O ในเส้นทาง .. O
O ลดเลี้ยวทอดเบื้องหน้าต่อตานั้น
ทั้งหม่นแสงม่านควันเหมือนกั้นขวาง
เงียบงันทั้งเปล่าเปลี่ยวในเที่ยวทาง
พาก้าวย่างทุกก้าว .. เหน็บหนาวนัก
O คดเคี้ยวทอดลิบโล่งยึดโยงสู่-
การรับรู้ .. บทกรรม-แล้วจำหลัก-
แนบวิญญาณฟอนเฟ้น .. ไม่เว้นวรรค
สัมมามรรคก็แยกขาดจากชาติเชื้อ
O ภาพตะคุ่มดุ่มเดินเชื้อเชิญให้-
แถวเลื่อนไหลเลี้ยวลด, พร้อมหยดเหงื่อ-
บรรลือบทราวพิรุณหลั่งจุนเจือ-
ความร้อนแล้งโอบเอื้อ .. ทุกเนื้อใจ
O ท่ามกลางย่างก้าวนำ, ทุกคำถาม-
ต้องข่มข้ามพิสวงข้อสงสัย
ละก้าวยกเดินตาม, ถ้วนความนัย-
ราวจะไหววับช่วงทุกดวงตา
O ไร้-สังคีตดีดสีเภรีก้อง
เคลื่อนทำนองร้อยเรียงกล่อมเดียงสา
ผ่านโสตเพียงเสียงแผ่วที่แว่วมา
เสียงวิหคสกุณาแห่งป่าไพร
O ท่ามกลางความดิบเถื่อนที่เกลื่อนกลาด
ล้อมภพชาติ-ปะทะกันจนสั่นไหว
เส้นทางโค้งคดเคี้ยวบาง-เรียวใบ-
จึงหลุดขั้วแกว่งไกว .. ร่วงในทาง
O ภาพหม่นมัวนำเดินงกเงิ่นอยู่
กำหนดหมู่ผู้ตามทุกยามย่าง
ช่วงของถ้อยรำพันถูกกั้นกลาง-
ด้วยความต่างในหลักที่ปักทรวง
O ภาพสร้างทำนำย่างตามทางนั้น-
เหมือนม่านควันเคล้าคลุกไปทุกช่วง
ยังว่าแสงพรายภาพลงทาบทวง-
เพรียกงดงามลามล่วงทุกดวงตา
O หวังถึงแสงอำไพส่องไล่มัว
ห่างเพียงชั่วท้ายแถวถึงแนวหน้า
เห็นถึงความตีบตันแห่งปัญญา
ของผู้ยกย่างขา .. ที่กล้าเดิน
O ร่องรอยความซัดส่ายจดท้ายแถว
เผยเห็นแววขมขื่น, ความตื้นเขิน-
กอปรจังหวะย่างนำ .. ยังดำเนิน-
เข้าหยอกเอินอับจน .. ในหนทาง
O ชักจูงด้วยคำความเพื่อยามคิด-
จักตามติดรูปรอย .. ที่คอยสร้าง
พาแถวผู้อับจนฝ่าหม่นพราง
พร้อมความเชื่อแอบอ้างเหนี่ยววาง .. รอ
O ภาพสร้างทำนำย่างตามทางนั้น-
เหนี่ยวร่างฝันดำรูขึ้นชูล่อ
เขมภาษสรเสริญ, ความเยินยอ-
เยี่ยงดวงวันเอี่ยมลออ .. สาดทอ-นำ
O เคลื่อนปมด้อยก้าวนำกลางต่ำใต้
หวังเพียงได้เฝ้ามองการพร้องพร่ำ-
ของลูกหาบช่วยหามด้วยความคำ
การเหยียบย่ำเย้ยหยัน ฤา .. หวั่นเกรง
O โวหารไร้ยางอายรำบายก้อง
อวดพฤติความผยองให้มองเพ่ง
วาทกรรมทุกบทกำหนดเอง
เลศนัยยามรุดเร่งย่อมเปล่งแวว
O ลดเลี้ยวทอดเบื้องหน้าต่อตานั้น
เสียงคำสรรเสริญหวาน .. ยังผ่าน-แว่ว
แทนสาระต้นสายจวบปลายแนว-
ของเทือกแถวเชื่อเชื่องยักเยื้องเดิน !
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2017&date=12&group=41&gblog=65