Re: ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
21 พฤศจิกายน 2024, 05:54:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ซาบซึ้งตรึงตรา..อักษรารังสรรค์  (อ่าน 186394 ครั้ง)
พี.พูนสุข
กิตติมศักดิ์
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1269
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,104


ทิวาฉาย ณ ปลายผา


« เมื่อ: 08 สิงหาคม 2018, 10:08:PM »

               ซึ้งจัง ซึ้งจัง

          ดาวประดับราตรี

หนึ่ง   เราต่างเป็นดวงดาวกลางราวฟ้า
          ประกายกล้าริบหรี่ - หรือปรี่แสง
          อยู่ที่ผลของงานผสานแสดง
          จะร้อนแรงหรือหรุบหรู่กลางหมู่ดาว
          ห้วงนภาคราแรมไม่แจ่มแสง
          เมื่อมีแรงดาริกาประดับหาว
          แต่ละดวงรัศมีสีสกาว
          บ้างเพริศพราวบ้างกะพริบระยิบระยับ

สอง   นักดาราศาสตร์ชี้มีความหมาย
          บางดาวพรายนามเพราะเสนาะศัพท์
          หากสะท้อนสุริย์ศรีที่แวววับ
          จึ่งประทับจับในหัวใจคน
          แต่บางคราวที่ช่วงโชติโรจน์รังสี
          ที่ตนมีสีสว่างกระจ่างหน
          อานเลือนรางกลางแสงสุริยน
          กลับถกลก่องเก็จเพชรราตรี

สาม   กวีแก้วแพร้วพร่างกลางบรรณภิภพ
         บ้างเลอลบบ้างแพรวพร่างบ้างริบหรี่
         อาจเรืองรองอาจหมองหม่นบนราตรี 
         แต่กวีคือกวี...ล้วนมีแวว
         จะเรืองรองผ่องพิภพนพรัตน์
         เจิดจรัสเพริศพจีกวีแก้ว
         แต่ก็ต่างเป็นดาวอันพราวแพรว
         ซึ่งล้วนแล้ว"แวว"ประดับกับราตรี

  สี่   อย่าดูหมิ่นมวลกวีเลย...ที่รัก
       แม้จำเรียงเพียงประจักษ์เพื่อศักดิ์ศรี
       อาจต่ำต้อยด้อยราคามีราคี
       แต่กวีก็ดั่งดาวพรั่งพราวฟ้า
       จักรวาลล้านล้านดาวพร่าพราวแสง
       อาจเรืองแรงช่วงโชติรุ่งโรจน์หล้า
       อาจริบหรี่เพียงระยิบพริบนภา
       แต่หลากล้วนเป็น"ดวงตาแห่งราตรี"

               ประยอม  ซองทอง   



      ไหน...ศรัทธาอันยืนยง

เมื่อเหม่อดูหมู่ดาวกลางราวฟ้า
ดาริกาล้วนระยิบกะพริบแสง
หากดวงเดียวเทียวที่เพริศเจิดแจรง
ประกายแกร่งก่องโฉม...คือ"โคมทอง"
ผองผกากรุ่นกลิ่นประทิ่นฉม
ล้วยซบซมเมื่อรังสีรวีส่อง
แต่ดอกที่เด่นไร้ใครเป็นรอง
บังอาจจ้องแสงฉาน...คือ"ทานตะวัน"
เชิงชายหาดลาดยาวทรายพราวยิบ
ลิ่วไกลลิบลับฟ้าโก่งมากั้น
แม้ด้นดั้นฟั้นฤดีอยู่กี่วัน
ก็สุดสรรเพียงเพชรสักเม็ดเดียว
ในดอนดงพงลำเนาโขดเขาสูง
ทั้งยางยูงหลากสล้างใช่ร้างเปลี่ยว
แต่ที่กล้าแบกลมเป็นคมเคียว
มี"สน"เทียวที่กล้าแกร่งยอดแทงฟ้า
ฉันดั้นด้นค้นหาเป็นบ้าหลัง
ไหนที่ตั้งจิตมาดปรารถนา
ไหน"คน"ที่ยืนหยัดด้วยศรัทธา
ไม่อ่อนข้อท้อท่าในอาธรรม

        ประยอม  ซองทอง

            มิถุนายน  ๒๕๐๒

นายประยอม  ซองทอง  เป็นชาวนครพนม
ใช้นามปากกาว่า  ลักขณ์ เรืองรอง,  ระฆังทอง,
เจ้าพระยา,  ธารทอง,  เพรืองชมพู  และ สุดสงวน
ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ
ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ  สาขาวรรณศิลป์  ปี ๒๕๔๘

 เคารพรัก


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, @free, พิณจันทร์, ลายเมฆ, ธนุ เสนสิงห์

ข้อความนี้ มี 5 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 สิงหาคม 2018, 12:26:PM โดย พี.พูนสุข » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s