~*~ ในลมหนาว ~*~
๐ เมื่อแสงรุ้งพุ่งพรายเริ่มวายสี
ดวงสุรีย์เรืองระยับมาลับหาว
อีกสักพักฟ้าจะพรายประกายดาว
กระพริบพราวพร่างพร้อยขึ้นลอยดวง-
๐ หากเอื้อมหยิบดาวน้อยมาร้อยได้
จะร้อยเป็นมาลัยโยงใยสรวง
ปล่อยสองปลายจรดยังสองฝั่งทรวง
แล้วมัดพ่วงมิให้เคลื่อนด้วยเงื่อนตาย
๐ แต่สุดเอื้อมเชื่อมต่อเป็นข้อสร้อย
จึงเรียงร้อยถ้อยโศลกให้โบกสาย
ไปกับลมหนาวล่องยามต้องกาย
เพื่อผ่อนคลายแรงคะนึงส่งถึงกัน
๐ ทุกอณูอากาศยามวาดไหว
หวังแทรกนัยซ่านล่วงสู่ห้วงขวัญ
คลายความหนาวว้าเหว่ในเหมันต์
ผ่านคืนผันวันเปลี่ยวกลางเกลียวลม
๐ แม้โลกแห้งแล้งฝนเปรอปรนพฤกษ์
แต่ยามดึกน้ำค้างก่อร่างห่ม
ล้านหยดน้ำใสวางหยาดพร่างพรม
กลั่นผสมน้ำใจคนไกลตา
๐ วานเดือนเพ็ญเด่นดวงกลางสรวงนั่น
อย่าด่วนผันพรากพ้นให้ค้นหา
ช่วยผ่อนแสงลงสู่วสุธา
แทนนัยนาจากแดนอันแสนไกล
๐ ด้วยแววเอื้ออาทรอันอ่อนหวาน
ปนผสานผ่านสู่แม้อยู่ไหน
โปรดรับรู้จำนงค์ที่ส่งนัย
ทอดอาลัยลงแล้วทุกแนวทาง
๐ ลมหนาวโชยโบยโบกโลมโลกล้อม
ไอเย็นย้อมทุกอณู กว่าตรู่สาง-
อาจเหน็บหนาวเกินเปลื้องเคืองระคาง
คงไม่ต่างกับอีกหนึ่งซีกแดน
๐ แผ่วพลิ้วหอมระเหยรำเพยผ่าน
ให้หอมซ่านลาน รั้งถึงฝั่งแถน
เมื่อดอกปีบโปรยกลิ่นสุดถิ่นแมน
คือหมื่นแสนคะนึงหาที่ปร่าโปรย
๐ สู่ทิศทางที่ซึ่งคนหนึ่งนั้น
ในคืนวันโลกแล้งอันแห้งโหย
ลมเหนือผ่อนสายเอื่อยพัดเฉื่อยโชย
จะร่ำโรยพาทย์ผสมตามลมครวญ
วลีลักษณา
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
ที่มาhttps://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=11-2019&date=13&group=26&gblog=155
ไกลรัก - สุชาติ ชวางกูร
๐ เมื่อแสงรุ้งพุ่งพรายเริ่มวายสี
ดวงสุรีย์เรืองระยับมาลับหาว
อีกสักพักฟ้าจะพรายประกายดาว
กระพริบพราวพร่างพร้อยขึ้นลอยดวง-
๐ หากเอื้อมหยิบดาวน้อยมาร้อยได้
จะร้อยเป็นมาลัยโยงใยสรวง
ปล่อยสองปลายจรดยังสองฝั่งทรวง
แล้วมัดพ่วงมิให้เคลื่อนด้วยเงื่อนตาย
๐ แต่สุดเอื้อมเชื่อมต่อเป็นข้อสร้อย
จึงเรียงร้อยถ้อยโศลกให้โบกสาย
ไปกับลมหนาวล่องยามต้องกาย
เพื่อผ่อนคลายแรงคะนึงส่งถึงกัน
๐ ทุกอณูอากาศยามวาดไหว
หวังแทรกนัยซ่านล่วงสู่ห้วงขวัญ
คลายความหนาวว้าเหว่ในเหมันต์
ผ่านคืนผันวันเปลี่ยวกลางเกลียวลม
๐ แม้โลกแห้งแล้งฝนเปรอปรนพฤกษ์
แต่ยามดึกน้ำค้างก่อร่างห่ม
ล้านหยดน้ำใสวางหยาดพร่างพรม
กลั่นผสมน้ำใจคนไกลตา
๐ วานเดือนเพ็ญเด่นดวงกลางสรวงนั่น
อย่าด่วนผันพรากพ้นให้ค้นหา
ช่วยผ่อนแสงลงสู่วสุธา
แทนนัยนาจากแดนอันแสนไกล
๐ ด้วยแววเอื้ออาทรอันอ่อนหวาน
ปนผสานผ่านสู่แม้อยู่ไหน
โปรดรับรู้จำนงค์ที่ส่งนัย
ทอดอาลัยลงแล้วทุกแนวทาง
๐ ลมหนาวโชยโบยโบกโลมโลกล้อม
ไอเย็นย้อมทุกอณู กว่าตรู่สาง-
อาจเหน็บหนาวเกินเปลื้องเคืองระคาง
คงไม่ต่างกับอีกหนึ่งซีกแดน
๐ แผ่วพลิ้วหอมระเหยรำเพยผ่าน
ให้หอมซ่านลาน รั้งถึงฝั่งแถน
เมื่อดอกปีบโปรยกลิ่นสุดถิ่นแมน
คือหมื่นแสนคะนึงหาที่ปร่าโปรย
๐ สู่ทิศทางที่ซึ่งคนหนึ่งนั้น
ในคืนวันโลกแล้งอันแห้งโหย
ลมเหนือผ่อนสายเอื่อยพัดเฉื่อยโชย
จะร่ำโรยพาทย์ผสมตามลมครวญ
วลีลักษณา
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
ที่มาhttps://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=11-2019&date=13&group=26&gblog=155
ไกลรัก - สุชาติ ชวางกูร