๏ เมื่อพระนลมิมีจิตคิดจะปราบ
กลีกราบกระย่องกระแย่งเรี่ยวแรงอ่อน
แล้วลาลับวับไปในดงดอน
นลราชามาผ่อนร้อนกายใจ
๏ เหลือแต่รูปร่างกายภายนอกแล้ว
จิตราชันนั้นดั่งแก้วเปล่งแววใส
ดั่งร่างองค์เบาลงเสียกระไร
สำนึกได้ไร้อธรรมครอบงำครอง
๏ จึงรีบขึ้นไปนั่งเตรียมตั้งท่า
ขับอาชาต่อไปไม่หม่นหมอง
เถื่อนวิถีเหมือนมีใจให้สมปอง
สนธยาฟ้าทองถึงวิทรรภ์
๏ นายประตูผู้ใหญ่ครั้นได้พบ
เป็นคำรบที่มากะทันหัน
รีบกราบทูลองค์ภีมราชัน
แล้วเชิญท้าวฤตุบรรณเข้าวังใน
๏ รถทะยานผ่านประตูสู่วังราช
กัมปนาทลั่นเลือนสะเทือนไหว
มีทั้งเสียงรถม้าที่คลาไคล
ม้าต้นของพระนลไซร้ประสานกัน
กลีกราบกระย่องกระแย่งเรี่ยวแรงอ่อน
แล้วลาลับวับไปในดงดอน
นลราชามาผ่อนร้อนกายใจ
๏ เหลือแต่รูปร่างกายภายนอกแล้ว
จิตราชันนั้นดั่งแก้วเปล่งแววใส
ดั่งร่างองค์เบาลงเสียกระไร
สำนึกได้ไร้อธรรมครอบงำครอง
๏ จึงรีบขึ้นไปนั่งเตรียมตั้งท่า
ขับอาชาต่อไปไม่หม่นหมอง
เถื่อนวิถีเหมือนมีใจให้สมปอง
สนธยาฟ้าทองถึงวิทรรภ์
๏ นายประตูผู้ใหญ่ครั้นได้พบ
เป็นคำรบที่มากะทันหัน
รีบกราบทูลองค์ภีมราชัน
แล้วเชิญท้าวฤตุบรรณเข้าวังใน
๏ รถทะยานผ่านประตูสู่วังราช
กัมปนาทลั่นเลือนสะเทือนไหว
มีทั้งเสียงรถม้าที่คลาไคล
ม้าต้นของพระนลไซร้ประสานกัน