แรมร้างห่างหนจากกลกลอน
นั่งนึกอักษรสะท้อนจิต
เหมือนค้นข้อสอบมาขบคิด
พินิจพิศเพ่งพอจดจำ
ขีดขีดเขียนเขียนวนเวียนวรรค
ออกเสียงเบาหนักแต่เย็นย่ำ
เลือนเลือนเลื่อนหายไม่จบคำ
ยาก ย้ำ แสนยากลำบากจริง
ค้นศัพท์จับจดเกือบหมดหมึก
ยามดึก ดึกเริ่มเล็งทุกสิ่ง
เลือนรางภาพพร่า ยามไหวติง
กลอนไม่งามพริ้ง อย่าว่านะ
จู่จู่ วูบไหวใบไม้โบก
ลมโกรกโยกย้าย คล้ายว่าจะ
มาถามมาไถ่ ในวาระ
กาลล่วงเลยละ มามากแล้ว
อารมณ์เริ่มคล้อย ชะรอยง่วง
แต่ใจยังห่วง ยังคงแว่ว
ในคำความกานท์ดูดูแนว
ไม่เห็นมีแววจะเสร็จลง
ฝืนยังคงฝืนขับคำต่อ
แม้ไม่มากพอตามประสงค์
แต่นะขอจบ อย่างงงงง
เพียงผจงขับกลอนมาอ้อนเกลอ
นั่งนึกอักษรสะท้อนจิต
เหมือนค้นข้อสอบมาขบคิด
พินิจพิศเพ่งพอจดจำ
ขีดขีดเขียนเขียนวนเวียนวรรค
ออกเสียงเบาหนักแต่เย็นย่ำ
เลือนเลือนเลื่อนหายไม่จบคำ
ยาก ย้ำ แสนยากลำบากจริง
ค้นศัพท์จับจดเกือบหมดหมึก
ยามดึก ดึกเริ่มเล็งทุกสิ่ง
เลือนรางภาพพร่า ยามไหวติง
กลอนไม่งามพริ้ง อย่าว่านะ
จู่จู่ วูบไหวใบไม้โบก
ลมโกรกโยกย้าย คล้ายว่าจะ
มาถามมาไถ่ ในวาระ
กาลล่วงเลยละ มามากแล้ว
อารมณ์เริ่มคล้อย ชะรอยง่วง
แต่ใจยังห่วง ยังคงแว่ว
ในคำความกานท์ดูดูแนว
ไม่เห็นมีแววจะเสร็จลง
ฝืนยังคงฝืนขับคำต่อ
แม้ไม่มากพอตามประสงค์
แต่นะขอจบ อย่างงงงง
เพียงผจงขับกลอนมาอ้อนเกลอ