เดือนดาวพราย ปลายฝนหนาว : พม่าชมเดือน - วัชโรดม
"เดือนดาวพราย ปลายฝนหนาว" เป็นผลงานประพันธ์บทร้องและบรรจุทำนองเพลงไทย ของ ชัยทัต โสพระขรรค์
ผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและความรัก จำนวน 6 เพลง ได้แก่ "ลมหนาว" "สายฝน" "ดวงใจกับความรัก" "เมื่อโสมส่อง" "สายลม" และ "เตือนใจ" โดยนำคำร้องขึ้นต้นในวรรคแรกของแต่ละเพลงมาใช้เป็นต้นบท แล้วแต่งคำประพันธ์ต่อตามหลักฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพจนครบทั้ง 6 บท
เพลงที่เลือกมาใช้สำหรับบรรจุคำร้อง มีจำนวน 6 เพลง เพลงแรกคือ "สาลิกาชมเดือน สามชั้น" มีการสอดแทรกการเดี่ยวขลุ่ยเพียงออประกอบการขับร้อง ต่อด้วยเพลงสองชั้นในสำเนียงต่าง ๆ ได้แก่ "น้ำลอดใต้ทราย" "แขกปัตตานี" "พม่าชมเดือน" "นางครวญ" และ "สร้อยเพลง"
กำลังพล 5,613 นาย ฉุดชัก ‘ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ’ ถวายพระเกียรติยศ
พม่าเห่ การบรรเลงวงปี่พาทย์ไม้แข็ง โดย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร วงหญิง
ชมเถิด ชมแล้วรักไทย ภูมิใจไทย ไพเราะ ที่สุดในโลก
พูดไม่ได้ว่า วงผู้หญิงเล่น ก็เท่านี้ เก่งทุกคน น่ารักน่าจีบทุกคน จีบเป็น น้องนุ่ง พี่ป้าน้าอา
มิอฆ้อง ลักษณะผู้นำลอยเด่นขึ้นมา มือฉิ่ง ลักษณะผู้คุมกฏชัดไม่ยอมให้ใครผิดแน่
ผู้ชนะสิบทิศ ชอบเพลงเพราะ ท่ารำสวย ไม่เท่า พญาผานอง
ครู วันทนีย์ ม่วงบุญ ระดับครูแม่ผู้นึง รำสวยงาม ไม่ผิดแบบแผนแน่นอน รำสวยงามในเพลงพม่านิสา
แรมจิต แรมใจ ไม่พบคำแปล แต่ไพเราะคำไพเราะความ
จิรนันท์ พิตรปรีขา ยังเคยใช้คำ "เรือนรัก แรมใจ"
โคลงไฮกุ โคลงสองสุภาพ กาพย์ฉบัง16 กลอนสร้อยสลับคู่สคราญ
ขั้น ทดลอง ไม่บอกว่าทำอะไร
จันทร์นวลเสมือนขวัญ
ค่ำคืนเดือนดับขวัญสลาย
ขอขวัญสถิตใจ
จันทร์จรัสเรืองเฟื่องฟ้า จันทร์แจ่มเจิดเลิศหล้า
ร่มเกล้าองค์พรหม อินทร์เอย
ชายชาติกราดเกรี้ยวเขี้ยวคม พงศ์ภักดิ์ศักดิ์สม
ส่งสเด็จเสวยสวรรค์
ขอขวัญป้องสมองมนุษย์ที่สุดคิด
คืนแรมจิตร้าวใจให้โศกศัลย์
ขอขวัญปกอกเอื้อเกื้อชีวัน
คืนแรมจันทร์แสงสว่างสกาวกลางใจ