~*~ แยกฟ้าดิน ~*~
๐ ถึงวันที่เจ็บแค้นแสนสาหัส
ตระบัดสัตย์ตัดสินว่าสิ้นหมาย
เหมือนแร่เนื้อเถือร่างจนปางตาย
มีชีพอยู่ก็คล้ายจักวายวาง
๐ เพียงสัมผัสลมโชยราวโบยแส้
เฆี่ยนซ้ำลงรอยแผลเกิดแก่ร่าง
มันยอกลึกผนึกแน่นถึงแก่นกลาง-
อกเสียจนสุดอ้างว่าปางใด
๐ หลบหลืบซอกโลกร้างอ้างว้างจิต
ปล่อยให้พิษแผ่ซ่านสะท้านไหว
ความเยียบเย็นลามทั่วถึงขั้วใจ
ตอกตรึงไว้แทนที่เคยมีรัก
๐ ผ่านคืนผันวันวนก็ทนอยู่
แม้สุดกู้ดวงมนที่ป่นปรัก
เฝ้ากอบเก็บเศษซากแม้ยากนัก
รอยแตกหักยังเหลืออยู่เจือทรวง
๐ เนิ่นนานสักเพียงใดมิได้นับ
จนเจ็บแค้นมอดดับเลือนลับล่วง
ได้รู้ซึ้งคำว่ามายาลวง
เมื่อทอนบ่วงบาศทัณฑ์สะบั้นลง
๐ ขอตั้งจิตอธิษฐานจากกาลนี้
จวบชีวีวอดวายกายป่นผง
แม้ฝอยฝุ่นอณูดินทั้งสิ้นคง
อย่าดำรงร่วมถิ่นแผ่นดินเดียว
๐ ให้แยกสุดเขตฟ้ามหาสมุทร
ขอกร่อนกุดเพรงกรรมอย่านำเกี่ยว
พันธนาการใดให้คลายเกลียว
อย่าน้อมเหนี่ยวกลับมาร่วมฟ้าดิน
วลีลักษณา