กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา
นอกจากความไพเราะของกาพย์ยานีแล้ว
สุนทรภู่ยังแต่งกาพย์ฉบัง ๑๖ กล่าวชมธรรมชาติ
โดยใช้คำที่มีตัวสะกดในมาตรา แม่ กง เป็นแม่หลัก
มีคำที่สะกด ในแม่อื่น ๆ ประกอบบ้างเล็กน้อย
พรรณนาได้เห็นภาพ ได้ยินเสียง ได้เห็นการเคลื่อนไหวอย่างแจ่มชัด
และได้ความไพเราะของคำที่มีทั้งเสียงสัมผัสนอกและเสียงสัมผัสใน
ลองอ่านออกเสียงดัง ๆ ดูนะคะ
ฉบัง ๑๖
๏ ขึ้นกงจงจำสำคัญ ทั้งกนปนกัน
รำพันมิ่งไม้ในดง
๏ ไกรกร่างยางยูงสูงระหง ตลิงปลิงปริงประยงค์
คันทรส่งกลิ่นฝิ่นฝาง
๏ มะม่วงพลวงพลองช้องนาง หล่นเกลื่อนเถื่อนทาง
กินพลางเดินพลางหว่างเนิน
๏ เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน เหมือนอย่างนางเชิญ
พระแสงสำอางข้างเคียง
๏ เขาสูงฝูง หงส์ลงเรียง เริงร้องซ้องเสียง
สำเนียงน่าฟังวังเวง
๏ กลางไพรไก่ขันบรรเลง ฟังเสียงเพียงเพลง
ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง
๏ ยูงทองร้องกะโต้งโห่งดัง เพียงฆ้องกลองระฆัง
แตรสังข์กังสดาลขานเสียง
๏ กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง พระยาลอคลอเคียง
แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง
๏ ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง เพลินฟังวังเวง
อีเก้งเริงร้องลองเชิง
๏ ฝูงละมั่งฝังดินกินเพลิง คางแข็งแรงเริง
ยืนเบิ่งบึ้งหน้าตาโพลง
๏ ป่าสูงยูงยางช้างโขลง อึงคะนึงผึงโผง
โยงกันเล่นน้ำคล่ำไป
ความไพเราะในบทนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจให้อยากแต่งกาพย์ฉบังไม่มากก็น้อยล่ะนะ..