O คิมหันตะสมัย .. O
O แผ่วพลิ้ว .. ลมทะเลเหมือนเห่กล่อม-
เอารื่นเข้าแวดล้อม .. อยู่พร้อมท่า
ขณะรูปเยาว์วัยล้อมนัยน์ตา
ทั้งผืนน้ำแผ่นฟ้า .. ก็พร่าเลือน
O ใช่พื้นน้ำพลิ้วกระเพื่อมแสงเหลื่อมรับ
แต่เป็นแววพริ้มพรับคอยขับเคลื่อน-
แทรกอารมณ์ห่วงละห้อยเฝ้าคอยเตือน-
ให้ทุกการขยับเขยื้อน .. ต้องเหมือนคอย !
O มีดวงวันเดียวนั้นบนชั้นฟ้า
พร้อมแววตาวามช่วง .. ผู้-ห่วงละห้อย
น้ำต้องแสงวามระยิบ, แววปริบปรอย-
จักเฝ้าแต่ชายชม้อย รอคอยใคร ?
O ลมเห่คลื่นแดดระยิบ .. ไกลลิบอยู่
แววตาตื่นตอบชู้ .. กลับอยู่ใกล้
ตอบตื่นความสั่นรัวแห่งหัวใจ
ที่สั่นไหวปลาบปลั่ง .. อยู่ทั้งดวง !
O หาดทรายขาวแทรกบทฟ้าจดน้ำ
รื่นลมร่ำดอกแดดก็แผดช่วง
กระซิบในงามเงียบก็เทียบทวง-
เพียบเพ็ญความแหนหวงทุกช่วงยาม
O ซ่าเสียงคลื่นลมระงมศัพท์
เหมือนคอยขับกล่อมหวัง .. โลกทั้งสาม
เมื่อเนียนแก้มเนื้อนวลเริ่มลวนลาม-
แทรกงดงามแนบตัวกลางหัวใจ
O ศัพท์เสียง .. คลื่นลมระงมอยู่
เมื่องามจู่จับจองความผ่องใส
ที่ทั้งแดด .. ลม .. คลื่น .. เย็นรื่นใด
บำราศไปสิ้นแล้วจากแววตา
O คลื่นน้ำ, แดดระยิบ, ฟ้าลิบโล่ง
ขาด-เชื่อมโยงทุกวูบที่รูปหน้า-
เผยออดอ้อนรำพันในสัญญา
ชี้-บัญชาห่วงเห็นไม่เว้นวาย
O คลื่นม้วนตัวโตนตอบอยู่รอบหาด
ล้อลมลาดล่องต่ำ .. ที่รำร่าย
งามนัก .. ผู้จำเริญความเขินอาย
ตรึงตาชายโลมแต้มเพียงแก้มนั้น
O ไหวคลื่นน้ำเกยหาดขึ้นวาดรอย
ตาปริบปรอยเหลือบปราย .. ก็ส่ายสั่น-
อยู่กับชั่วลมร่ำความรำพัน
เพื่อโอบขวัญพิมพ์ดวง แนบห่วงใย
O ริ้วลมร่ำคร่ำครวญ, ลำดวนเอ๋ย-
มีรำเพยแห่งคำ .. ลมร่ำให้-
บอกว่า .. งามลามล่วงถึงดวงใจ
และอาลัยวามช่วง .. ทั้งดวงตา !
O ปีกนกคลี่แผ่เห็นไม่เว้นช่วง
คลื่นลมพลิ้วผ่านทรวงผู้ห่วงหา
น้ำลูบฝั่ง .. รูปขวัญก็บัญชา-
ปรารถนาในอกให้ยกตัว
O ลมผ่านริ้ว เห่คลื่นให้ตื่นรับ
รูปในตาพริ้มหลับก็พรับยั่ว
หน้าผาก, แก้ม-นวลพรรณ, เสียงสั่นรัว-
แว่วจากขั้วหัวใจ .. เพียงให้ยอม
O ใกล้เพียงแก้มเนื้อนวล .. นั้นจวนจรด
หอมก็จดอารมณ์ให้จมจ่อม
ทรายขาว, คลื่น, แดด-ทอก็รอพร้อม-
อุ่นแนบอ้อมแขนโลภ .. ที่โอบรับ
O ทรายขาว, คลื่น, ดอกแดดที่แวดล้อม
รอเห่กล่อมรูปน้อยให้คอยสดับ
ท่ามกลางอ้อมแขนกอด .. รูปทอดทับ
บทการขับกล่อมชู้ .. ฤๅ – รู้แล้ว ?
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2016&date=24&group=11&gblog=646&fbclid=IwAR1Ej9WwBusZOH0DjU6HLDZoj6y5o8rh6Di8tUomJV9UhM0PSsIkH02323E