หน้า ๕๙
๏ ในครานั้นปานว่าจวนบ้าแล้ว
เสียงแหบแผ่วโหยหายคล้ายเสียงผี
เดินโซเซเร่ร่อนในป่าพนาลี
นำกายีสู่ทิศใดมิได้รู้
๏ ยังเชื่อแน่แท้รักพระนลราช
จะมิขาดคำมั่นผูกพันอยู่
สิ่งชั่วร้ายใดสำแดงแฝงดนู
มันเป็นผู้ก่อภัยให้เกิดกรรม
๏ จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน
“พวกหมู่มารตนใดที่กรายกล้ำ
อัปลักษณ์กักขฬะลอบกระทำ
คืนเจ็บช้ำพันเท่าทบทวี
๏ ถึงชาติไหนให้กมลไม่พ้นทุกข์
เพลิงนรกกลางอกลุกจงทุกที่”
จบคำแช่งด้วยแรงเศร้าเหงาฤดี
ออกเรียกหาสวามีก้องป่าไป
๏ พร่ำว่าทูลกระหม่อมจอมใจฉัน
มิเคยพรากจากกันแม้วันไหน
ตั้งแต่เริ่มเข้าวิวาห์กับราชัย
อยู่ชิดใกล้ทุกโอกาสมิคลาดคลา
เสียงแหบแผ่วโหยหายคล้ายเสียงผี
เดินโซเซเร่ร่อนในป่าพนาลี
นำกายีสู่ทิศใดมิได้รู้
๏ ยังเชื่อแน่แท้รักพระนลราช
จะมิขาดคำมั่นผูกพันอยู่
สิ่งชั่วร้ายใดสำแดงแฝงดนู
มันเป็นผู้ก่อภัยให้เกิดกรรม
๏ จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน
“พวกหมู่มารตนใดที่กรายกล้ำ
อัปลักษณ์กักขฬะลอบกระทำ
คืนเจ็บช้ำพันเท่าทบทวี
๏ ถึงชาติไหนให้กมลไม่พ้นทุกข์
เพลิงนรกกลางอกลุกจงทุกที่”
จบคำแช่งด้วยแรงเศร้าเหงาฤดี
ออกเรียกหาสวามีก้องป่าไป
๏ พร่ำว่าทูลกระหม่อมจอมใจฉัน
มิเคยพรากจากกันแม้วันไหน
ตั้งแต่เริ่มเข้าวิวาห์กับราชัย
อยู่ชิดใกล้ทุกโอกาสมิคลาดคลา