ในสมัยนั้น เป็นประเพณีนิยม ของเหล่าพระเซน ก็คือ เมื่อจาริกแสวงบุญไปวัดใดๆ วัดเซนวัดนั้นต้องถามตอบปริศนาธรรม เพื่อทดสอบภูมิธรรมก่อน ที่จะให้ที่พำนักแก่พระอาคันตุกะ
อยู่มาวันหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาส สั่งให้พระผู้น้องไปต้อนรับพระอาคันตุกะ ด้วยเหตุต้องออกไปธุะนอกวัด .........เมื่อได้นั่งบนอาสนะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งสององค์ พระผู้มาเยือนจึงตั้งปริศนาธรรมก่อนโดย "กำมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วขูนิ้วชี้ขึ้นบน" พระเจ้าบ้านถึงกลับอึ้ง แล้ว "กำมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วขูนิ้วขึ้นบนสองนิ้ว" พระอาคันตุกะ โค้งให้ด้วยความเคารพจึง "กำมือขึ้นข้างบน แล้วชูนิ้วขึ้นข้างบน สามนิ้ว " พระเจ้าบ้านหน้าดุดัน คุกเข่าขึ้น "กำหมัดขึ้น พร้อมควงไปในอากาศ" พระอาคันตุกะแสดงท่าละอายใจ รีบเดินเข่าถอยหลังออกมา
ที่ประตูวัด ท่านเจ้าอาวาสกลับมาถึง พระอาคันตุกะเดินสวนออกไป ท่านเจ้าอาวาสจึงถาม "คืนนี้ท่านไม่หยุดพักแล้วหรือ?" พระอาคันตุกะก้มหน้าลงตอบ "ภูมิธรรมของผมยังด้อยไปไม่อาจรบกวนท่านได้ ขอรับ" ท่านเจ้าอาวาสจึงขอให้พระอาคันตุกะเล่าเรื่องราวให้ฟัง
พระอาคันตุกะจึงเล่า "กระผมชูมือขึ้นและยกนิ้วชี้ขึ้นไป หมายจะแสดงว่า พระพุทธองค์ผู้ทรงมีพระเมตตาไพศาล ประดุจดังดวงอาทิตย์ ที่ส่องแผ่ความสว่าง ระงับความมืดมนแห่งอวิชา แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย" แล้วพระอาจารย์องค์นั้นจึง "กำมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วชูนิ้วมือขึ้นมา 2 นิ้ว ก็ซึ่งแสดงความหมายว่า อันพระศาสดาของพวกเราแม้จะเสด็จเข้าสู่พระปรินิพานแล้วแต่พระธรรมที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ก็ยังเป็นแสงสุริยะนำทางสรรพสัตว์ทั้งหลายต่อไป" กระผมจึงยกขึ้น 3 นิ้ว หมายแสดง ว่า เมื่อมีพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้าแล้ว ยังมีพระสงฆ์สาวกแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ประพฤติขอบแล้ว ปฏิบัติดีแล้ว มุ่งตรงสู่พระนิพพาน เป็นบุตรแห่งพระพูทธองค์ที่ทรงชี้นำทาง" พระอาจารย์ท่านนั้นจึง " กำมือขึ้นแล้วควงไปในอากาศ ดังจะหมายว่า คุณแห่งพระพุทธเจ้า คุณแห่งพระธรรมเจ้า คุณแห่งพระสงฆ์เจ้า เข้ากลมเกลียวกันเป็นพระรัตนตรัย เป็นสรณะอันผ่องใสในโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว
เมื่อท่านเจ้าอาวาสกลับถึงทีพัก พระน้องชายยืนรอต้อนรับอยู่ ท่านจึงทัก "ธรรมที่เธอได้สนธนานั้น นับว่าเป็นธรรมแห่งผู้เจริญ เป็นธรรมแห่งอริยชน" พระน้องชายท่านทำท่างวยงง แล้วตอบ "มิใช่นะ ขอรับท่านเจ้าอาวาส" ท่านเจ้าอาวาสจึงขอให้ พระผู้น้องเล่าเรื่องราวแห่งการถามตอบปริศนาธรรมให้ท่านฟัง
พระผู้น้องจึงเล่า "พระท่่านนั้น พอเห็นหน้ากระผม เขายกขึ้นนิ้วเดียว ดูถูกว่า กระผมตาพิการเหลือตาเพียงข้างเดียว กระผมได้แต่ข่มใจ.... ตอบโดยยกนิ้วขึ้นมา 2 นิ้ว หมายแสดงให้เห็นว่า ยินดีกับท่านด้วยที่มีตาทั้งสองข้างไม่พิการเหมือนกระผม ......ยิ่งร้ายกว่านั้นพระท่านนั้นยกขึ้น 3 นิ้ว เย้ยอีกว่าเราสองคนรวมกันมีแค่ 3 ตา...กระผมเหลืออดสะกดไม่อยู่ กำลังกำหมัดต่อยไป แต่เจ้าพระรูปนั้น ถอยกลับออกมาก่อนครับ....." เอวังฯ
*************************************************************************************************************
เหมือนที่ เช็คสเปียร์ เขียน " Two folks look through same hole,one sees mud, one sees star" แปลโดยท่าน ฟ.ฮีแลร์ แห่งอัสสัมชัญ ว่า
สองคนยลตามช่อง
คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
คนหนึ่งตาแหลมคม
มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
คนหนึ่งตาแหลมคม
มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว
weazu123 พุธที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๑