วรรณคดีไทยเรื่องแรกที่กล่าวถึงชนกลุุ่มน้อย
คิดถึง นางลำหับ กับ ซมพลา
คิดถึงมาก..
นางลำหับ เป็นตัวเอกฝ่ายหญิง มีรูปโฉมสวยงามแบบสาวเงาะป่าซาไก
ทำให้หนุ่ม ๆ พากันหมายปอง จนเกิดโศกนาฏกรรม
เป็นนางในวรรณคดีระดับชาวป่าที่ไม่เคยลืม..อีกนางหนึ่ง
เพราะนางรักเดียวใจเดียวและใจเด็ดเดี่ยวมาก
บทชมโฉม ตอนฮเนาคู่หมั้นชื่นชมนางขณะเข้าพิธีแต่งงาน
พิศพักตร์เพียงประยงเมื่อทรงกลด ลออหมดมิได้มีรอยฝีไฝ
เนตรคมขำดำดังเซดสลักใจ แลวิไลปากหูดูติดตา
เรือนผมกลมขมวดเสมอสม่ำ เส้นอ่อนดำดูอร่ามงามนักหนา
กรกรายคล้ายนางกินรา นัขาฝ่าแดงดังแกล้งย้อม
อุระรัดครัดเคร่งตูมเต่งตั้ง ตะโพกผายพอกำลังไม่อ้วนผอม
ลำขาบาทาก็เรียวพร้อม งามละม่อมประมวลสิ้นทั้งอินทรีย์
มีใจเด็ดเดี่ยว ตอนนางฆ่าตัวตายตามซมพลา ด้วยความถือมั่นในความรัก
โอ้ว่าซมพลาของเมียเอ๋ย ไฉนเลยมาสั่งดังนี้ได้
พ่อเดาจิตเมียผิดเป็นพ้นไป ด้วยนึกว่าเป็นนิสัยนารี
คงกลัวตายหมายแต่จะหาสุข ถึงยามทุกข์เข้าสักหน่อยก็ถอยหนี
อันฝูงหญิงจริงอยู่ย่อมมากมี แต่ใจของน้องนี้ไม่เหมือนกัน
พ่อตายฤๅจะหมายมีผัวใหม่ ให้กินใจกันเป็นนิจคิดหวาดหวั่น
ว่าเคยสองคงปองสามไม่ข้ามวัน รสรักนั้นคงจะจางด้วยหมางใจ
รักของน้องปองแต่ให้แท้เที่ยง ไม่หลีกเลี่ยงให้เข็ดขามตามวิสัย
จะให้พ่อวายชนม์พ้นห่วงใย เมื่อเกิดไหนจะได้พบประสบกัน
ซมพลา เป็นตัวเอกฝ่ายชาย เป็นเงาะหนุ่มรูปร่างใหญ่
ร่างกายแข็งแรงล่ำสัน คล่องแคล่วว่องไว กล้าหาญ
มีความสามารถในการล่าสัตว์ ใช้อาวุธโดยเฉพาะ
การเป่าบอเลาและลูกดอก และมีวิทยาอาคมต่าง ๆ
สมกับเป็นชาวเงาะป่า ที่มักเชื่อเรื่องผีสาง
บทกลอนกล่าวถึงบุคลิกของซมพลา
มาจะกล่าวบทไป ถึงเงาะดอลซมพลาเป็นหนุ่มใหญ่
มีกำลังวังชาว่องไว ขึ้นต้นไม้แกล้วกล้าเหมือนวานร
หกคะเมนเอนหงายกายห้อยโหน โจมกระโจนร่ายไม้ไม่หยุดหย่อน
ล่ำสันสมชายทั้งกายกร เหมือนภมรหมุนคว้างกลางมรคา
(บทละครเรื่องเงาะป่า : เป็นกลอนบทละคร ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องนี้เพียง ๘ วัน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๙)
ขอบคุณผู้เยี่ยมชมทุกท่านค่ะ