วิมานน้ำค้าง
๏ วิมานน้ำค้างสร้างด้วยธาตุฝัน เอาไกวัลเป็นหอห้องแก้ว
อัจกลับระยับระย้าอยู่พรายแพรว คือแววรุ้งรัตนาดาราราย ฯ
๏ หาดทรายอ่อนฉะอ้อนดั่งบรรจถรณ์ หมอนท่อนไม้คือเขนยฟ้าถวาย
ธาราบ่าเซาะหินดินทราย คือนางไม้ขับกล่อมอ้อมใจ ฯ
๏ ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย
อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย ฯ
๏ น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย
หมั้นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย สุดสายใจบุรุษรัตน์รมณีย์ ฯ
๏ นั่นผาชะโงกโตรกชะง่อนง้ำเงื้อม อาจเอื้อมเอาดาววาววิเศษศรี
หรือช่อปาริชาตสุดแสนดี หรือวิถีมิติฝันอนันตกาล ฯ
๏ พู้นทางช้างเผือกผุดผ่องสกาว บางดวงดาวพุทธเจ้าประดิษฐาน
บางเอกภพคือทิพยนิรพาน คลื่นอดีตผ่านนานนับกัปป์กัลป์ ฯ
๏ ปุยเมฆหอมเกสรรังร่วง มาทวงมโนคติหล้าอาถรรพณ์
ดาวไถไถทุ่งฟ้าวิลาวัณย์ จะเกี่ยวข้าวขวัญค่าชีวาใด ฯ
๏ น้ำค้างดงดึกดื่นสะอื้นโศก ชลเนตรโลกวิปโยคหรือไฉน
หมู่มนุษย์น้อยอหังการ์ฆ่าใคร ฆ่าพิภพสบสมัยสุดสามานย์ ฯ
๏ ไม่รักทะนุถนอมคุณค่าโลก จะทุกข์โศกไปตราบฟ้าอวสาน
ยุคมนุษย์จะสุดสิ้นมิช้ามินาน เป็นพยานเถอะสายธารที่จาบัลย์ ฯ
๏ น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างฝัน
ฆ่าชีวาคือพร่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด ๚ะ๛
อังคาร กัลยาณพงศ์
ลงพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือกวีนิพนธ์ ปณิธานกวี
โดยสำนักพิมพ์กะรัต พ.ศ. ๒๕๒๙