อักษราวรรณศิลป์ปิ่นกวี รัชกาลที่ ๕
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ร่าย
๏ สรวมสวัสดิวิไชย เกริกกรุงไกรเกรียงยศ
เกียรดิปรากฏขจรขจาย สบายทั่วแหล่งหล้า
ฝนฟ้าฉ่าชุ่มชล ไพสพผลพูลเพิ่ม
เหิ่มใจราษฎร์บำเทิง รื่นเริงรัฐมณฑล
สกลราชอาณาเขต ประเทศสยามชื่นช้อย
ทุกข์ขุกเข็ญใหญ่น้อย นาศไร้แรงเกษม
โสตเทอญ ๚
โคลง ๔
๏ บารมีพระมากพ้น รำพัน
พระพิทักษ์ยุติธรรม์ ถ่องแท้
บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องโลก ไซร้แฮ
ทวยราษฎร์รักบาทแม้ ยิ่งด้วยบิตุรงค์ ฯ
๏ เวลามีสุขล้น เหลือเหลิง
ปล่อยจิตคิดระเริง โล่งแล้ว
ถึงทุกข์แทบป่นเปิง เปลืองชีพ
เพ้อนักมักไม่แคล้ว เหตุร้ายเร็วถึง ฯ
(ลิลิตนิทราชาคริต : ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ๒๙ วัน เมื่อปี ๒๔๒๑
เพื่อพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ในวันขึ้นปีใหม่)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ร่าย
๏ สรวมสวัสดิวิไชย เกริกกรุงไกรเกรียงยศ
เกียรดิปรากฏขจรขจาย สบายทั่วแหล่งหล้า
ฝนฟ้าฉ่าชุ่มชล ไพสพผลพูลเพิ่ม
เหิ่มใจราษฎร์บำเทิง รื่นเริงรัฐมณฑล
สกลราชอาณาเขต ประเทศสยามชื่นช้อย
ทุกข์ขุกเข็ญใหญ่น้อย นาศไร้แรงเกษม
โสตเทอญ ๚
โคลง ๔
๏ บารมีพระมากพ้น รำพัน
พระพิทักษ์ยุติธรรม์ ถ่องแท้
บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องโลก ไซร้แฮ
ทวยราษฎร์รักบาทแม้ ยิ่งด้วยบิตุรงค์ ฯ
๏ เวลามีสุขล้น เหลือเหลิง
ปล่อยจิตคิดระเริง โล่งแล้ว
ถึงทุกข์แทบป่นเปิง เปลืองชีพ
เพ้อนักมักไม่แคล้ว เหตุร้ายเร็วถึง ฯ
(ลิลิตนิทราชาคริต : ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ ๒๙ วัน เมื่อปี ๒๔๒๑
เพื่อพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ในวันขึ้นปีใหม่)