O ฟ้าคร่ำ .. ฝนครวญ .. O
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 05:02:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: O ฟ้าคร่ำ .. ฝนครวญ .. O  (อ่าน 7382 ครั้ง)
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 185



« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2019, 10:43:AM »






O หยุดยืนเหม่อเคว้งคว้างในทางน้อย
สืบร่องรอยก้าวย่างไปข้างหน้า
เมฆดำคลุ้มลมกรูเสียงอู้มา
แล้วคลื่นฟ้าห่าฝนก็หล่นโปรย
O ละเม็ดคว้าง, คว้างหล่นแตกบนพื้น
เป็นช่อชื้นเม็ดแก้ว .. ก่อนแผ่วโผย
เซาะเส้นทาง-ขุ่นดิน, น้ำรินโรย
ลมช้าโชยแสงวันก็พลันลับ
O หม่นครึ้มอับหลัว .. ไปทั่วทิศ
เพ่งพิศก็คล้ายหวัง-จะพังดับ
เห็นแต่วิชชุแลบอยู่แวบวับ
และใจหนึ่งโจมจับความอับจน
O ไร้สิ้นแสงนำทางให้ย่างก้าว
เมื่อเดือนดาวลับลา .. เหลือห่าฝน-
ถมเส้นทางย่างยก-ที่วก-วน
ให้อดทนสืบก้าว .. อยู่ยาวนาน
O กระหน่ำเม็ดลิ่วล่าง .. ในหว่างเม็ด-
คล้ายสร้อยเพชรหล่นเส้น .. ก่อนเร้นผ่าน
ท่ามปลายทางมืดมน .. อนธกาล
รอห้าวหาญใจหมายมุ่งปลายจร
O กลางกระแสลมโหม .. ฝนโถมถั่ง
ราวจะรั้งหล้าโลกให้โยกถอน
ถมหม่นมัวมืดดำทั้งอัมพร
อำพรางซ่อนสดใสสู่นัยน์ตา
O พบเจอ-ในเส้นทางท่ามกลางฝน
พลันเบื้องบนเรื่อแดงด้วยแสงจ้า
ราวโคมสรวงช่วงผกายส่องฉายมา
กลบร่องรอยเหว่ว้าในตาคน
O พบเจอ-คล้ายมืดมนจะป่นดับ
คืนระยับชุติมาแทนห่าฝน
เส้นทางจรสู่ปลาย, ใจว่าย-วน
ถึงคราวค้นพบเห็น .. ว่าเส้นเดียว
O แวบเดียววาบระยับแล้วดับล่วง
ยังโชติช่วงงามควรทุกส่วนเสี้ยว
ยังหรอกฝน-พร่างพรู, ลมกรูเกรียว
และมืดเปลี่ยวล้อมกรอบอยู่รอบทิศ
O คล้ายเป็นหวังแทนหวังที่พังพาบ
เข้าแทรกสาป .. อบอวลทุกส่วนจิต
พริบตาชั่วอึดใจที่ได้พิศ
ก็ชั่วคิดวาบชัดในบัดดล
O เมฆคลุ้มลมคลั่งฝนหลั่ง-สาย
ราวสลาย .. สูญลับความอับหม่น
จึงชั่วยามแสงจ้า, แทงตาตน
ชั่วสับสน .. เงียบเสียง .. ลงเพียงพอ
O ให้เติมเต็มมุ่งมั่นความฝันใฝ่
เพื่อสดใสบรรเจิด-ได้เกิดก่อ
และเมื่อทางมืดมนมีคนรอ
ก็ราวแสงทอดทอ .. ขึ้นรอคน
O ลมเคยพัด-ผ่านริ้วบาดผิวเนื้อ
ก็อับ-เอื้อม่านแสงส่องแห่งหน
ละทอดทอป่นปรับความอับจน
ละก้าววนวกอยู่-ก็รู้ปลาย
O ครั้นครั่นครืน-ฝนหลั่งแรงถั่งโถม
ราวกับโคมกลางสรวงขึ้นช่วงฉาย
มืดหม่นที่ห่มครอบอยู่รอบกาย
ก็กลับคล้ายแสงช่วงถึงดวงตา
O เป็นหวังที่ทอดทอ-ลออระยับ
เพื่อสำหรับก้าวย่างไปข้างหน้า
สืบก้าวตามมุ่งมั่นที่บัญชา
ขวากขวางบรรดา .. ก็ล้าเลือน
O แสงเดียววาบสว่างที่กลางฝน
ก็อำพนราศี .. ยากมีเหมือน
หม่นมัวทั่วทิศ-จำบิดเบือน
คลายเคลื่อนสูญสลายที่ปลายจร
O ริ้วเส้นฝนลมร่ำ .. ในค่ำผ่าน
จึงละลานงามตาเกินกว่าซ่อน
คล้ายยินกระซิบเบา - คำเว้าวอน
นั้นออดอ้อน-ว่ารัก .. สุดหักใจ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2013&date=23&group=11&gblog=453

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

Mr.music, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไผ่เดียวดาย, masapaer

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s