O คำมั่น .. คำสัญญา O
O หวั่นเช่น .. น้ำค้างใสเกาะใบพฤกษ์
ครั้นยามดึกหยดรินให้ถิ่นรื่น
จวบรุ่งสางสิ้นพลบแสงกลบกลืน
ก็สุดฝืนแววระยับ .. เคยรับรู้
O น้ำใจหลั่งปรนปรุง .. เช่นรุ่งสาง-
เกลื่อนเกล็ดแก้วน้ำค้าง .. พรายพร่างอยู่
ต้องแสงเช้าเหือดสิ้น .. หยาดสินธู
ถวิลสู่ .. ย่อมต้องต่าง .. น้ำค้างนั้น
O ใช่เพียงแค่คืนค่ำ .. ที่ฉ่ำชื่น-
หากที่ยื่นหยิบให้คือ .. ไหวหวั่น
ประโลมทรวงอบร่ำ .. ด้วยรำพัน
ก่อนห่างเห็น .. เพียงวัน .. ยังหวั่นคอย
O หยาดน้ำค้างต้องแสง .. อาจแห้งหาย
ที่มุ่งหมายอาลัย .. ก็ใช่ย่อย
ย่อมเต็มเปี่ยมหมายปอง .. ทุกร่องรอย
แม้นเพียงน้อย .. ร้างหวัง .. รึยังมี ..?
O น้ำใจ .. ใช่น้ำค้างเมื่อสางตรู่
แสงตะวันทอดสู่ .. ไม่รู้หนี
เมื่อแปรเป็นเยื่อใยและไมตรี
ย่อมสุดที่สุดทาง .. จักร้างลา
O ย่อมมิใช่ดวงพิลาสของหยาดแก้ว
เหือดแห้งแล้วจากแหล่งเมื่อแสงจ้า
ย่อมจะไม่รวนเรด้วยเวลา
ย่อม .. ต้องตราตรึงอยู่ .. ไม่รู้เลือน
O ควรต้องหยด .. พร่างพร้อยเป็นพลอยประดับ
ลงสำทับใจอยู่ไม่รู้เคลื่อน
เฉกน้ำค้างวับวาว .. ใต้ดาวเดือน
เอื้อไพรเถื่อนฉ่ำชื่น .. ทั้งคืนวัน
O ร้อนพันแสงจากสรวงแม้นล่วงสู่
หมายหยัดสู้รังสีไม่มีหวั่น
หวังหยาดให้รองรับ .. ชั่วกัปกัลป์
ประโลมขวัญ .. รื่นอยู่อย่ารู้แล้ง
O หวัง - สังคีตพรรณนา .. แว่วคราค่ำ
แทนความ, คำห่วงละห้อย .. เรียงร้อยแต่ง
ความอาวรณ์อาลัย .. ล้อมใจแพง
ว่า-นัยแฝงรำพัน .. คือ – สัญญา !
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=10-2013&date=28&group=11&gblog=490