Re: ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
21 พฤศจิกายน 2024, 05:29:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์  (อ่าน 186383 ครั้ง)
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« เมื่อ: 16 สิงหาคม 2018, 09:39:PM »



วิชชุมมาลาฉันท์ ๘

(๑) ตอนวัสสการพราหมณ์ถูกเนรเทศแล้วเดินทางไปยังนครเวสาลี

     แรมทางกลางเถื่อน     ห่างเพื่อนหาผู้
หนึ่งใดนึกดู                     เห็นใครไป่มี
หลายวันถั่นล่วง              เมืองหลวงธานี
นามเวสาลี                       ดุ่มเดาเข้าไป 
     ผูกไมตรีจิต                เชิงชิดชอบเชื่อง
กับหมู่ชาวเมือง               ฉันท์อัชฌาสัย
เล่าเรื่องเคืองขุ่น              ว้าวุ่นวายใจ
จำเป็นมาใน                     ด้าวต่างแดนตน
     เขาแสนสมเพช          สังเกตอาการ
แห่งเอกอาจารย์              ท่าทีทุกข์ทน
ภายนอกบอกแผล           แน่แท้ทุพพล
เห็นเหตุสมผล                ให้พักอาศัย
     ข่าวคราวกล่าวกัน     อื้อพลันแพร่หลาย
ลือล่ำกำจาย                    แจ้งรั่วทั่วไป
มนตรีกราบทูล               เค้ามูลขานไข
แด่องค์ท้าวไท                แหล่งหล้าลิจฉวี

(๒) ตอนราชาลิจฉวีแตกความสามัคคีไม่ไปร่วมประชุมเหมือนเดิม
 
     จึ่งให้ตีกลอง           ป่าวร้องทันที
แจ้งข่าวไพรี                 รุกเบียนบีฑา
เพื่อหมู่ภูมี                   วัชชีอาณา
ชุมนุมบัญชา                ป้องกันฉันใด
     ราชาลิจฉวี              ไป่มีสักองค์
อันนึกจำนง                  เพื่อจักเสด็จไป
ต่างองค์ดำรัส               เรียกนัดทำไม
ใครเป็นใหญ่ใคร           กล้าหาญเห็นดี
     เชิญเทอญท่านต้อง    ขัดข้องข้อไหน
ปรึกษาปราศรัย              ตามเรื่องตามที
ส่วนเราเราใช่                  เป็นใหญ่ยังมี
ใจอย่างผู้ภี                      รุกปราศอาจหาญ
     ต่างทรงสำแดง          ความแขงอำนาจ
สามัคคีขาด                     แก่งแย่งโดยมาน
ภูมิศลิจฉวี                      วัชชีรัฐบาล
บชุมนุมสมาน                 แม้แต่สักองค์


สามัคคีเภทคำฉันท์
บทประพันธ์ของ นายชิต  บุรทัต
กวีในสมัยรัชกาลที่ ๖   


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

@free, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 2 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s