๏ ครั้นพี่ได้หัวใจสกาขลัง
สิ้นพลังออกจากกายบุญให้ผล
แต่กลางทางที่มานี้พี่จึงพ้น
เป็นตัวตนเหมือนเกิดใหม่ได้อีกครา”
๏ “อย่าคิดไปว่าใจพี่นี้มิช้ำ
แสนระกำคั่งแค้นแน่นนักหนา
มิเคยจะลืมอนงค์องค์ชายา
ยิ่งแก้วตารักหวงดวงฤทัย
๏ และช้ำหนักยิ่งกว่าในครานี้
เมื่อทมยันตีคิดมีใหม่
ป่าวร้องให้ต้องอายกระจายไกล
ช่างกระไรสองหรือสมสยมพร
๏ พระมารดาแลราชาภีมราช
มิบังอาจต่อว่าแต่น่าสอน
มิให้น้องหมองมัวทั่วนาคร
ใดจะร้อนเท่าอกผัวผู้ชั่วช้า”
๏ ครานั้นทมยันตีฤดีร้าว
ฟังคำกล่าวขื่นขมนั่งก้มหน้า
เมื่อยินความตามพระพจนา
คำพ้อพากายสั่นสะท้านไป
สิ้นพลังออกจากกายบุญให้ผล
แต่กลางทางที่มานี้พี่จึงพ้น
เป็นตัวตนเหมือนเกิดใหม่ได้อีกครา”
๏ “อย่าคิดไปว่าใจพี่นี้มิช้ำ
แสนระกำคั่งแค้นแน่นนักหนา
มิเคยจะลืมอนงค์องค์ชายา
ยิ่งแก้วตารักหวงดวงฤทัย
๏ และช้ำหนักยิ่งกว่าในครานี้
เมื่อทมยันตีคิดมีใหม่
ป่าวร้องให้ต้องอายกระจายไกล
ช่างกระไรสองหรือสมสยมพร
๏ พระมารดาแลราชาภีมราช
มิบังอาจต่อว่าแต่น่าสอน
มิให้น้องหมองมัวทั่วนาคร
ใดจะร้อนเท่าอกผัวผู้ชั่วช้า”
๏ ครานั้นทมยันตีฤดีร้าว
ฟังคำกล่าวขื่นขมนั่งก้มหน้า
เมื่อยินความตามพระพจนา
คำพ้อพากายสั่นสะท้านไป