Re: กุสติณราช ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
28 ตุลาคม 2024, 01:26:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กุสติณราช ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย  (อ่าน 385 ครั้ง)
kapheetam
LV3 นักเลงกลอนประจำซอย
***

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20



« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2024, 03:58:PM »

เทพราชัน  ครั้นสดับ  พลันตรัสเอ่ย
โอ้ทรามเชย  กระไรเลย  ภิเปรยหมาง
ขอหนึ่งองค์  พี่ขัดสน  ฤาน้องนาง
ดูเหินห่าง  อย่างไร  ให้พิกล

เอาอย่างนี้  พี่ใจดี  มีสามารถ
แสนเก่งกาจ  มากเดชา  อย่าฉงน
จักประทาน  โอรสให้  เจ้าสององค์
น้องประสงค์  องค์ใดก่อน  วอนบอกมา

หนึ่งวงพักตร์  ดูขัดตา  ปัญญาเลิศ
ใจงามเพริศ  ประเสริฐนัก  ยากจักหา
อานุภาพ  มากล้ำ  เกินพรรณา
ทั่วผืนหล้า  หาใครเทียม  เทียบราชัน

สองงามสม  งามสรรพ  รูปลักษณ์เด่น
ใครได้เห็น  เปรียบเช่น  เทวาสวรรค์
ผิวผุดผาด  ปลาบตา  น่าอัศจรรย์
แต่เชาวน์นั้น  สั้นนัก  อับเหลือทน

ยุพยง  องค์เทวี  ศรีมหิ
ฟังอดิเทพบอก  ตอบประสงค์
บุตรประเสริฐ  เลิศปัญญา  กว่าน่าชม
ให้ราษฎณ์ไท้  ได้สม  ดั่งจินตนา

สุรบดี  ศรีสัค  สดับความ
ตอบนงราม  งามจิต  ขนิษฐา
เป็นตามนั้น  ดั่งคำ  กัลยา
แถมพิณผ้า  หญ้าทิพย์  ติดกายไป

แลสุดา  ล้ำค่า  ปาริฉัตร
โลกสดับ  บ่ปะเห็น  เป็นไฉน
อีกลูกจันทน์  พรรณอร่าม  งามจับใจ
กำนัลให้  อรไท  ไปด้วยกัน

จบดำรัส  มัฆวาน  บันดาลฤทธิ์
ให้กนิษฐ์  หลับสนิท  จิตเคลิ้มฝัน
แล้วอุ้มนาง  พลางเหาะฟ้า  ลงหล้าพลัน
วางงามขำ  ตั่งบรรทม  องค์ราชา

ก่อนคืนหาว  ท้าวสุรินทร์  ผินดวงพักตร์
มองนงลักษณ์  สงัดทุกข์  สุขนักหนา
ลูบนาภี  เทวี  ศรีสุดา
แล้วเหาะฟ้า  ลาลับ  กลับอัมพร



เพลานั้น  ณ สวรรค์  เบื้องชั้นหาว
มรุเจ้า  เผ่าพุทธะ พักตร์หม่นหมอง
พอโกสีย์  ลูบนาภี  ศรีบังอร
ให้รุ่มร้อน  ดวงจิต  จุติพลัน

พุ่งเวหาส  ปลาบแสง  แรงเจิดจ้า
สู่พารา  ธราดล  ลงเขตขัณฑ์
วังนริศ  สถิตย์แนบ  แทรกในครรภ์
องค์จอมขวัญ  กันยา  ชายาไท

บัดนั้นองค์  เทวี  นารีรัตน์
พลันตื่นหลับ  ประจักษ์องค์  ไม่สงสัย
ลุกขึ้นนั่ง  คลำนาภี  ปรีดิ์ปลื้มใจ
ได้ทายาท  สมใจ  ภูวดล

จึงเอนองค์  ลงนอน  พักตร์ผ่องแผ้ว
ทุกข์สิ้นแล้ว  แคล้วไกล  ใจสุขสม
แนบข้างไท้  ใกล้ชิด  นิทรารมณ์
นวลอนงค์  ทรงเหนื่อยหนัก  จึงหลับไป



จวบรุ่งเช้า  ท้าวบพิตร  ผลิกกายตื่น
พรวดทะลึ่ง  ทึ่งมอง  อรหลับใหล
ให้ประหลาด  วาบจิต  พิศทรามวัย
เหตุไฉน  ไยบังอร  นอนร่วมกัน

จึงตรัสเรียก  เพรียกขาน  ปลุกนางตื่น
ลืมตาฟื้น  เถิดน้องยา  แก้วตาฉัน
ตอบวจี  พี่สงสัย  อย่างไรกัน
ไฉนนั่น  กัลยา  มานอนเคียง

โฉมนารี  ศรีสุดา  ตาหลับใหล
สูดหายใจ  คลายอึดอัด  สดับเสียง
จอมกษัตริย์  ตรัสถาม  อยู่ข้างเตียง
ลืมตาเมียง  มองภูธร  ตื่นนอนพลัน

พอนเรนทร์  เห็นชายา  ลืมตาสบ
ให้สะทกสะท้อนใน  ใจผลิกผัน
เหมือนดีใจ  หมองไหม้ทุกข์  คลุกเคล้ากัน
พองามขำ  ลุกนั่งจ้อง  ต้องถอนใจ

