…วิ่งเล้ย…วิ่งเลย อยู่เฉยเฉยไปไย เท้าให้ไว เร่งไกวกวัดแกว่ง สองมือรี่รุดขุดคุ้ย ตะกุยเข้า เอาเต็มแรง ดีกว่าปล่อยหงอยเหงาเศร้าเหี่ยวแห้ง…นั่งเคร่งขรึมซึมกระทือ กำลังใจมีให้แจก แจกเข้าไป ไม่มีหมด ขืนปล่อยไว้คงหน้าดำ คล้ำสลด จมจ่อจดจิ้มมือถือ แม้นฝันลับดับสลาย ถูกสนตะพาย คล้ายกระบือ ก็อย่าให้ใครเขาร่ำลือ ว่าเรานี้คือหมาหางด้วน… ตัวอวบอ้วนหน้าเซเว่น ที่นั่งคอยประตูเปิดรอลมพัดเย็น… ชวนเห็นแล้วสมเพชเวทนา ระบายเถิดระบาย เชิญระเบิดระเบ้อบรรยาย สวิงสวายโยกส่ายในภาษา เชลงร้อยสร้อยกานท์หวานมัน จนสะท้านสะเทือนลั่นสนั่นซ้องก้องโลกา ผู้ยลยินต้องเหลียวหันกลับมา…ใครกันหนามาร่ายร่ำคำเซี้ยวเซี้ยว… ปนเศษเสี้ยวสำเนียงฟังคล้ายเสียงปลอบขวัญ….ในวันท้องฟ้าสีทึมเทา โซ…เซอะเซอ 21 กันยายน 2564 |
ข อ บ คุ ณ หนึ่งกำลังที่ส่งมา
วันข้างหน้าหากไม่รู้สาจะเวียนมา ตั้งเสา
ปักหลักตรงนี้ ให้บ้านกลอน ช่วยขัดเกลา
คนล้าล้า ที่โง่เขลา เบาเรี่ยวแรง
หลับแล้วหนึ่งตื่น
เหมือนมีปืนมาจ่อยามค่ำคืน เหมือนกระหายน้ำตอนหน้าแล้ง
ให้ทุกอย่าง เป็นเพียง บ ท เ รี ย น ราคาแพง
ตะเกียกตะกายไขว่คว้าเอา แม้เห็นแสง เพียงนิดเดียว
วันข้างหน้าหากไม่รู้สาจะเวียนมา ตั้งเสา
ปักหลักตรงนี้ ให้บ้านกลอน ช่วยขัดเกลา
คนล้าล้า ที่โง่เขลา เบาเรี่ยวแรง
หลับแล้วหนึ่งตื่น
เหมือนมีปืนมาจ่อยามค่ำคืน เหมือนกระหายน้ำตอนหน้าแล้ง
ให้ทุกอย่าง เป็นเพียง บ ท เ รี ย น ราคาแพง
ตะเกียกตะกายไขว่คว้าเอา แม้เห็นแสง เพียงนิดเดียว