

ช่างทองฟัง  บัญชา  หน้าตาตั้ง
พุ่งคะมำ  ถลันตรง  องค์โฉมฉิน
ถึงนางทอง  มองพลัน  ช่างเหมือนจริง
ตัดเกรงกริ่ง  สิ้นพรั่น  มือคลำนาง

พอสัมผัส  จับกุม  สะดุ้งโหยง
กรโผอน  นงนาฏ  ไม่วาบหวาม
ผิวเย็นคลำ  ดังหิน  สิ้นวิญญาณ
สิ้นลนลาน  เบิกบานใจ  ไสรถมา

ถึงเบื้องพักตร์ ขยับเรียง  เคียงรถเข็น
หนึ่งสวยเด่น  อร่าม  งามนักหนา
หนึ่งหมองศรี  ไม่มี  ชีวิตชีวา
สิ้นกังขา  มหาสัตว์  จึงตรัสพลัน

วานนายช่าง  เข็นรถท่าน  เข้าคลังเก็บ
งานสำเร็จ  เสร็จงาม  ปานเสกสรร
เก็บเอาไว้  อย่าให้  ใครเห็นกัน
เดี๋ยวจะฟั่น  เฟือจิต  พิศทรามวัย



ลับหลังช่าง  ธ นั่ง  ภวังค์จ้อง
มองนางทอง  ตรองตริ  พิศโฉมฉาย
ใช้ต่อรอง  มารดร  ยอมถอดใจ
เลิกก้าวก่าย  คลายเคือง  เรื่องแต่งงาน

หลังตกลง  ปลงใจ  ทันใดสั่ง
ให้ยกนาง  งามลออ  ขึ้นวอหาม
ส่งตำหนัก  ชนนี  มีข้อความ
ฝากทหาร  เป็นดำรัส  กับแม่เมือง

หากธาษตรี  มีนาง  งดงามเท่า
รูปหล่อเจ้า  อรไท  หรือคล้ายเหมือน
ลูกจักยอม  อ่อนน้อม  พร้อมครองเรือน
ผิบ่เหมือน  เดือนปีลับ  ไม่กลับใจ



เมื่อนั้น…มาตุรงค์  ชนนี  เทวีเจ้า
ฟังยามเล่า  ผ่าวองค์  ชมโฉมฉาย
จิตประหวั่น  พรั่นคร้าม  สะท้านใจ
โอ้กระไร  ไยรูปปั้น  ช่างเหมือนคน

พักตร์งามพิศ  ติดตา  พาจับจิต
ดั่งนฤมิต  เทวัญ  บันดาลสม
ปทุมสอง  งอนงาม  ฐานกว้างกลม
บั้นพระองค์  พระชงฆ์เพรียว  เรียวบาดใจ

สะโอดสะอง  ระหงเห็น  เด่นสง่า
เพียงสบตา  อุรา  พาหวั่นไหว
สรรพางค์  สะอางหมด  งามจดใจ
นารีไหน  ไม่เปรียบ  ไม่ทียบทัน

หรือลูกเรา  เฝ้าเลี้ยง  เพียรปกป้อง
ไม่คิดข้อง  ติดกาม  ความสุขสันต์
ไม่คิดมี  ทายาท  สืบชาติพันธุ์
ไม่มุ่งหวัง  บัลลังก์  ช่างกระไร

ถึงได้คิด  นิมิต  ประดิษฐ์ขึ้น
นางสวยซึ้ง  ตรึงตา  กว่าหญิงไหน
หวังให้แม่  แพ้จน  หนทางไป
ยอมตัดใจ  ให้เจ้า  เข้าพนา

ไม่มีวัน  นั้นดอก  บอกลูกได้
แม่ไม่พ่าย  หน่ายท้อ  พ่อดอกหนา
จักต้องมี  สตรี  เลิศพักตรา
งามสวยกว่า  นารีเจ้า  จงเฝ้ารอ



หลังยามกลับ  ลับไป  ใจเจ้าถี
ดุจดั่งมี  ไฟรุม  สุมทรวงหนอ
เดินวนรูป  หล่อนาง  งามลออ
หญิงใดพอ  จักเปรียบ  จักเทียบทัน

ย่างกลัดกลุ้ม  ครุ่นคิด  หนักจิตแท้
ผ่านบ่ายแก่  แก้ไม่ตก  ใคร่หมดหวัง
จนภากร  จรฟ้า  พาระกำ
ทรุดตั่งนั่ง  บรรทม  พักข่มตา

คราบัดนั้น  มิทัน  หลังทาบฟูก
เจ้านางผุด  ฉุกใจ  ไขปัญหา
ดีดองค์ผึง  ถึงช่อง  ทวารา
ตรัสเรียกข้า  บริบาล  นางกำนัล


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

masapaer, ระนาดเอก

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มีนาคม 2025, 02:44:PM โดย kapheetam » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s