O ยุวะไผท .. O
เห็นสีที่แตกต่าง - - - เห็นบนล่างที่แตกตัว
O ปัง ! -ค้อนขจร, รหัสะเลศ-
ก็ลุ-เจตะแจ้งใจ
โดยกฏและบท, ยุวะไผท-
อุปไมยจะเปรียบเหมือน
O กล่อมเห่และเล่หะก็สยาย
เพาะอุบายะบิดเบือน
พร้องคุณ-อดุลยะเสมือน-
รวิเลื่อนประภาพล้อม
O ไพศาลประการคุณะประดา
บ ระอาจะอด-ออม
เสียงแว่ว บ แล้วดุจะจะหลอม-
คุณะย้อมกะวิญญาณ
O เลอเลิศประเสริฐะบริบท
ฤ ประพจน์จะเปรียบปาน
ล้ำแถน ฤ แมน, สิริพิศาล-
ก็ตระการะเกริกไกร
O ปานเทพ, วิเลปนะประทิ่น
รสะกลิ่นระโรยไกล
พลิ้วผ่าน, สุมาลยะไฉน-
มธุ-ใคร่จะเทียมเขา ?
O โหมเห่ประเล่หะทิพะคีต-
ะประณีตะกล่อมเกลา
ภาพซึ่งคะนึงฉลุเฉลา
ก็คละเคล้าประโลมขวัญ
O ภาพซึ้งระรึงยุคะสมัย-
ะประไพก็รำพัน
พร้อมเสียงระเรียง, ภวะสวรรค์-
ก็ถวัลยะวับวาม
O เพ่งปากและพากยะประเมิน
สรเสริญ สิ เกินงาม
พลิกยุคะปลุกบุรพะยาม
ฤ จะห้าม กะ ตามหา ?
O โอ-โสตอุโฆษปะเหลาะเพราะคัม-
ภิระคำ ผิ อ้อคา
เอนลู่จะบูรณะสถา-
นะสภาวะทาสตน
O ฉาบฉวย .. เพราะด้วยตรรกะประมวล
นยะจวนจะอับจน
ภาพสร้าง .. ระหว่างพฤติวิกล
ดุจะล้นเพราะแรงไหล
O เอาทารประสาระมธุรส
บริบทะเพี้ยงใบ-
ไม้หล่นระคนคติพิสัย-
ะจะไว้ประคองหวัง
O เพียบแพงเพราะแปลงธิระจริต-
ะกระบิดกระบวน, บัง-
ร่มเยาวะเมาหะคละประดัง
ฤดิคลั่ง ก็ ช่วยขาน
O เสียงค้อนขย้อนขยะแขยง
เพราะตะแบงนะเบ่งบาน
เสียงคลั่งประนังนยะผสาน
ก็สะท้านสะเทือนไท
O พลุกพล่านบุราณคตินิยม-
ะระดม, จะครื้นใด-
เทียบเทียม-เพราะเปี่ยมมุหะ ณ นัย-
ะนะใคร่จะอวดเขา
O โยงยึดประพฤติปทัสถาน
ก็ตระหง่าน สิ รูปเงา
ล้อมวงประจงฉลุเฉลา
คติเมาหะครอบเมือง
O ใช่ผู้จะชูทิฐิวิภาษ
บทะปราชญ์ นะ เปล่าเปลือง
ใช่ผู้จะรู้นยะยะเยื้อง
ฉละเปลื้อง มุ ปรักปรำ
O โหมเห่ ก็ เล่หะทุพพล
อนุสนธิด้วยธรรม
ปรุงบทเหมาะรส .. เฉพาะจะสัม-
ผัสะค้ำ กะ เคลือบแคลง
O ขรมโข สิ โมฆะกรรมะบท
อติพจนะเพียบแพง
พร้อมเพ็ญก็เป็นยุวะแขนง-
เหมาะตะแบง – จะแทงใบ
O ตั้งกองสนองคุรุมุหัน-
ตะผจัญก็ปวดใจ
หมอบคู้ บ รู้ฤตุ, อุทัย
ชละไหล ฤ หม่นหลัว
O โอ-เยาวะเคล้าพิษะขนบ
ดุจะกบ นะ หมอบกลัว
พู้นฟ้าวลาหกะ ฤ ถัว-
นิละทั่วกะลาตน ?
O เสียงค้อนสะท้อนพฤติวิกฤต
ตรรกะ, คิด, วิถีคน
ตอกย้ำกลัมพ-ระและฉล-
ะกระวน นะ ไป่เว้น
O เพียงค้อนขจรกฏะประหลาด
บริภาษ ก็ เพียบเพ็ญ
ฝุ่นฝนละหล่นนภะกระเซ็น
รณะเข่น จะ เร้นคอย !
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=03&group=2&gblog=103