๗. ม้าใช้ที่ตายก่อน ..
O แล้วเลือดที่เดือดชุ่ม
เริ่มร้อนรุมดั่งสุมไฟ
ดาบกำก้าวย่ำไป
วาบคมใส่ร่างไพรินทร์
O คมแทรกชำแรกเนื้อ
พร้อมเลือดเรื่อที่หลั่งริน
ร่างซบลงกลบดิน
และชีวินก็สิ้นลม
O ย่ำเหยียบเข้าเปรียบมือ
ดาบวาดหวือบันลือคม
ชีพยับลงทับถม
ให้รู้ขมให้รู้เค็ม
O ว่ามือเมื่อถือดาบ
เลือดจักซาบและอาบเต็ม-
หน้าคนให้ทนเล็ม
ว่าแดงเข้มนั้นเค็มขม
O ย่ำเหยียบเข้าเหยียบชีพ
ให้จมลีบใต้ดาบคม
เหยียบหน้าให้สาสม
กับขื่นขมอันยาวนาน
O กู-มากับอารมณ์
หมายขับข่มเข้าล่มลาญ
ใจคอเฝ้ารอผลาญ-
มึง-พวกม่าน .. นับนานคอย
O กู-มาพร้อมคมดาบ
เพื่อกำราบให้สิ้นรอย
ดาบเถือก็เพื่อสอย-
ชีพลิ่วลอยลงกลบดิน
O เลือดคาวมึงคาวเหลือ
ดาบกูเถือก็หลั่งริน
ร่วงรายดุจลายศิลป์
รับชีวินที่ร่วงตาม
O อัดแน่นด้วยแค้นเคือง
หวังรอเปลื้องรอปลิดทราม
ให้ดาบที่วาบวาม
ได้วาบข้ามเข้าบั่นคอ !
O ดาลเดือดเข้าเชือดเนื้อ
เลือดแดงเรื่อก็หยาดรอ-
ใจผู้ไม่รู้พอ
ดาบบั่นคอไม่รอใคร
O วันนี้เลือดผีนอง-
เนือง .. ทั่วท้องแผ่นดินไทย
ดาบวาดป้องชาติไว้
ด้วยหัวใจที่เจ็บจำ
O แผ่นน้ำทั้งสามสาย
ที่รอบรายจะร่ายรำ
บวง-เทพให้เสพ, สัม-
ผัส .. ชีพต่ำผู้วางตน
O ผืนน้ำทั้งสามสาย
จักรำบายความตายบน-
ศักดิ์ศรีเสรีชน
ให้งามล้นให้งามล้ำ
O เจ็บจำเอาเป็นโจทก์
คืนทัณฑ์โทษที่เคยทำ
ทุกบทเป็นกฎบำ-
รุงชอกช้ำให้ยำเกรง
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
O สิ้นชาติก็ขาดชื่อ
เสียงอึงอื้อต้องร้องเอง
ภาพพจน์ทั้งบทเพลง
มีไว้เปล่งให้นายกอง
O ชีพลาญถูกกาลลบ
งามครันครบก็ถูกครอง
นอนเน่าทั้งเลือดหนอง
ที่ปกป้อง .. ย่อมเปล่าเปลือง
.
.
.