ให้ลำบาก  ยากเอ่ย  ภิเปรยถาม
เรื่องติดตาม  พราหมณ์เฒ่า  เฝ้าสงสัย
ต้องตรอมตรม  ระทมยาก  มากเพียงใด
ภูวไนย  ใคร่ฟัง  คำกันยา

จึงเลียบเลียบ  เคียงเคียง  เลี่ยงเลี่ยงถาม
ต่อนงราม  งามจิต  ขนิษฐา
น้องมาถึง  เมื่อใด  นัยนา
ใครพามา  วานบอก  ตอบพี่ที

โฉมนงราม  ฟังความ  ภูบาลตรัส
จึงตอบกลับ  มัฆวา  พามานี่
เจ้าสวรรค์  ชั้นฟ้า  สุขาวดี
ทรงปราณี  อารีมาก  ยากพรรณนา

ท่านพาน้อง  ขึ้นอัมพร  นครหาว
พร่างแพรวพราว  วาววิมาน  งามหนักหนา
ดาวดึงส์  ช่างสวยซึ้ง  ตรึงอุรา
เกินจักหา  ใดเปรียบ  เทียบไกวัล

แล้วบันดาล  ประทานพร  น้องหนึ่งข้อ
ทรงให้ขอ  ต่อสุเรนทร์   เป็นดั่งหวัง
ซ้ำมอบดอก  ปาริฉัตร  บุษบัน
แถมกำนัล  ลูกจันทน์ผ้า  หญ้าแพรกพิณ



โอกากราช  ราชา  หน้าประหลาด
ฟังนงนาฏ  ยากเข้าใจ  ในโฉมฉิน
เห็นนางตาม  พราหมณ์ตกยาก  จากธานินทร์
ลับกายทิ้ง  สิ้นรอย  พลอยทุกข์ใจ

แต่พอกลับ  ตรัสวาจา   น่าเหลือเชื่อ
อัศจรรย์เหลือ  เมื่อฟัง  คำบอกไข
อ้างมหินทร์  ปิ่นเวหา  พาขึ้นไป
ยังสวรรค์  อำไพ  สุขใจจริง

จึงถามพลัน  กัญญา  อย่าอสัตย์
โปรดจงตรัส  ดำรัสเล่า  เจ้าโฉมฉิน
ถึงเรื่องผ่าน  พานพบ  ประสบจริง
ให้พี่สิ้น  สงสัย  คลายสงกา

องค์โฉมศรี  เทวี  นารีรัตน์
ฟังดำรัส  ตรัสย้ำ  อย่ากังขา
น้องเล่าแจ้ง  แถลงตาม  ความเป็นมา
ใช่มุสา  วาจาแสร้ง  แกล้งหลอกไท

ขอภูบาล  ทรงพิจารณ์  กาลก่อนล่วง
น้องเคยลวง  หลอกคำ  ทรงธรรมไหม
ที่เล่าขาน  ก็เล่าตาม  ความเป็นไป
ใช่หลอกไท้  เฉไฉกลบ  หมกมลทิน

นฤบาล  ฟังนาง  ยืนกรานแจ้ง
ยังระแวง  แคลงใจ  ในโฉมฉิน
ถึงดำรัส  ตรัสแน่นหนัก  ถ้อยอรรถจริง
แต่ยังกริ่ง  ยังสงสัย  ไม่วายวาง

จึงงามขำ  นำของขวัญ  กำนัลได้
สหัสนัยน์  ให้ก่อนกลับ  เป็นหลักฐาน
ขึ้นมาเผย  เฉลยแก้  แก่ภูบาล
ธ จึงผ่าน  ข้อสงสัย  ในอนงค์

พอหลุดพ้น  กังวลใจ  ให้สุขสันต์
จึงถามพลัน  ทันที  ที่ประสงค์
ถึงทายาท  สืบราชย์เล่า  เฝ้ากังวล
บรรลุสม  ดังใจ  ไหมงามงอน


เมื่อนั้น  สีลวดี  นารีรัตน์
พลันกระอัก  กระอ่วนใจ  ในอดิศร
ฟังดำรัส  ก้มพักตร์หลบ  ไม่สบมอง
หน้าแดงผ่อง  เรื่อยองใย  ให้ขวยอาย

แล้วค่อยเผย  เอ่ยคำ  งึมงำตรัส
พอจักจับ  ใจความ  นางขยาย
ว่าบรรลุ  จุดประสงค์  สมดั่งใจ
ขอฤาสาย  คลายทุกข์  เป็นสุขเทอญ

พระทรงชัย  ได้ฟัง  พลันลิงโลด
ลืมตัวโดด  โอบทรามวัย  ใจฮึกเหิม
หัวเราะร่า  ตาสุกใส  หาใดเกิน
รีบดำเนิน  เสด็จยัง  ทวารา

พ้นทวาร  ภูบาล  พานรับสั่ง
เหล่ากำนัล  เร่งพลัน  ช่วยกันหา
เครื่องบำรุง  พยุงครรภ์  ภรรยา
พร้อมหยูกยา  สารพัด  จัดมาไว

เผื่อน้องยา  ข้าเป็นลม  ได้ดมแก้
หรือยามแพ้  ท้องครรภ์  ทันแก้ไข
เพื่อชายา  ข้าเป็นสุข  ไม่ทุกข์ใด
คลอดชายชาติ  อาชาไนย  ให้ข้าชม


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

masapaer

ข้อความนี้ มี 1 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ตุลาคม 2024, 08:21:AM โดย kapheetam » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s