O เพ็ญเดือน ๖ .. O
ชมพูทวีป พศ.(-๔๕)
O งดงาม ณ ยามธรรมะประนอม-
สัตะหลอมประโลมลง-
แนบดำริทำนุอุปสง-
คะประจงขจิตใจ
O แขเพ็ญ ฤ เร้น สิริพิลาส
ขณะภาสะอำไพ
ฟ้านิลและจินตนะไฉน-
อุปไมยจะเปรียบเหมือน
O บนฟ้า .. วลาหกะกระหยับ
รวิดับ, และขับเดือน-
ลอยดวง ณ สรวง, ภวะสะเทื้อน-
ดุจะเคลื่อน ณ ใจคน
O ลมเห่ และเจตนะขจ่าง-
ปะทุกลางประเล่ห์กล
เพิกเหตุและเภทะทุระพล
ปะทะรณและทำลาย
สุวรรณภูมิ พศ.๒๕๕๖
O ท่ามกลางพยางคะบริภาษ
วิปลาสะกำจาย
เลือนรางระหว่างรัถยะหมาย
พิเคราะห์คล้าย บ่ ใกล้เคียง
O เขาว่า .. เพราะว่า - ผิวะสดับ
เสนาะศัพทะสำเนียง
ปานว่าจะพาทิพยะเสียง
ปะเหลาะเคียงประโลมขวัญ
O ยินว่า .. เพราะว่า - คติวิจิตร
ผิวะคิดก็คมครัน
จึงว่า .. เพราะกว่าอรรถะสวรรค์
กละคันถะควรขวาย
O ยากแต่จะแปรศิระชะเง้อ
ผิวะเพ้อเพราะบรรยาย
ยากเข็ญจะเร้นอัตะสยาย
ธิระผ้ายและเพียรเผย
O เกินกาลจะผ่านอริยะวาท
อธิชาติชมเชย
ล้ำบทและพจน์ชินะเฉลย
สัจะเกยมโนกรรม
O จึง-ภาษประหลาดระบุระบือ
มุหะถือผิว์คือธรรม
จึงพาละผ่านบทะกลัม-
พระซ้ำกระหน่ำเสริม
O อักโขมโนทัศนะอ้าง
นยะต่าง มุ แต่งเติม
ผ่านวาทะอาตมะเฉลิม
จิตะเหิมบ่เคยหาย
O ดั่งโลมและโหมวตะสะบัด
ชะธวัชะปลิวปลาย
อวดอยู่ก็ภูษิตะสยาย
สิละม้ายจะง่ายเห็น
O เฉดรงคะบ่งรัฐะประจักษ์
บริรักษะร่มเย็น
บอกผู้ศัตรูสุขุมะเพ็ญ
ผิวะเร้นจะรุกราน
O ลมฤทธิ์อวิชช์ผิวะกระชั้น
ฤจะทันจะทัดทาน
เห็นแต่จะแปรมุหะผสาน
อวตาระรูปหลง
O มิจฉาประดาขณะกระหวัด
ปริวัตระเวียนวง
ฤๅรู้จะสู่มรรคะประสงค์
ชินะองคะสืบสอน
O อวดอยู่ก็ภูษิตะประหลาด
วิปลาสะอาภรณ์
แรงฤทธิ์อวิชช์ขณะสะท้อน
ฤ จะผ่อนสะพัดผืน
O หลงศรัทธ์ระบัดทิฐิพิลาป
บุญะบาปะกลบกลืน
เว้นผู้เพราะรู้ธรรมะจะขืน
ประลุตื่น ณ ในตน
O เศร้านั้นเพราะนันทิวิปลาส
คติทาสะจำนน
สิ้นหวัง ฤ ดั่งอุตริฉล
ทุพพละปล้นธรรม
O งดงามก็ยามทิฐิวิพุธ
บริสุทธิเนื่องนำ
นัยแท้จะแผ่ศักยะล้ำ
สัทะค้ำบ่คลายคลอน
O อัญชลิตพระพุทธน้อม - - - นำใจ
ต่างประทีปชวาลไข - - - ขจ่างเรื้อง
ปลิดป่นมืดหม่นใน - - - สำนึก สิ้นนา
ครวญใคร่หมายปลิดเปลื้อง - - - เท็จถ้อยเดียรถีย์ ฯ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2013&date=24&group=2&gblog=76