(ต่อ)
บทความ "นวัตกรรมในโคลงของสุนทรภู่" ของ (ศาสตราจารย์ ดร.) ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต เป็นส่วนหนึ่งของผลการวิจัยเรื่อง
“นิราศสุพรรณ: ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของสุนทรภู่ในการแต่งโคลงสี่สุภาพ”........
(45) จะเห็นได้ว่ากลบทก้านต่อดอกนั้นเล่นคําทีมีเสียงสระเดียวกันตรง 2 คําท้ายของบาท
แต่กลบทซ้อนดอกเล่นคําที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกันในคําที 4 และ 5 ในแต่ละบาท มีข้อสังเกตว่าในโคลงกลบทที่สุนทรภู่คิดสร้างสรรค์ขึ้นนี้ มีสัมผัสใน 3 แห่งและคําสัมผัสข้ามวรรคแบบโคลงสุนทรภู่ด้วย
ส่วนกลบทงูตวัดหางนั้น คือ โคลงแบบ “สพพพ” ของสุนทรภู่ พบว่ามีในนิราศสุพรรณรวม 231 บท เป็นชนิดของโคลงกลบททีมีมากทีสุดในนิราศสุพรรณนี้
ผู้วิจัยสรุปว่าเป็นรูปแบบโคลงทีเป็นโคลงในดวงใจของสุนทรภู่ เพราะมีใช้มากในช่วงท้ายของนิราศสุพรรณ
โคลงกลบทงูตวัดหางเป็นกลบททีสุนทรภู่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่โดยพัฒนามาจากกลบทฟองสมุทรในจินดามณีทียังแต่งไม่เป็นระบบ ทําให้ไม่ปรากฏลักษณะกลบทในทุกบาท คือ ขาดลักษณะการเล่นคําทีมีเสียงพยัญชนะเดียวกันตรงคําที 4 และ 5 ในบาทสาม (วรรณกรรมสมัยอยุธยา เล่ม 2: 466). ดังนี
๏ ค่าไข้รรักอาจอ้าง คณนา
ขรางปลัดพีธพา เพกขวํ้า
ตกสมุทเทียงชลธา ทูทุ่น ตีเนอ
สัตวมากมวนในนํ้ำ คลั่งแค้นระเหหน
......(ยังมีต่อ)
ราตรีประดับดาว
กากี
2โพส มีโคลงกลบท 3ชนืด
ผมจะผสมทั้ง 3ชนิดรวมเป็นกลบทใหม่ กลบทเดียว รวบๆไป แต่งทีดียวควบได้ 3ชนิด ไม่เสียเวลา
1กลบท งูตวัดหาง พพพพ
2 กลบท ก้านต่อดอก
3 กลบท ซ้อนดอก
3.1 จากตัวอย่างคำประพันธ์ มิใช่ผมบังอาจไปแก้ไขนะครับเพียงเห็นว่า ช้อนดอกยังซ้อนไว้แบบ เว้นก็ไม่เว้น เต็มก็ไม่เต็ม มีโหว่
(ถึงว่า ผู้วิจัยกล่าว….นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีนักวิชาการคนใดค้นพบว่ากลบทซ้อนดอกของสุนทรภู่มีลักษณะการแต่งเป็นเช่นใดและมีในโคลงบทใดบ้าง….)
ผมคงไม่ได้ทำอะไรผิด โดยซ้อนดอกลงไปอีก เป็น ซ้อนดอกสองชั้น
และกลบทที่ผมเขียนขึ้นใหม่ ควรจะปรับสัมผัสใน คำที่7และ8 เป็นสัมผัส พยัญชนะ ก็ยังไม่กล้า ถ้ามีโอกาสได้แต่งอีกคิดว่า คงจะเปลี่ยนเป็นสัมผัสพยัญชนะครับ คาดว่ายังคงอยู่ใต้ฉันทลักษณ์บรมครูสุนทรภู่ ที่ยึดถือ ครับ
แปรเปลี่ยนเวียนเสรืมสร้าง สิ่งสร้อยพลอยเพลิน
…..
เยินยอลออแช่มช้อย ชายหมาย
เหมือนเม่าเผาตัวตาย ต่างอ้าง
พลางพลีนี่หลากหลาย เหลือเชื่อ เฟือเอย
หลงเล่ห์เห ราร้าง ร่ายคล้ายวายปราณ
เฉิดฉานเริดร่านร้อน แรงแสง
แปรเปลี่ยนเลียนปรับแปลง (ว่าง)..เปล่าเค้า
หลับไหลไพล่คลางแคลง ครวญป่วน รัญจวนเฮย
ฝันใฝ่ในจันทร์เจ้า จ่างค้างกลางนภา